แอลทรี อีทเทอรี่ - ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ นานาชาติ, ตามสั่ง โรงแรม เลอ ฟีนิกซ์ สุขุมวิท 11
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
L3 Eatery - International Restaurant (For more pictures, menu and info)
โรงแรม Le Fenix ในซอยสุขุมวิท 11 นี่หลาย ๆ ท่านคงจะรู้จักร้าน The Nest ณ ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมกัน เพราะร้านนี้ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีบรรยากาศและโตีะที่แตกต่างจากร้านอื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ที่โรงแรมแห่งนี้เค้าก็มีห้องอาหารของตัวเองอีกหนึ่งห้อง และมีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ของตัวเองพอสมควรเลยกับห้องอาหาร L3 Eatery แห่งนี้นี่เอง
ห้องอาหาร L3 Eatery นี้เอาจริง ๆ ก็คือห้องอาหารเอนกประสงค์ของทางโรงแรมแห่งนี้เค้าล่ะครับ ตอนเช้าก็ให้บริการอาหารเช้า ส่วนตอนเที่ยงก็จะมีบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ส่วนตอนเย็นก็จะเป็น a la carte อาหารฝรั่ง + อาหารไทย คือแบบมากิน 3 มื้อนี่ก็จะไม่เจออาหารเหมือนกันเลยสักมื้อ ประมาณนั้น ส่วนรีวิวในมื้อนี้ก็จะเป็นแบบรีวิวควบ 2 มื้อ คือตัวไลน์อาหารมื้อเที่ยง และตัว a la carte มื้อเย็นนั่นเอง
ตัวมื้อเที่ยงของที่นี่ทางโรงแรมเค้าตั้งชื่อเอาไว้ว่า Suk11 Lunch Time - Amazing 229 baht net ใช่ครับ ผมไม่ได้ลงราคาผิดครับ 229 บาทเน็ทจริง ๆ คือแบบราคาถูกมาก ๆ ถูกจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีโรงแรม 4 ดาวทำราคาขนาดนี้ออกมาขายได้ และราคานี้ยังมีน้ำพวก soft drink ไว้ให้อีกด้วยนะครับ ไม่ได้แบบต้องมาจ่ายตังค์ค่าน้ำเพิ่มหรืออะไรเลย ส่วนตัวไลน์บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงนั้นก็จะมี แบบอาหารนานาชาติมาเต็มเลย ไล่เรียงกันไปตั้งแต่อาหารฝรั่ง พวกขนมปัง, ของทอดต่าง ๆ , ผักโชมอบชีส, ลาซานญ่า, พาสต้า, อาหารไทยอีกนิดหน่อย, อาหารญี่ปุ่นอีกเล็กน้อย และก็พวกเค้กของหวาน ประมาณนั้น (ลองดูรูปไลน์อาหารประกอบครับ) คือโอเค ไลน์อาหารไม่ได้อลังการ ไม่ได้มีครบครัน เหมือนของพวกโรงแรม 5 ดาว แต่กับราคาเท่านี้และได้อาหารมาขนาดนี้นี่คงหาที่ไหนไม่ได้แล้วล่ะครับ
ตัวรสชาติบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงของที่ห้องอาหาร L3 Eatery นี่ต้องขอสารภาพว่าผมไม่สามารถ cover ตัวอาหารได้เพียงพอที่จะมารีวิวฟันธงได้ว่าดีหรือไม่ดี เนื่องจากว่าต้องจัดตัวอาหาร a la carte มื้อเย็นถึง 6 จานพร้อมกันไปด้วย แต่เท่าที่ได้กินมาประมาณ 4-5 จานเล็ก ๆ กับเพื่อน ซึ่งก็จะมีพวกขนมปังอบ, สปาเก็ตตี้, ซูชิ + ข้าวปั้น และก็กุ้งผัดสามรส ประมาณนี้ ทั้งหมดนี้รสชาติค่อนข้างมาตรฐานดีครับ ไม่ถึงกับอร่อย กินแล้วชอบ อยากกินอีก แต่ก็เป็นรสชาติมาตรฐานที่ควรจะคาดหวังจากไลน์บุฟเฟ่ต์ประมาณนั้น
ตัวรายละเอียดมื้อเที่ยงของ L3 Eatery ก็ประมาณนี้ครับ
"Suk11 Lunch Time - Amazing 229 Baht Net - All you can eat buffet at L3 Eatery Available Daily Lunch from 11.30 - 15.30
Free WiFi, Parking & tuk Tuk pick up from Nana BTS station"
ทีนี้ก็มาต่อกันที่ตัว a la carte dinner ของที่นี่กันบ้าง อาหารตามสั่งของที่นี่ก็จะแบ่งคร่าว ๆ ได้เป็น 2 หมวด หมวดแรกนั้นคืออาหารตะวันตก อาหารฝรั่ง ที่จะมีพวก appetizer, soup, salad, burger, pasta, steak และของหวานประมาณนี้ ส่วนอีกหมวดนั้นจะเป็นอาหารไทย ก็จะมีพวกของกินเล่น, ของทอด อาหารจานเดียวพวกข้าวและก๋วยเตี๋ยวประมาณนี้ ซึ่งอาหารของตัว a la carte นี้ราคาก็มาตรฐานครับ หรือพูดอีกนัยนึงก็คือราคาประมาณพวกร้านอาหารฝรั่ง, ร้านหรู ๆ ในกรุงเทพนั่นเอง (ก็น่าจะอยู่ที่หัวละประมาณ 1,000 บาทถ้าสั่งคนละ 2-3 อย่างอะไรงี้)
อาหารที่ได้รับมื้อนี้ก็ขอไล่เรียงไปตามลำดับที่ได้รับเลยละกันนะครับ
Pork Chop BBQ Steak (Grilled pork chop with bbq sauce Le Fenix style & served with grilled tomato and zucchini - 450 บาท) : จานนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไรครับ เนื้อหมูยังไม่นุ่ม ละมุนดีนัก มาแนว แห้ง ๆ แข้ง ๆ ไปเลย และตัวเนื้อก็เลือก cut มายังไม่ค่อยดี เนื้อยังไม่หนาพอ และก็แบบกระดูกมันเลาะ ๆ มาแปลก กินยากมาก (คือตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่าไม่ใช่ความผิดของร้าน แต่สำหรับผมแล้ว การเลือกตัววัตถุดิบดี ๆ นั้นก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของเชฟเช่นกัน) และตัวซอสที่ราดมาก็เป็นซอสคล้าย ๆ ซอสสำเร็จรูปครับ ไม่ค่อยโดนเท่าไร
Oriental Grilled Salmon Steak (Served with ginger & soy sauce, glazed on pan-fried sticky rice - 450 บาท) : จานนี้แม้ว่าหน้าตาจะดูธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรมาก มีแค่แซลมอนวางโปะมาตรงกลางอย่างเดียว แต่จานนี้กลับกลายเป็นจานที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้ครับ ตัว salmon fillet มาแบบชิ้นหนาและใหญ่กำลังดี และ grill มาค่อนข้างดีเลย เนื้อสุกทั่วถึง ผิวด้านนอกเกรียมหน่อย ๆ แล้วตัวเนื้อปลาก็สด ตัวแล้วหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ ไม่ได้เป็นลุ่ย ๆ ขุย ๆ เหมือนพวกเนื้อปลาไม่สด ส่วนตัว garnish ที่ทางร้านให้มาเป็นข้าวเหนียวคลุกกับงา หรือข้าวจี่ ก็อร่อยดีมาก เข้ากันกับปลาแซลมอนได้อย่างลงตัวไม่น่าเชื่อ
Grilled NZ Lamb Chop (Lamb cutlets served on ratatouille, roasted potatoes and rosemary sauce - 850 บาท) : ตัวซี่โครงแกะของร้าน L2 Eatery นี่ขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ และทำมาได้ medium rare กำลังดีเลย แต่มีปัญหาอีกแล้วคือตัว lamb chop ที่ให้มานี่ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมีไขมันติดมาเยอะขนาดนี้เลย คือแบบซี่โครง 100% นี่เป็นไขมันไปสัก 40% ได้ ทำให้สูญเสียเนื้อไปเยอะพอสมควร และก็ตัว lamb chop นั้นมันแบบชิ้นหนากว่าปกติหน่อยแม้ว่าภายนอกหลังจากแล่เนื้อลงไปนั้นจะเห็นเป็น medium rare กำลังดี แต่เอาจริง ๆ ด้านกลาง ๆ ใน ๆ นั้นมันยังไม่สุกดี ก็เลยทำให้เนื้อเหนียวไปหน่อย แต่ว่ารสชาติการปรุง การหมักตัวเนื้อถือว่าทำได้ดีนะครับ เนื้อเหนียว ๆ เคี้ยวนาน ๆ ก็เลยทำให้ได้รับรสชาติเนื้อเยอะดีด้วย(ฮา)
Australian Tenderloin (Prime tenderloin steak served with French fries, mashed or baked potato. - 750 บาท) : ก้อนนี้เป็น Tenderloin ที่สวยงามมาก ๆ ครับ เนื้อมาแบบกลม ๆ หนา ๆ กำลังดี เป็นเนื้อสันในในอุดมคติเลย ส่วนความสุกของเนื้อก็ medium rare พอดี แต่เหมือนกับว่ารสชาติการหมัก และรสชาติโดยรวมของเนื้อก้อนนี้มันยังไม่ค่อย work เท่าไรครับ คือไม่ใช่อะไร เนื้ออุตส่าห์แอบดี (มีเหนียว ๆ มีเอ็นบ้างเล็กน้อย แต่กับราคานี้ถือว่าคุ้มล่ะครับ) แต่แบบซอสกับการปรุงรสยังไม่ค่อยโดนเท่าไร
Fish & Chip (Batter-fried filled of snapper served with French fried & tartar sauce - 420 บาท) : Fish & Chip อันนี้จะมาแนว Irish ๆ หน่อยคือแป้งจะไม่ได้กรอบมาก เป็นแนว batter-fried แทน ตัว เนื้อปลาชิ้นไม่ใหญ่เท่าไร และก็ใช้ปลากะพงที่เหมือนจะไม่ค่อยสดดี กินแล้วแอบมีกลิ่นคาว ๆ เล็กน้อยเหมือนกัน คือไม่รู้เพราะหลัง ๆ ถ้าเจอ Fish & Chip แนว ๆ นี้ผมมักจะเจอแต่ตามร้านอาหารดี ๆ ด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบ ซึ่งร้านพวกนั้นจะทำมาได้ดีมาก ดีกว่าของร้าน L3 eatery นี่อย่างชัดเจน ร้านนี้ก็เลยเหมือนจะ down ๆ ลงไปนั่นเอง
Le Fenix Cheese Burger (Beef served in a sesame bun with melted cheese, fried egg, bacon or sauteed mushroom, French fried and coleslaw - 420 บาท) : ตัวเบอร์เกอร์อันนี้มาแบบแนว oriental ๆ นิดหน่อยครับ มีใส่ไข่ดาว และก็ใส่ผักมาเยอะ ๆ เบอร์เกอร์จานนี้ค่นอข้างมาตรฐาน ไม่ได้มีอะไรเด่นมาก ตัว patty ก็ธรรมดา ๆ , เบคอนที่ให้มาด้วยก็ช่วยเพิ่มรสชาติเบอร์เกอร์ขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ตัว bun ก็ไม่ได้มีการทาซอย หรือปรุง ๆ อะไรมาให้เด่นเท่าไรนัก อืม ตามนั้น
สรุป ร้าน L3 Eatery ณ โรงแรม Le Fenix แห่งนี้สำหรับผม ความโดดเด่นของเค้าก็คงเป็นเรื่องราคาล่ะครับ โดยเฉพาะตัวบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงที่แบบคงยากที่จะหาที่ไหนได้ราคาเท่านี้ ในผืนปฐพีแห่งนี้แล้ว ส่วนตัว a la carte มื้อเย็น แม้ว่ารสชาติจะไม่ได้โดดเด่นมาก แต่เมื่อมองถึงราคา มองถึงการบริการที่ได้รับ แล้วก็ถือว่าเป็นอะไรที่ถูกกว่าห้องอาหารในโรงแรมหลาย ๆ ที่พอสมควรเหมือนกัน ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารฝรั่ง , อาหารตะวันตก มีไทยแซมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในย่าน นานา-สุขุมวิท 11 ล่ะครับ ใครสนใจอยากมากินข้าวเที่ยงแบบจัดได้ไม่อั้น พร้อม wi-fi ฟรี ๆ ในราคาที่ไปกิน a la carte สักจานนึงในร้านระดับกลาง ๆ ไม่ได้เลยด้วยซ้ำแบบนี้แล้วละกัน มาจัด L3 Eatery กันได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment