ซังเคียวได - ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิบาร์ - 24th อเวนิว สุขุมวิท 24
Overall Score 8.5/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4/5
Service 4.5/5
Value 3/5
Sankyodai - Japanese Cuisine & Sushi Bar on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ร้าน Sushi ในบ้านเรา นี่ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะถึงจุดอิ่มตัวแล้วในกรุงเทพมหานครของเรา เพราะเห็นช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ร้าน Sushi เฉพาะทาง (หรือจะไม่เฉพาะทางมีอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่นขายด้วย) นั้นเปิดตัวกันมาเยอะแยะมากมายเหลือเกิน แต่เท่าที่ดู Trend ในตอนนี้ ผมว่าร้านซูชิยังไงก็ยังไม่น่าจะถึงจุดอิ่มตัวกันง่าย ๆ จากความชื่นชอบของคนไทยเราต่ออาหารญี่ปุ่นแนวเพื่อสุขภาพนี้ (คืออ้วนน้อยกว่าอาหารประเภทอื่น) , ทำเลของร้านที่ยังกระจุก ๆ ตัวอยู่แค่ในกรุงเทพชั้นใน (แม้ว่าช่วงหลังจะมีบางร้านไปเปิดตามชานเมือง หรือไกลจากกรุงเทพชั้นในขึ้นมาหน่อยบ้างแล้วก็ตาม) และ demand ของลูกค้าที่ยังคงสูงต่อเนื่องทั้งจากคนไทย หรือ คนญี่ปุ่น (หรือชาติอื่น) ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเองก็ตาม
ร้าน San Kyo Dai ในรีวิวฉบับนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้าน Sushi เฉพาะทางน้องใหม่ในกรุงเทพมหานครของเรา ร้านตั้งอยู่ที่ 24th Avenue ในซอยสุขุมวิท 24 ใน community mall แห่งเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับโรงแรม Davis และมีร้านอาหารอื่น ๆ ร่วมใช้พื้นที่อยู่ประมาณ 4-5 ร้าน ร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 2 เดือน (เขียนเมื่อวันที่ 17 June 2013) ร้านเป็นร้าน Sushi Bar ขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีส่วน Counter หรือส่วนบาร์ประมาณ 10 ที่เคียงคู่กันไปกับส่วนโต๊ะธรรมดาประมาณ 20 ที่ บรรยากาศร้านตกแต่งค่อนข้างเป็นญี่ปุ่นมากทั้งจากตัววัสดุตกแต่งเอง , ตัวคนปั้นซูชิ หรือแม้แต่ตัวพนักงานเองก็ตาม หรือแม้แต่ชื่อก็แบบมีความเป็นญี่ปุ่นจ๋า ไม่ใช่ชื่อร้านแบบ XXX Sushi เหมือนหลาย ๆ ร้านน้องใหม่ช่วงหลังที่เปิดตัวกันมา
แม้ว่าทุกอย่างจะดูเป็นญี่ปุ่นจ๋ามาก ๆ สำหรับร้านนี้ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าของร้าน, ตัวคนปั้นซูชินั้น เป็นคนไทยทั้งหมด แต่เป็นกลุ่มคนที่ใส่ใจและพิถีพิถันในตัวคุณภาพอาหารแต่ละจานอย่างมาก ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ ตัววัตถุดิบที่เป็นการคัดเอาของคุณภาพชั้นดีมาอีกทีนึง คือทางเจ้าของร้านบอกว่าวัตถุดิบของทางร้านนั้นจะให้ Supplier ไปเลือกมาจากที่ Tsukiji Fish Market ต่ออีกทีนึง ไม่ใช่แต่ว่าสั่ง import มาโดยตรงจากที่ญี่ปุ่นเท่านั้น และของทุกอย่างไม่มีการแช่ฟรีซ ให้ของเสียคุณภาพ (อาจจะยกเว้นกับอะไรที่ Freeze มาตั้งแต่ผู้ผลิต หรือชาวประมงแล้ว เช่น Blue Fin Tuna ยังไงจับขึ้นมาจากทะเลก็ต้องแช่ไนโตรเจนเหลวก่อนแล้ว หรือเนื้อวัว Matsuzaka ที่ยังไงก็ต้องมีการ Freeze มาอยู่แล้ว) | ตัว condiment หรือเครื่องปรุง, ของกินร่วมกับอาหาร ทางร้านก็ผลิตขึ้นมาเองหมด ไม่ว่าจะตัว Shoyu, Mayonaise, Ponzu Sauce หรืออะไรก็ตามที่เป็นส่วนเติมเต็มรสชาติอาหาร เพราะว่าทางร้าน San Kyo Dai ต้องการให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด และเข้ากันกับอาหารของทางร้านที่สุด (วาซาบิของทางร้านก็ใช้ของสดครับ ขูดกันจากต้นสด ๆ เลย (ต้นนึงประมาณ 2,000 บาทนะครับ ผมเพิ่งรู้ราคาเหมือนกัน แพงดีเนอะ) )
อาหารของทางร้าน San Kyo Dai @ 24th Avenue สุขุมวิท 24 แห่งนี้เนื่องจากว่ามีพื้นที่สำหรับครัวร้อนด้วย ก็เลยทำให้อาหารนั้นค่อนข้างจะครอบคลุมไปถึงอาหารที่นอกเหนือจาก Sushi พอสมควร ตัว Sushi หรือ Sashimi นั้นมีปลาให้เลือก หลากหลาย และเยอะ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นระดับแนวหน้า , ระดับ Premium เลย (ทางร้านบอกว่าหลังจากนี้จะมีการเพิ่มพวกปลาเฉพาะฤดูกาลเข้ามาด้วย เช่นปลา Katsuo ในช่วง Fall หรือปลา Sayuri ในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ (ฤดูร้อนของญี่ปุ่น) ) โดยตัวอาหารนั้นก็จะมีหลากหลายเกรด หลากหลายราคา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ได้มีแต่ของแพง ของ Premium แต่มีของราคาประหยัดแต่คุณภาพดีไว้บริการลูกค้าด้วยเช่นกัน (ทางเชฟซูชิฝากบอกว่าถ้าไปกินที่ร้าน San Kyo Dai แห่งนี้ แนะนำให้ไปนั่งที่ counter เพราะจะได้ของแถม, ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย, ได้คำแนะนำว่าวันไหนของสด)
อาหารในมื้อนี้ เนื่องจากว่ามากินร้าน Sushi ก็ต้องเน้นไปที่ Sushi แน่นอนอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แต่เนื่องจากว่าอาหารจากครัวร้อน ทางร้านก็มีด้วยก็เลยมีเมนูครัวร้อนมาด้วยเช่นกัน ไล่เรียงกันไปเลยละกัน (อ้อ สิ่งประทับอีกอย่างสำหรับร้านนี้คือตัว Menu ครับทำได้ดี เป็นระเบียบ รายละเอียดครบถ้วน รูปสวยมาก ๆ และยิ่งพิจารณาว่าเป็นร้านเปิดใหม่ 2 เดือนด้วยแล้ว ยิ่งแอบทึ่งว่าทำได้ยังไงเข้าไปใหญ่ เพราะว่าร้านที่ผมไปกินส่วนใหญ่ ถ้าเป็นร้านเปิดใหม่นี่กว่า menu จะสมบูรณ์ลงตัวแบบร้านนี้ได้นี่ต้องประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างต่ำเลย)
- Seikai Aburi (Combination of Umi Aburi & Tochi Aburi - 1450 บาท) คำว่า Seikai นั้นแปลว่าโลก ส่วน Aburi ก็แปลว่าเผา จานนี้ก็เลยเป็นซูชิเผาที่รวบรวมหน้าทั้งจากบนบกและทะเล ประกอบด้วย Otoro, Engawa, Kuruma Ebi, Matsuzaka Beef, Foie Gras, ลิ้นวัว ทั้งหมดนี้ อร่อยล้ำหมดครับ รสชาติดี กลิ่นหอม พวกที่ควรจะละลายในปากก็ละลายหมด (โอโทโร่, มัตสึซากะ, ตับห่าน) พวกมันเยิ้ม ๆ อร่อย ๆ ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ (Engawa) พวกเนื้อนุ่ม ๆ เนียน ๆ ก็ตามนั้นเช่นกัน (ลิ้นวัว, kuruma ebi)
- Matsu Passion Roll (Seared French Foie Grass roll wrapped with Matsuzaka beef - 1,550 บาท) : เป็น Roll ที่อลังการมาก ๆ (เช่นเดียวกันกับราคา ที่ผมว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว) เป็นเนื้อมัตสึซากะห่อมาด้วยข้าวยัดไส้ตับห่าน และโรยมาด้วยก้านวาซาบิดองกับไข่ปลาแซลมอน รสชาติแต่ละคำที่กินเข้าไปคือ มันจะหอม ๆ และก็ละลายในปากดีครับ เนื้อวัวที่ให้ก็ชิ้นค่อนข้างหนา กินแล้วรู้สึกเป็นเนื้อเป็นหนังดีครับ (แต่ก็กินแล้วละลายหายไปอย่างเนียน ๆ)
- Gindara Steak (Snow Fish - 500 บาท) : อันนี้ราคาถูกครับเพราะส่วนใหญ่ สเต็กปลาหิมะ ชิ้นขนาดนี้ รู้สึกจะขายกัน 700 บาทได้แล้ว จานนี้เป็นสเต็กปลาหิมะที่ค่อนข้างมาตรฐานครับ เนื้อเนียนนุ่ม ผิวก็เกรียม ๆ นิดนึง แต่แบบผมว่ารสชาติเนื้อมันยังทำได้ดีกว่านี้ อาจจะเอาไปหมักกับมิโซะ หรือ ซอสอะไรก็ได้ให้รสชาติซอสมันเข้าเนื้อไป ซึ่งหลัง ๆ เจอร้านที่ทำแบบนี้เจ้าจานนี้ก็มักจะอร่อยกว่าเอาไปย่างปกติแทบทั้งนั้นครับ
- Chu Sushi Moriawase (Very good selection sushi set : Hon maguro, akami, madai, hamachi, engawa, ikura, salmon, hokkigai, salmon maki - 950 บาท) - กับราคาที่จ่ายไปแล้ว จานนี้ค่อนข้างคุ้มครับ เฉลี่ยคำละ 130 บาท แต่ได้ซูชิหน้าแพง ๆ แจม ๆ มาด้วย ซูชิทุกคำอร่อยได้มาตรฐาน
- Ko - Sashimi Moriawase (Kampachi, Madai, Salmon, Hokkigai, Shime Saba - 950 บาท) : จานนี้ก็คุ้มค่าเกินราคาเช่นกันครับเนื้อปลาแล่มาชิ้นค่อนข้างใหญ่และหนา , ตกแต่งจานมาสวยงาม เนื้อปลาทุกอันสด นุ่ม อร่อยหมด เนื้อปลาเนื้อขาว (kampachi, madai) ผมว่าของร้าน Sankyodai นี่ทำได้อร่อยกว่าร้านอื่นพอตัวเลย ส่วนอย่างอื่นค่อนข้าง On Par
- Salmon Mango Roll (Salmon roll dressed in trpoical sense of mango - 380 บาท) : ช่วงหลังเจอ Roll หน้านี้บ่อยเหมือนกันครับ ซึ่งหลังจากกินมาหลาย ๆ ครั้งเข้าก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวดี เนื้อปลาแซลมอนปกติมันจะจืดไปนิด ก็เลยเอาความหวานจากมะม่วงมาเพิ่ม และก็เพิ่มความมัน และรสชาติด้วย ikura และ เมเนส (mayonaise) เพิ่มเติมเข้าไปอีก ก็กลายเป็น roll ที่นุ่ม ๆ ละมุน ๆ อร่อยอย่างลงตัวดีครับ
2 คำหลังนี่เป็นจานที่เชฟซูชิแถมมาให้ครับ (ราคาคือแบบมาตรฐานตกแต่งมาสวย ๆ นะครับ แต่ที่เชฟให้คือมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ง่าย ๆ) ซึ่งเนื้อปลา 2 อันที่เชฟให้มานี่ เค้าบอกว่าถ้ามาร้านนี้แล้วไม่ได้สั่ง 2 อย่างนี้ก็ไม่เรียกว่ามาถึงครับ ซึ่งหลังจากที่กิน 2 อย่างนี้แล้วพวกผมก็เห็นด้วยอย่างเต็มที่เลย อร่อย จนแบบอยากกินแล้วกินอีก
- Shimaaji (White Travelly - 900 บาท 5 pieces) : เนื้อจะเด้ง ๆ แข็ง ๆ หน่อย มีความกรุบเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อร่อยครับ
- Kinmedai (Golden eye seabream - 1,200 บาท 5 pieces) : เนื้อจะเนียน ๆ นุ่ม ๆ อร่อยเช่นกันครับ
สรุป ร้าน Sankyodai @ 24th Avenue สุขุมวิท 24 แห่งนี้ ก็เป็นร้าน Sushi Bar น้องใหม่ที่ผมรู้สึกว่าดีมาก ๆร้านนึงในช่วงหลังที่กินมาเลย ไม่ว่าจะบรรยากาศ, การบริการ, ความหลากหลายของอาหารและรสชาติอาหาร ใครที่อยากจัดซูชิดี ๆ สักมื้อ กับซูชิที่ผ่านการพิถีพิถันมาทุกขั้นตอนแล้วละก็ ร้าน Sankyodai แห่งนี้สามารถตอบโจทย์ให้คุณได้แน่นอนครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment