Bottoms Up - European Restaurant - Wine | Beer & Bistro Bar at Thonglor, Bangkok
บอททอมส์ อัพ - ร้านอาหารยุโรป ไวน์บาร์ เบียร์สด ทองหล่อ
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 3.5/5
Value 4/5
แนวร้านที่อยู่ในกระแสอีกแนวสำหรับยุคนี้ นอกจากร้าน Burger, ร้าน Sushi และร้าน Izakaya แล้ว ผมว่าร้านแนว Wine Bar ก็กระแสแรงไม่แพ้กันเลย ซึ่งรีวิวในฉบับนี้จะพาไปที่ร้าน Wine Bar แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานประมาณ 3 เดือน กับร้าน เอ้า หมดแก้ว! หรือร้าน Bottoms Up - ทองหล่อ นั่นเอง
ร้าน Bottoms Up แห่งนี้ก็เป็น Wine Bar ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่บริเวณปากซอยธารารมณ์ 2 ซึ่งอยู่ระหว่าง ทองหล่อ 18 กับ ทองหล่อ 20 อีกทีนึง การเดินทางถ้าใครขับรถไปทางร้านก็จะมีบริการ Valet ไว้รองรับไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดแต่อย่างใด หรือว่าถ้าใครจะนั่ง BTS ไปก็จ้างวินปากซอยสัก 15 บาทก็ไปถึงร้านแล้วล่ะครับ ร้านนี้เป็นร้านขนาดใหญ่มาก ใหญ่โตอลังการจนแบบผมเดินเข้าไปรอบแรกนี่ก็ได้แต่ทึ่งครับว่าในทองหล่อจะมีร้านที่สร้างได้ใหญ่โตอลังการแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย
Zone ที่นั่งของทางร้านนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 Zone หลัก ๆ คือ
- Zone Chill Out in Thonglor Road ซึ่งก็ตามชื่อครับ นั่งรับลมด้านนอก มองดูสาว ๆ หรือท้องถนนทองหล่อได้อย่างเพลินตาเพลินใจ
- Zone Irish Bar ที่จะเน้นวัสดุในโทน Hard Tone แต่ก็ยังคงความหรูหราตามบรรยากาศของทางร้าน
- Zone Wine จะเน้นการตกแต่งในยุค European Painting Renaissance
- Zone Dining in Gallery : ซึ่ง Zone นี้จะเป็นโซนเด่นของทางร้านที่เหมือนกับว่าให้เราไปนั่งกินข้าวในห้องภาพอะไรประมาณนั้น (วันที่ผมไปผมได้นั่งโซนนี้)
ใช่ครับ ร้านไม่ใหญ่โต ไม่อลังการขนาดมี 300 ที่นั่งแบบร้าน Bottoms Up แห่งนี้ก็คงจะทำร้านให้เป็น Zone ๆ แบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ จุดเด่นของร้านนี้อีกอย่างนึงคือทางร้านจะมี Wine Dispenser อยู่หลายเครื่องด้วย คือเราสามารถดื่มไวน์เป็นแก้ว ๆ ได้ตามสะดวก ไม่ต้องสั่งไวน์มาทั้งขวด แล้วดื่ม ๆ ไปเพราะมันอาจจะไม่เข้ากับอาหารบางจานอะไรงี้ก็เป็นได้ แต่ถ้าใครอยากจะคงความ conventional ไว้คือจะสั่งเป็นขวด ๆ ทางร้าน Bottoms Up แห่งนี้ก็มีไวน์ให้เลือกมากมายชนิดดื่มชาตินึงก็คงดื่มไม่หมดก็ว่าได้ หรือถ้าไม่รู้จะเลือกอะไรทางร้านก็มี Sommelier ของทางร้านมาคอยให้คำแนะนำให้อีกด้วย (แต่ซอมจะหยุดทุกวันจันทร์นะครับรู้สึก) และนอกเหนือจากไวน์ที่มีเยอะสมกับที่ตั้งตัวเองเป็น Wine Bar แล้ว เครื่องดื่มของร้านนี้ก็เรียกได้ว่ามีเยอะที่สุดที่ผมเคยพบเจอมาเลย ไม่ว่าจะเบียร์สดที่มีเป็น 10 ยี่ห้อ, เบียร์ขวดทั้ง import หรือ local , signature cocktail ของทางร้าน หรือ traditional cocktail แบบต่าง ๆ, whiskey, gin, vodka or you name it alcohol ร้านนี้เค้ามีเตรียมพร้อมไว้ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบอะไรพวกนี้ต่าง ๆ กันแบบครบสมกับชื่อร้านที่ว่าต้องหมดขวด/หมดแก้ว กันจริง ๆ
ส่วนตัวอาหารของร้านนี้ก็จะเป็นอาหารแนว European หรืออาหารตะวันตก ที่มีการ fusion เล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ อาหารอาจจะมีให้เลือกไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับร้าน Wine Bar อื่น ๆ บางร้าน แต่ก็จัดได้ว่าครบครันพอตัวมีครบหมดทุกหมวดหมู่อาหารฝรั่งไม่ว่าจะ soup, salad, pasta, steak, pizza หรือ ของหวาน ซึ่งก็ตามที่ผมเขียนบ่อย ๆ ครับ มีอาหารเยอะไปมันก็ไม่ใช่ว่าจะดี มีรายการอาหารประมาณร้าน Bottoms Up แห่งนี้ (หรือน้อยกว่านี้หน่อย) ก็เพียงพอกับลูกค้าคนนึง ๆ ราคาอาหารของร้านนี้ก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ครับ พวกที่ไม่ใช่ Main Course ก็ประมาณ 200 - 300 บาท ส่วน Main Course ก็ 600 - 700 บาทอะไรงี้ ลูกค้าคนนึงไปกินกันเต็มที่ ดื่มด้วย โซ้ยด้วย ก็คงจะคนละประมาณ 1,000 บาทอะไรงี้ล่ะครับ (ถ้าไม่ได้จัด dom หรืออะไรงี้นะ)
มื้อนี้เริ่มต้นกันด้วย signature cocktail ของทางร้านกันก่อน อย่างแรกเป็น Mexican Hop (Olmeca gold triple sec, tequila, mint leaves, limes, sugar, hoegaarden - 260 บาท) แก้วนี้ก็ให้อารมณ์คล้าย ๆ กับ Mojito ครับ แต่จะเปรี้ยวน้อยกว่าหน่อย หวานกว่านิด ก็เป็น cocktail ที่ไม่แรงมาก เหมาะแก่การดื่มเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย อะไรประมาณนั้น
Signature Cocktail อีกแก้วนึงเป็น What You Think? (Hoegaarden, creme de cacao white, strawberry syrup, fresh strawberry - 260 บาท) ซึ่งก็จะเป็น cocktail ที่ค่อนข้างจะเหมาะกับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ไม่ว่าจะด้วยหน้าตาที่มาชมพู ๆ คล้าย ๆ น้ำผลไม้ปั่น และรสชาติที่มาแนวหวาน ๆ เบา ๆ นุ่ม ๆ ดื่มเพลิน ๆ พอให้สวย ๆ เก๋ ๆ ไรงี้
Pizza Seafood (พิซซ่าบางกรอบชุ่มซอสรสเข้มข้นโรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีส กุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ - 300 บาท) เป็นอาหารจานแรกในมื้อนี้ พิซซ่ามาแบบแป้งบางกรอบ ตามมาตรฐานสากลโลกพิซซ่า แต่ไม่ได้บางเฉียบเหมือนกับบางที่ที่เหมือนกับไม่มีแป้งอยู่เลย ส่วนหน้าต่าง ๆ ก็ให้มาค่อนข้างเยอะ คือแต่ละคำชิ้นที่แบ่งออกมาจะมีสัตว์ทะเลอย่างน้อย 2 ตัวอยู่บนชิ้น ๆ นั้นเสมอ ทำให้ไม่ต้องไปแย่งกับเพื่อนให้เหนื่อยแต่อย่างใด จานนี้ รสชาติดีมากครับ ดีประหนึ่งเป็นพิซซ่าจากร้าน Pizza เฉพาะทางเลยก็ว่าได้ สมกับเป็น signature pizza ของทางร้านครับ ชีสเยิ้มอร่อยดีด้วย
อาหารอย่างที่ 2 เป็น Tomato Caprese Salad (lลัดมะเขือเทศกับมอสซาเรลล่า - 220 บาท) จานนี้ก็พอโอเค ไม่อร่อย ไม่โดดเด่นแบบร้าน Italian เฉพาะทางหลาย ๆ ร้าน แต่ก็ทำได้ดีในระดับนึง ดีกว่าในไลน์บุฟเฟ่ต์ของโรงแรม 5 ดาวหลาย ๆ ที่ กินแล้วก็สดชื่นดีครับ เย็น ๆ ฉ่ำ ๆ ในปาก ตามประสา Caprese Salad เค้า
อาหารอย่างที่ 3 เป็น Italian Sausage A.O.P. Pasta (พาสต้าพริกกระเทียมไส้กรอกอิตาเลียน - 240 บาท) จานนี้อร่อยเยี่ยม ให้ไส้กรอกมาเยอะ ไม่ได้เป็นวิญญาณไส้กรอกแบบบางร้าน ตัวเส้นแอบทำมา overcook ไปนิด ไม่รู้เพราะตั้งใจหรือเพราะไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผมว่าถ้าเส้นแข็งกว่านี้นิดนึงน่าจะอร่อยกว่านี้ แต่รวม ๆ แล้วก็เป็นพาสต้าที่ดีจานนึงเลยจานนี้
อาหารอย่างที่ 4 เป็น German Pork Hocks (Pork Hocks, Red Cabbage, Potato - ขาหมูทอดสไตล์เยอรมัน เสิร์ฟพร้อน เรดแคบเปบจ ซอสซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านและมันฝรั่งบดกับซอสเดมิเกรส - 490 บาท) จานนี้เป็น Highlight ของทางร้านเลย เพราะตัวสูตรขาหมูจานนี้นั้นได้มาจาก Chef จำนงค์ นายกสมาคมเชฟแห่งประเทศไทย ขาหมูมาขนาดใหญ่กำลังดี แบ่งกินกันได้หลายคน เนื้อได้นอกกรอบมาก ๆ ส่วนเนื้อด้านในก็นุ่ม เปื่อยยุ่ย ใช้ความพยายามในการแล่ หรือเซาะเนื้อออกจากกระดูกไม่ยากเลย ส่วนรสชาติก็ยอดเยี่ยมครับ เค็มนิด ๆ มันหน่อย ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มเผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ คล้าย ๆ น้ำจิ้ม Seafood ลงตัวดีแท้เหลา
อาหารอย่างที่ 5 เป็น Lamp Chop (Imported) (เนื้อซี่โครงแกะย่าง - 690 บาท) จานนี้ก็เป็นซี่โครงแกะย่างที่ไม่ได้กินอร่อย ๆ แบบนี้มานานมากแล้วครับ อร่อยจนแบบทำให้กลับไปเข้าใจแล้วว่าทำไมหลาย ๆ ร้านถึงมีเสต็กแกะไว้บริการกัน (ก่อนหน้านี้กินมาหลายร้านทำมาห่วย ๆ จนแบบคิดว่า ถ้าทำห่วยแบบนี้มันจะมีเสต็กแกะอยู่บนโลกนี้ทำไมกันวะ อะไรแบบนี้) เนื้อมาแบบ medium rare เนื้อนุ่มอร่อย และก็ปรุงรสมาดีมาก ๆ ครับ ประทับใจจริง ๆ
ส่วนอย่างสุดท้ายนั้นเป็น Cheese & Onion Pork Chop (พอร์คชอพชีสและหัวหอมใหญ่ - 260 บาท) จานนี้เมื่อพิจารณาถึงราคาแล้วถือว่าค่อนข้างถูกมาก ตัว porkchop มีการเอาไปอบกับชีสจนแข็งติดแน่นมาเป็น Crust อยู่ด้านบน ซึ่งก็ทำให้เกิดความแปลกใหม่ดี แต่ว่าตัวเนื้อหมู หรือการย่างมานั้นทำมาได้ไม่ค่อยดีครับ เนื้อมัน overcook ไป เนื้อแข็ง ไม่นุ่มอร่อย อาจจะเป็นเพราะต้องมีการเอาไปทอดหรือย่าง แล้วก็ไปอบกับชีสต่อจนทำให้เนื้อมันไม่อร่อยแบบนี้ ซึ่งผมก็เสียดายครับเพราะถ้าเนื้อมันนุ่ม ๆ มาแบบ porkchop เทพ ๆ นี่จะเป็นอะไรที่เจ๋งมากเลย เพราะตัวผิวที่อบกับชีสมามันอร่อยดีมากเลยครับ
สรุป ร้าน Bottoms Up นี่ผมก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้าน แม้ว่าจะไม่เคยเปิดร้านอาหารของตัวเองมาก่อน แต่ทำไมถึงกล้าลงทุนทำร้านใหญ่โตอลังการขนาดนี้ขึ้นมาแบบไม่กลัวขาดทุนกันเลย เพราะว่า ร้านนี้อาหารกับเครื่องดื่มของเค้า ครบครัน และทำได้รสชาติดีจริง ๆ ครับ ตอนเย็นใครกำลังมองหาที่สังสรรค์แบบยกกระดกหมดขวด/หมดแก้วแบบ bottoms up กันแล้ว ก็ลองไปจัดร้านนี้กันดูได้นะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment