คอฟฟาโฮลิค - ร้านอาหารไทย ฟิวชั่น เบียร์สด ไวน์ เดอะ เคิร์ฟ อ่อนนุช 17
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4.5/5
Service 4/5
Value 4/5
Coffaholic - Thai Fusion Restaurant on bumRes.com (For more pictures, menu and info)
โครงการ The Curve - Community Mall เล็ก ๆ ในซอยอ่อนนุช 17 นี่ตัวผมเองก็เคยมาที่นี่เมื่อสัก 2-3 ปีก่อน ที่ร้าน Twelve ร้าน Pub & Restaurant ขนาดเล็กราคาย่อมเยา และทางทีมงานผมก็เพิ่งจะมารีวิวร้านเนื้อย่างน้องใหม่ Otaku ที่เปิดแทนร้านเนื้อย่างเดิมที่เปลี่ยนเจ้าของกันไป คือโครงการนี้บอกตรง ๆ ว่าไม่คิดว่าจะอยู่ยั้งยืนยงมาได้หลายปีแบบนี้ครับ เพราะว่าช่วงหลังนี่ Community Mall ผุดกันขึ้นมาเยอะมาก เห็นที่เก่า ๆ ที่เล็ก ๆ ไม่ค่อยมีอะไรก็โดนน้องใหม่ที่มาแรงกว่า แย่งลูกค้าไป และมีอันต้องปิดตัวกันลงไป ซึ่งการที่โครงการเล็ก ๆ นี้ยังอยู่มาได้ก็แสดงว่า ทำเลดี (เหรอ?) หรือไม่ก็ร้านในโครงการแกร่ง ซึ่งผมว่าเหตุผลน่าจะเป็นแบบหลัง เพราะรวมร้าน Coffaholic ในรีวิวนี้เข้าไปด้วยแล้ว โครงการ The Curve นี่แม้ว่าจะมีร้านไม่เยอะแต่ก็อัดแน่นไปด้วยร้านคุณภาพทั้งนั้นเลย
ร้าน Coffaholic นี่ชื่อเต็ม ๆ ก็คือ Coffaholic Espresso & Wine Bar สาเหตุที่มีชื่อแบบนี้ก็เพราะว่า ร้านนี้เปิดทำการตั้งแต่เช้า 7-8 โมง และช่วงเช้าไปจนถึงบ่ายแก่ ๆ ก็จะเสิร์ฟพวกอาหารเช้า, ของกินเล่น พร้อมกับกาแฟ และชา เป็นอารมณ์ประมาณร้านกาแฟ กิ๊บเก๋ ๆ นั่นเอง ส่วนพอหลังบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป ร้านก็จะผันตัวเองไปเป็น Wine Bar หรือเป็นร้านอาหารที่ค่อนข้างจะเต็มรูปแบบหน่อย เสิร์ฟอาหารอย่างจริงจัง พร้อมกับเครื่องดื่ม alcohol มากมาย ซึ่งบรรยากาศของทางร้านก็เหมือนจะมีการวาง concept เอาไว้แต่แรกแล้ว โดยส่วนนึงจะเป็นส่วน ร้านกาแฟ เป็นโต๊ะเล็ก ๆ มีตู้เค้ก, ขนมปัง ให้เลือกสั่งเลือกหยิบกัน ส่วนอีกส่วนนึงก็จะเป็นโต๊ะอาหารจริงจังหน่อย และก็มีวงดนตรี 2 ชิ้น (บวก นักร้อง 1 คน) มาขับกล่อมให้เราฟังทุก ๆ วันอังคารและวันศุกร์ 20.00 - 21.30 น. (ผมโชคดีไปตอนวงดนตรีมาเล่นพอดี ร้องดี เล่นดี เลือกเพลงได้ชิลดีครับวงนี้ ชอบ ๆ เพื่อนตัวอ้วนผมขึ้นไปร้องเพลงด้วยฮ่า ๆ)
เครื่องดื่มของร้านนี้ก็จะมีพวก soft drink ทั่ว ๆ ไป ส่วนพวก alcohol ก็จะมี cocktail รส + หน้าตา standard, classic นอกเหนือจากนี้ก็จะมี Wine เป็นขวด ๆ วางเรียงรายอยู่เต็มผนังให้เลือกหยิบกัน และก็เบียร์สดก็จะมี Hoegaarden ให้สั่งด้วย ส่วนตัวอาหารของร้านนี้หลัก ๆ จะเป็นอาหารยุโรป fusion ความเป็นไทยลงไป และก็มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะสักเท่าไร ตามประสาร้านเล็ก ๆ ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และเนื่องจากว่าเป็นร้าน wine Bar , ร้านเหล้ากลาย ๆ ก็เลยมีพวกอาหารไทยกับแกล้มให้สั่งเพิ่มเติมด้วย ร้าน Coffaholic แห่งนี้อาจจะเพราะว่าตั้งอยู่ในย่านที่ค่อนข้างชานเมืองเล็กน้อย ราคาอาหารก็เลยไม่ค่อยแพงเท่าไร จานละประมาณ 100 - 300 บาทโดยประมาณ (คือพวก 300 คือพวกมีเนื้อเยอะ ๆ) และเครื่องดื่มก็ค่อนข้างจะถูกกว่าร้านในเมืองพอสมควร และเพิ่มความถูกไปด้วยการไม่มี vat + service charge อีก อืม การมากินร้านชานเมืองนี่มันก็ดีแบบนี้นี่แหละ
มื้อนี้ก็ไล่เรียงเครื่องดื่มกับอาหารไปเลยละกันนะครับ
- Iced Mocha (175 บาท) : กาแฟมาตรฐาน มาในแก้วแนว ๆ 2 ชั้น รสชาติประมาณหาดื่มได้ตามร้านกาแฟชั้นนำทั่วไป ครับ
- Midori (175 บาท) : Cocktail มาตรฐานที่รสชาติทำมาได้ดีกว่ามาตรฐานเล็กน้อย แรงกว่ามาตรฐานหน่อย หอมกว่าหน่อย หวานกำลังดี โอเคเลยครับ (ซดพรวด ๆ แปบเดียวหมด -*-)
- Long Island Ice Tea (175 บาท) : อีกหนึ่ง Cocktail มาตรฐานที่ไม่ค่อยมาตรฐานด้านความแรง เพราะว่าเหล้า 5 ชนิดที่ทางร้านใส่มานี่แบบใส่มาค่อนข้างเยอะ แรงดีทีเดียวเลย ผมกับเพื่อนตัวอ้วนกินแก้วนี้เสร็จ นี่กรึ่มกันเลย ส่วนรสชาติก็อืม .. ช่วงหลังไม่ค่อยได้กิน Long Island Ice Tea สักเท่าไรเลยจำไม่ค่อยได้ครับว่ารสมาตรฐานเป็นยังไง แต่แก้วนี่ก็อร่อยดีครับ ซดกันแปบ ๆ หมด
ส่วนตัวอาหารก็จะตามนี้เลยครับ
- Caesar Salad (Romaine lettuce, crispy bacon, crouton served with parmesan cheese and caesar dressing - 145 บาท) : รสชาติดี ให้เยอะ น้ำสลัดอร่อย (มารู้ตอนหลังว่าทางร้านทำเองเลย) ผักสด เบคอนกรอบและให้เยอะเป็น Caesar Salad ที่ทำได้ดีมาก ๆ จริง ๆ ครับ คือหลัง ๆ นี่กินเจ้าเมนูสลัดสิ้นคิดจานนี้บ่อย ส่วนใหญ่ก็เจอแบบรสชาติที่คิดว่ากินเอาไฟเบอร์ละกันอะไรงั้น แต่กับของร้าน Coffaholic นี่กินแล้วนึกถึง Caesar Salad จากพวกร้านเทพ ๆ ในโรงแรมเลย
- เฟรนฟราย (French Fries - 85 บาท) อันนี้ทางร้านภูมิใจนำเสนอครับ บอกว่าลูกค้าชอบมาก แต่พวกผมกินกันแล้วก็อร่อยใช้ได้เลยครับ แต่ถ้าพิจารณาราคากับปริมาณที่ให้มา ถ้าอยากหาของกินเล่นแล้วล่ะก็ สั่งเหอะครับ คุ้มค่ามาก
- สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า (Spaghetti "Cabonara" creamy sauce with crispy bacon, ham and cheese - 160 บาท) : อันนี้แตกต่างจากส่วนใหญ่ที่กินมาเล็กน้อย ตัวครีมซอสจะละมุน ๆ เนียนกว่า ปกติ คือเชฟบอกว่า ใส่ชีสมาน้อย เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้กินตอนร้อน ๆ รวดเดียวเสร็จ ซึ่งถ้าใส่ชีสเยอะ ปล่อยให้เย็นแล้วมันจะเกิด texture แบบไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไร อืม ก็เป็นคาโบนาราที่ไม่ค่อยเหมือน ร้านอื่น อร่อยแบบเนียน ๆ ดีครับ
- ร็อคเก็ตพันแซลมอน (Spicy smoked salmon with rocket leaves - 125 บาท) : แซลมอนสด ผักร็อคเก็ตไม่เหม็น น้ำจิ้มก็เป็นน้ำจิ้มทะเลแซบ ๆ กำลังดี และราคาถูกจนเหลือเชื่อ (ส่วนใหญ่ขายกัน 200+ บาทได้สำหรับเมนูนี้) เหมาะเป็น appetizer สำหรับจานแรกในมื้อดีครับ
- หมี่กรอบแกงเขียวหวานกุ้ง (ไม่ทราบราคา น่าจะประมาณ 200 บาท) : จานนี้แปลก ๆ หน่อย เหมือนเป็นหมี่กรอบ แล้วใส่น้ำแกงเขียวหวานมาแบบขลุกขลิก กะไม่ให้เอาเส้นไปจุ่มน้ำ, แช่น้ำ ให้เส้นนุ่ม ๆ ขึ้นมาเหมือนตัวหมี่กรอบราดหน้า แต่กะให้กินความกรอบของเส้นไปเลย อันนี้ผมว่าเส้นมันกรอบไปหน่อย น่าจะแบบมีน้ำมามากกว่านี้ แต่ว่าตัวรสแกงเขียวหวานนี่รสดีครับ ส่วนกุ้งก็สดและก็ตัวใหญ่ดี
- สเต็กหมูสันในราดซอสเกรวี่เห็ดและสปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก (Pork tenderloin steak and spaghetti with mushroom gravy sauce - 300 บาท) : จานสุดท้ายในมื้อ จานนี้หมูสันในสุกไปเล็กน้อย เนื้อเลยออกแข็งไปนิด และก็รสชาติการหมัก, น้ำเกรวี่ที่ให้มาก็ยังไม่ค่อยเข้าเนื้อเท่าไร ตัวเส้นพาสต้าก็เอาไปแค่ผัดกับน้ำมันมะกอกมา ก็เลยไม่มีรสอะไร (เหมือนตั้งใจจะให้ได้รสจากเนื้อหมูเป็นหลัก) จานนี้ก็เลยไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ก็ถือว่ายังเป็นจานมาตรฐานอยู่ครับ
- Blueberry Cheesecake : ช่วงหลัง ๆ กินเค้กเบสิคชนิดนี้นี่ผิดหวังซะเยอะครับ แต่ของร้าน Coffaholic นี่สมกับเป็นร้านกาแฟด้วยในตัวครับ อร่อยดีมาก ชีสเน้น, บลูเบอรี่รสชาติดี เสียดาย Whipped cream รู้สึกทางร้านจะใช้เป็นแบบครีมเทียม เลยไม่ค่อยมีความหอมจากมันนมเท่าที่ควร
สรุป ร้าน Coffaholic Espresso & Wine Bar แห่งนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านที่มีจุดเด่น, จุดแข็งของตัวเองค่อนข้างเยอะเลย ไม่ว่าจะราคาอาหารที่คุ้มค่ามาก ๆ มาจัดหนักจัดเต็มกัน อย่างมากก็ไม่น่าจะเกิน 1,000 นึง (ถ้าไม่สั่งไวน์นะครับ) อาหารก็รสชาติค่อนข้างดี เพราะแต่ละจานทำกันสด ๆ และเชฟแบบไม่มั่นใจจานไหนก็ไม่เอาใส่ไว้ในเมนู (อันนี้ผมเดา) บรรยากาศร้านก็ดี สวย ๆ แนว ๆ อืม ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม โครงการเงียบ ๆ อย่าง The Curve แห่งนี้ถึงอยู่มาได้นานหลายปี เพราะเมื่อรวมร้านนี้เข้ากับอีก 2 ร้านที่พวกผมเคยไปรีวิวแล้ว แค่นี้ก็น่าจะดึงลูกค้ามาได้เยอะแล้วล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment