Seoul Dakgalbi - Korean Restaurant at Piman 49, Sukhumvit 49, Bangkok Review
โซล ทักคาลบี้ - ร้านอาหารเกาหลี พิมาน 49 สุขุมวิท 49
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
Seoul Dakgalbi - Korean Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ช่วงเดือนสองเดือนนี้ผมกับทีมงานก็ไปกินใน community mall แห่งใหม่นามว่า พิมาน 49 ณ ซอย สุขุมวิท 49 กันค่อนข้างบ่อยครับ ในรีวิวนี้ก็เป็นอีกครั้งนึงในเวิ้งนี้กับร้าน Seoul Dakgalbi ร้านอาหารเกาหลีแบบแท้ ๆ บนชั้น 3 ของตึกนึงในเวิ้งนี้ คำว่า Dakgalbi นั้นหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว จากกระแส Korea Fever ในช่วงหลัง ๆ ในบ้านเรา และทัวร์เกาหลีราคาประหยัดที่หลาย ๆ คนเคยใช้บริการ และทัวร์ทุกทัวร์ก็จะต้องมีแวะพาไปกินเจ้าเมนูเกาหลีแท้ ๆ นี้กันทั้งนั้น
Dakgalbi นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมือง Chuncheon จังหวัด Gangwon โดยจะเป็นการนำเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้น ๆ ไปผัดบนกระทะเหล็กขนาดใหญ่ คลุกกับ gochujang (โคชูจัง หรือ พริกแป้งเปียก , น้ำพริกสไตล์เกาหลี) กับผักต่าง ๆ เช่น ผักกะหล่ำ, มันเทศ, หัวหอม อะไรแบบนี้ เจ้าเมนูนี้ผมเคยกินครั้งนึงตอนไปทัวร์เกาหลี จำได้ว่าไม่ค่อยชอบสักเท่าไร ออกแนว ไม่ปลื้มเลยก็คงไม่ผิดนัก มางวดนี้ก็เลยแอบเตรียมใจมาเล็กน้อย
ร้าน Seoul Dakgalbi ณ Piman 49 แห่งนี้เข้าร้านไปแว่บแรกอาจจะไม่ค่อยรู้สึกถึงความเป็นเกาหลีมากนักเพราะว่าไม่มีของประดับ หรืออะไรที่บ่งบอกความเป็นเกาหลีสักเท่าไหร่ นอกซะจากกระทะเหล็กขนาดยักษ์ที่เจ้าของร้านสั่งมาเองโดยตรงจากเมือง Chuncheon ที่เป็นต้นตำรับของเมนู Dakgalbi นี้ โดยเจ้ากระทะนี้มีความพิเศษตรงที่หนัก (หนัก 10 กว่ากิโล) และเก็บความร้อนไว้ได้นาน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าถ้าจะกิน Dakgalbi แท้ ๆ ต้องใช้กระทะแบบนี้เท่านั้น
ร้าน Seoul Dakgalbi แห่งนี้ได้รับการดูแลและจัดการจากเจ้าของร้าน คุณฮัน สาว(ใหญ่นิด ๆ) ชาวเกาหลีแท้ ๆ ผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตแอร์ของสายการบินไทย และคุ้นเคยกับเมืองไทยเป็นอย่างดี และมีความชอบในเมืองไทย เลยอยากจะเปิดร้านอาหารเกาหลีแท้ ๆ ขึ้นมาให้คนไทยได้ลิ้มลองกัน จึงเป็นที่มาของร้านนี้นี่เอง อาหารของร้านนี้อาจจะยังมีไม่ค่อยเยอะสักเท่าไรเพราะว่าเพิ่งจะเปิดมาได้ไม่นาน โดยมีเมนูหลัก ๆ ให้เลือกแค่ 5-6 อย่างแค่นั้น ซึ่งทางคุณฮันบอกว่าจะค่อย ๆ ทำการเพิ่มเมนูไปเรื่อย ๆ ทีหลัง
มื้อนี้กินไป 4 อย่างครับ ตามนี้เลย
- ชุดไก่ผัดซอสทัคคาลบี้ (Spicy stir-fried chicken with vegetable - สะโพกไก่ คัดพิเศษหั่นขนาดกำลังดีหมักอย่างพิถีพิถัน เริ่มต้น 2 ชุดขึ้นไป 275 (x2) ) : เมนูหลักของทางร้านและเป็นชื่อร้านเลยแบบนี้ แน่นอนว่าทางร้านต้องภูมิใจนำเสนอสุด ๆ ล่ะครับ ทางร้านเลือกเอาแต่เฉพาะสะโพกไก่มาทำ ซึ่งเป็นส่วนที่ผมชอบที่สุด เพราะว่ามันจะนุ่ม จะฉ่ำ ที่สุดในตัวไก่ตัวนึงแล้ว และทางร้านยังให้มาแบบติดหนังด้วยอีกต่างหากยิ่งโดนใจเข้าไปใหญ่ | ตัวผักนั้นก็จะมีมาไม่ค่อยหลากหลายชนิดเท่าไร แต่จะค่อนข้างเยอะในแง่ปริมาณ มีเห็ดออรินจิ, กะหล่ำปลี, ต้นหอมญี่ปุ่น, มันเทศ และพอทุกอย่างพร้อมแล้ว พนักงานก็จะมาลงมือผัดให้เรา
เจ้า ทัคคาลบี้กระทะนี้ พนักงานก็ยืนผัดให้เราอย่างขยันขันแข็ง จากตอนแรกที่ทุกอย่างดูแยกส่วนกัน ไก่, gochujang , ผัก แต่ตอนหลังนี่คือผสานกันเป็นถาดอาหารสีแดง ๆ ส้ม ๆ ถาดเดียวเลย ซึ่งพอสุกแล้วพร้อมกิน ทางพนักงานก็จะปิดไฟแล้วเราก็คีบนั่งกินกันต่อเลย บอกตรง ๆ ว่าเห็นหน้าตาแว่บแรกแล้วผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยอยากกินอยู่เหมือนเดิม แต่พอได้กินเข้าไปแล้ว โอ้โห อร่อยคนละเรื่องกับที่เคยกินที่เกาหลีเลยครับ ไก่เนื้อนุ่ม ซอสรสชาติดี ผักก็นุ่ม ๆ กรอบ ๆ บ้าง อร่อยดี และก็ทั้งเนื้อไก่และผักนี่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำหมด ออกแบบมาให้ใช้ตะเกียบคีบกินจริง ๆ
และพอกินไปสักพัก พร่องไปสักครึ่งนึงแล้ว ทางร้านก็มีการนำ ข้าวผัดชีส (Fried rice with cheese - 120 บาท) มาใส่เพิ่ม โดยเจ้าข้าวนี้ก็จะมาผัดเคียงคู่กันกับตัว ทัคคาลบี้ที่เคยผัดเอาไว้แล้วนี่แหละ โดยข้าวนี้จะเหมือนกับคลุกกับซอสมาแล้ว ผัดรวมกับผักกาดหอมและสาหร่าย และก็เพิ่มมอซซาเรลล่าชีสเข้าไปอีกหน่อยนึง พอเอาข้าวผัดร้อน ๆ หุ้มปิดทับชีสไว้ ชีสก็จะละลายเยิ้ม ๆ ยืด ๆ ข้าวก็จะแฉะขึ้น อร่อยในระดับนึงเลย แต่ผมว่าตัว ทัคคาลบี้นั้นอร่อยกว่า แต่มีเจ้าข้าวนี่มาก็ช่วยแก้เลี่ยน ปรับเปลี่ยนรสชาติดีครับ
พิซซ่าเกาหลี (Onion pancake - 295 บาท) - เมนูนี้เกิดมาก็เพิ่งเคยกินครับ มันคล้าย ๆ พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ Okonomiyaki นี่แหละ แต่จะใช้ผักต่างกัน ใช้เป็นหัวหอมและต้นหอมเยอะ ๆ แทน ผสมกับปลาหมึกหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ และก็จะใช้แป้งน้อยกว่าก็เลยมาแบบแห้ง ๆ กรอบ ๆ กว่านั่นเอง จานนี้ เป็นรสชาติ และ texture ที่แปลกไปอีกแบบครับ คนละเรื่องกับตัวพิซซ่าญี่ปุ่นที่เคยกินมาเลย ก็แปลกและอร่อยดีเหมือนกันครับ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ผสมงาขาว ซึ่งปรุงขึ้นมาเอง และทางคุณฮันเจ้าของร้านบอกว่าเป็นเมนูที่ขายดีของเค้าเลยล่ะ ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ อะไรทำนองนั้น
บูลโกกิ (320 บาท) เมนูนี้ชอบที่สุดในมื้อนี้เลยครับ คำว่า Bulgogi นั้นแปลว่าเนื้อย่าง (เนื้อไฟ) ซึ่งที่ผมเคยกินมาจะเป็นแบบเป็นเนื้อย่างมากกว่า แต่จานนี้ที่ทางคุณฮันนำมาให้นี่เหมือนจะออกแนวเป็นเนื้อชาบู ๆ หม้อไฟมากกว่า คือเป็นเนื้อแล่บาง ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด ๆ ชนิดต่าง ๆ ซึ่งผมก็ไม่กล้าไปแย้งคนเกาหลีแท้ ๆ หรอกครับว่ามันคือ Bulgogi จริง ๆ เป็นยังไงกันแน่ จานนี้อร่อยครับ น้ำซุป รสชาติดี, ผักสดอร่อย และก็เนื้อนุ่ม ๆ อร่อยดีมาก
มื้อนี้ปิดท้ายด้วยไอศครีม Melona หรือไอศครีมเมลอนเกาหลียอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มมื้อนี้ได้เป็นอย่างดีครับ
สรุป อาหารเกาหลีแท้ ๆ ในแบบที่หากินไม่ค่อยได้กับ Dakgalbi ณ ร้าน Seoul Dakgalbi ในมื้อนี้นี่ก็ค่อนข้างประทับใจเลยล่ะครับ อาหารอร่อย ราคาก็ไม่ค่อยแพง การบริการก็ดี จะมีติดก็ตรงที่เมนูอาหารน้อยไปหน่อยนี่แหละครับ ไม่ใช่อะไร เพราะว่า ผมอยากจะลองกินเมนูอื่น ๆ จากฝีมือของคุณฮันมากกว่านี้แค่นั้นล่ะครับ ใครที่เบื่อ ๆ อาหารเกาหลีที่มีแต่แนวปิ้งย่างในบ้านเรา แล้วอยากลองเมนูใหม่ ๆ แล้วล่ะก็ มาจัดกันได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment