Mei Jiang - Chinese Restaurant at Peninsula Bangkok Hotel Review
เหมย เจียง - ร้านอาหารจีน บุฟเฟ่ต์ ติ่มซำ โรงแรม เพนนินซูล่า ริมแม่น้ำ
Overall Score 9.5/10
Taste 4.5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 3/5
Mei Jiang - Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ห้องอาหารจีน เหมย เจียง หรือ Mei Jiang ก็เป็นห้องอาหารจีนหรูหราระดับโรงแรม 5 ดาวประจำโรงแรม Peninsula, Bangkok ที่ทุก ๆ อย่างนั้นละม้าย คล้ายคลึงกันกับห้องอาหารจีนในโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ แทบจะทุกประการ ไม่ว่าจะตัวบรรยากาศของทางร้านที่จะเน้นห้องส่วนตัวมากกว่า โต๊ะธรรมดาทั่วไป เพื่อเอาไว้ใช้เลี้ยงรับรองทางธุรกิจ หรือกินเลี้ยงทั่ว ๆ ไป , ขนาดของห้องอาหารก็มีขนาดไม่ใหญ่นัก ขนาดพอ ๆ กับห้องอาหารจีนอื่น ๆ ทั่วไป
การบริการของทางร้านก็ top-notch ไม่มีอะไรให้ต้องติตามประสาห้องอาหารในโรงแรม 5 ดาวเช่นกัน น้ำชาไม่เคยมีให้พร่อง จานชามไม่เคยมีให้ต้องมาบอกให้เก็บ การพูดการจาทุกอย่าง คือ ไม่รู้จะไปติอะไรอ่ะครับพูดง่าย ๆ คือไปกินอาหารระดับนี้ก็ควรจะได้การบริการอันดีเยี่ยมในระดับนี้ ถ้าต่ำกว่านี้ถึงจะค่อยมีมาให้บ่นกันอะไรประมาณนั้น
ใช่ครับ ผมไม่รู้จะเขียนอะไรเกี่ยวกับห้องอาหาร Mei Jiang แห่งนี้สักเท่าไรเนื่องจากว่ามันก็เป็นอะไรที่มาตรฐานสูงเหมือนที่อื่น ๆ ก็ขอเข้าตัวอาหารเลยละกัน ห้องอาหารจีนแห่งนี้ ตามปกติมื้อเที่ยงก็จะเน้นตัวติ่มซำ แต่จะเป็นแบบ a la carte ไม่เหมือนที่อื่น ๆ ส่วนมื้อเย็นก็จะเป็นอาหารจีน a la carte สไตล์ Modern Cantonese ที่หน้าตาอาหาร, รายการอาหารจะไม่ค่อยเหมือนกับภัตตาคารอาหารจีนเหลา ๆ ในกรุงเทพทั่วไปสักเท่าไร คือจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เป็น signature dish ของตัวเองที่แบบคนที่อยากกินอาหารของร้านนี้ก็ต้องเดินทางมากินที่ร้านนี้เท่านั้น ซึ่งจะแตกต่างจากพวกร้านอาหารจีนที่มีอยู่ดาษดื่นตามบ้านเราทั่วไปที่จะ แบบคล้าย ๆ กัน เหมือน ๆ กันหมด แข่งกันด้านความสดของตัววัตถุดิบ (โดยเฉพาะตัว seafood) , ความใหญ่ของวัตถุดิบ (ขนาดของกุ้ง, ปู, ปลา อะไรพวกนี้) ส่วนรสชาติอาหารนั้นก็ไม่ค่อยหนีกันมาก ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีแต่ละจานที่ตัวเองทำได้อร่อย ถนัด และโด่งดังต่าง ๆ กันไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าห้องอาหาร เหมยเจียง แห่งนี้จะมีแต่อาหารที่รังสรรค์กันขึ้นมาเอง ก็มีอาหารที่แบบหากินได้ทั่วไปบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าให้เดา ผมว่าก็น่าจะมีการ twist โน่นนี่ ไม่ว่าจะด้านหน้าตาหรือรสชาติอาหารให้มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองบ้างล่ะ (คือไม่ได้สั่งพวกที่พบเจอตามที่อื่นอ่ะครับเลยไม่รู้ แต่เดาจากที่สั่ง ๆ ไปในมื้อนี้ก็น่าจะประมาณนี้)
แต่วันที่ผมได้ไปกินร้าน Mei Jiang แห่งนี้ ทางร้านเพิ่งจะมี Menu ใหม่ขึ้นมานามว่า Dim Sum - Bottomless Basket หรือประมาณบุฟเฟ่ต์ติ่มซำมื้อเย็นนั่นเอง โดยจะมีตัวติ่มซำให้เลือก 6 อย่าง ซึ่งอันนี้ก็ตามชื่อคือไร้ก้นบึ้งจริง ๆ สั่งได้เรื่อย ๆ แล้วก็จะมีพวกซุป, ข้าวผัด, ของหวาน ให้สั่งกันอีกคนละ 1 อย่าง ก็คือเป็นประมาณบุฟเฟ่ต์ลูกผสม ที่เหมือนเอาบุฟเฟ่ต์ติ่มซำไปผสานกับอาหาร course แบบตะวันตกนั่นเอง ราคาของตัวบุฟเฟ่ต์นี้ก็จะอยู่ที่ 999++ บาท ก็เป็นราคาที่เหมาะสมดีกับอาหารมื้อเย็นแบบจัดหนักดีนะครับ ก็รีวิวในมื้อนี้จะแบ่งเป็นตัว Dim Sum - Bottomless Basket นี่กับตัว a la carte ของทางร้านนะครับ จะได้อ่านกันง่าย ๆ เห็นกันง่าย ๆ
Dim Sum - Bottomless Basket
- ฮะเก๋า (Crystal Prawn Dumplings) - ฮะเก๋าอันนี้ชิ้นโตมาก ๆ ครับ แล้วก็ยัดกุ้งมาทั้งตัวในฮะเก๋าเลย เป็นฮะเก๋าที่อร่อย ประทับใจ คำโต กินแล้วแบบลืมพวกฮะเก๋าตามร้านอาหารจีนทั่ว ๆ ไปแบบลืมไปเลย กินอันนี้แล้วมันแบบได้ความเป็นฮะเก๋าจริง ๆ กว่ามาก เนื้อกุ้งอัดแน่น แป้งนุ่ม ๆ ฟินครับ
- ขนมจีบ (Traditional Siu Mai) - ขนมจีบอันนี้อาจจะธรรมดา ๆ ไปหน่อยไม่มีอะไรมาก แต่ก็เป็นขนมจีบคุณภาพ ที่กินได้ไม่รู้เบื่ออีกเช่นกัน
- ซาลาเปาหมูแดง (Barbecued Pork Buns) - จากที่คราวก่อนผมเคยกินหมูแดงของ afternoon tea ที่นี่ ก็เลยคิดเอาไว้ก่อนกินว่าเจ้าซาลาเปาหมูแดงนี่ต้องอร่อยแน่ ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นครับ เนื้อหมู texture กำลังดีไม่ได้ปั่นมาจนเละ ซอสผสมผสานเข้าไปในเนื้อหมูดี แป้งซาลาเปาก็นุ่ม คือยอดเยี่ยมอ่ะครับ
- เกี๊ยวปูเจี๋ยน (Pan-fried crabmeat dumplings) - อันนี้บอกตรง ๆ ว่าก่อนจะกินผมไม่รู้หรอกครับว่ามันคือเกี๊ยวปู เพราะหน้าตาและรสชาติมันเหมือนกับเกี๊ยวซ่าแบบญี่ปุ่นมากกว่า แต่แบบพอได้กินเข้าไปแล้ว อืม มันอร่อยจริง ๆ ครับ อร่อยจนอยากให้ร้านราเมน หรือร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเกี๊ยวซ่าอยู่ในเมนู มาลองกิน แล้วลองเอาไปปรับใช้ดูว่า เกี๊ยวซ่าบ้าน ๆ รสชาติบ้าน ๆ ขอร้านพวกเขานั้นควรจะพัฒนาตรงไหนบ้าง อันนี้ อร่อยมากครับ ชอบกันทั้งโต๊ะ
- ขนมจีบเซี่ยงไฮ้ (Shanghainese Pork Dumplings with Shaoxing Wine) - อันนี้ก็เป็นอะไรที่แปลกหน่อย เป็นขนมจีบมาในสไตล์เซี่ยงไฮ้ หากินไม่ค่อยได้ อันนี้ค่อนข้างธรรมดา ๆ พวกผมไม่ค่อยชอบกันเท่าไร
- ซาลาเปาไส้ครีมนึ่งหรือทอด (Steamed or Deep-fried custard buns) - อีกหนึ่งซาลาเปาที่มีให้เลือก อันนี้ผมชอบมากกว่าไส้หมูแดงซะอีก ตัวแป้งซาลาเปา นุ่มอร่อยเหมือนกัน แต่ว่าตัวไส้นี่แบบทำมาได้ครีมมี่ ๆ มาก ๆ คือไส้แบบไม่ได้มาเป็นขุย ๆ ผง ๆ เหมือนตามร้านธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่มาแนวเนื้อเนียน ๆ จนเกือบจะเละเป็นครีม กินไปแต่ละคำนี่แบบอืม อร่อยกว่าซาลาเปาไส้ครีมทั่วไปมากมายจริง ๆ
Soups
- ซุปประจำวันสไตล์กวางตุ้ง (Soup of the day traditional Cantonese-style) - ผมไม่รู้ว่าวันอื่น ซุปอันนี้เป็นซุปอะไร แต่วันที่ผมไปนั้นเป็นซุปไก่น้ำใส ประมาณซุปโสมเกาหลีอ่ะครับ เป็นซุปที่ไม่ค่อยมีรสชาติสักเท่าไร ตามแนวซุปเพื่อสุขภาพ บำรุงกำลังอะไรพวกนั้น ผมเฉย ๆ กับถ้วยนี้นะ แต่เพื่อน ๆ ผมไม่ค่อยชอบกัน เพราะแบบมันเหมาะเป็นซุปสำหรับคนแก่มากกว่า ประมาณนั้น
- ซุปข้นผักโขมกับเห็ดรวม (Braised spinach soup with chicken and mushrooms) - อันนี้อร่อยกว่าอีกถ้วยครับ ทางร้าน เหมย เจียง ให้ผักโขมมาเยอะ จนแทบจะแบบเหมือนกินผักโขมมากกว่าซุปเลย เนื่องจากปริมาณผักโขมที่มากมายนี้ ตัวซุปก็เลยแบบเป็นซุปที่เข้มข้นอรอ่ยดีมากเลยครับ จานนี้โอเคเลย
Rice & Noodles
- ข้าวผัดหยางโจว (Fried rice Yueng chow-style) - เหมือนกับว่าเจ้าข้าวผัดหยางโจวนี่จะกลายเป็นข้าวผัดมาตรฐานสำหรับร้านอาหารจีนไปแล้วนะครับ ทุกร้านมีเมนูนี้กันหมด และมันเป็นเมนูที่สามารถใช้แบ่งแยกได้เลยว่าร้านไหนเจ๋งไม่เจ๋ง เพราะถ้าร้านไหนอาหารอย่างอื่นอร่อยก็จะทำเจ้าตัวข้าวผัดหยางโจว นี่อร่อยด้วยเช่กัน ซึ่งของร้าน Mei Jiang นี่ก็เป็นแบบนั้นครับ ข้าวผัดอร่อยมาก ข้าวแห้ง ร่วน ให้เครื่องเยอะ และเครื่องก็ชิ้นใหญ่ เต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มปากเต็มคำ โอย ชอบ
- บะหมี่ผัดแห้งกับผักรวม (Stir-fried egg noodles with mixed vegetables) - อันนี้ก็ถือว่าเป็นผัดหมี่แบบแห้ง ๆ ที่อร่อยดีใช้ได้ครับ แต่ไม่รู้เนื่องด้วยข้าวผัดหยางโจวขั้นเทพ ถ้วยก่อนหน้านี้ด้วยรึเปล่า เจ้าหมี่ผัดแห้งอันนี้ก็เลยดูเหงา ๆ ไปโดยปริยาย
Desserts
- บัวลอยงาแปะก๊วยน้ำขิง (Sesame dumplings and ginkgo nuts in ginger tea) บัวลอยรสชาติดี ก้อนไม่ใหญ่ แต่อัดแน่นไปด้วยรสชาติดี ๆ น้ำขิงก็รสชาติไม่แรงมาก แต่ก็ยังมีความแรงของขิงอยู่ อร่อยครับ เป็นบัวลอยน้ำขิงที่ไม่ lame เลย ไม่เหมือนกับบางร้านที่น้ำซุปหวานไปจนไม่เป็นน้ำขิงบ้าง หรือไม่ก็ตัวบัวลอย มันเม็ดใหญ่ แต่ไส้ในเละ ๆ ไม่อร่อยบ้าง อะไรแบบนั้น
- พุดดิ้งมะม่วง (Mango pudding) - อันนี้ก็อร่อยครับ พุดดิ้งหวาน ๆ เนื้อเนียน ๆ มีเนื้อมะม่วงมาให้กินเคล้ากับตัวพุดดิ้ง กินถ้วยนี้ปิดท้ายนี่ฟินดีแท้เหลาเลยล่ะครับ
A la carte Dinner
- ปลิงทะเลน้ำแดงกับเต้าหู้ซอสพริก (Braised sea cucumber with tofu in mild chilli sauce - 800 บาท) จานนี้แม้ว่าจะให้ตัวเนื้อปลิงมาน้อยไปหน่อย แต่แบบจากความแปลกของซุปที่ทำมาซะแบบเกือบ ๆ จะเป็นซุปไร้น้ำซุปไปแล้วคือน้ำซุปข้นมาก มันก็เลยทำให้แต่ละคำที่กินนั้นต่างจากตัวปลิงทะเลน้ำแดงที่ผมเคยกินมาที่จะเป็นซุปน้ำใสน้ำเยอะ ๆ พอสมควร ตัวปลิงนั้นให้มากับเห็ดหอม กับเต้าหู้ ในสัดส่วนที่ค่อนข้างจะลงตัว ๆ คือปลิงชิ้นนึงกินกับเต้าหู้และเห็ดรวม ๆ กันในคำเดียวก็จะหมดพร้อม ๆ กันไปพอดี จานนี้อร่อยครับ เป็นปลิงทะเลน้ำแดงสไตล์ใหม่ที่กินแล้วไม่อยากกลับไปกินสไตล์เก่าเลย คือแบบเก่ามันเหมือนจะกินแค่น้ำซุป แต่แบบนี้มันเหมือนกับได้อะไรมากกว่าน้ำซุปเยอะ
- ทอดมันกุ้งกับหอยเชลล์ (Pan-seared scallop, minced shrimp and crispy shanghainese cabbage - 620 บาท) - อันนี้เอาจริง ๆ มันไม่ใช่ทอดมันกุ้งเลยสักนิดเดียวครับ เป็นแนวพิซซ่าเกาหลีอะไรพวกนั้นมากกว่า คือหน้าตาตอนเห็นตอนแรกนี่คนละเรื่องกับทอดมันกุ้งที่พบเจอในบ้านเราจริง ๆ ตัดเรื่องหน้าตาออกไป รสชาติอร่อยมากครับ อันนี้ แป้งกรอบ ๆ เนื้อกุ้งกับหอยเชลล์ให้มากำลังดี กินแต่ละคำนี่ลืมทอดมันกุ้งแบบ traditional ในบ้านเราไปเลย (ตกลงมันคือทอดมันกุ้งสไตล์กวางตุ้ง?)
- ปลาหิมะทอดผัดพริกเกลือ (Deep-fried crispy fillet of snow fish with home-made dried shrimps and chilli salt - 680 บาท) จานนี้ก็เป็นอีกจานที่แปลก ไม่เหมือนร้านอื่น ๆ หรือเอาจริง ๆ ก็คือไม่เหมือนร้านไหน ๆ ที่เคยกินมาก่อนในชีวิตน้อย ๆ ของผมเลย จานนี้ก็อร่อยอีกแล้ว หรือเอาจริง ๆ คืออร่อยมากก็ได้ครับ ปลาหิมะแบบเอาไปชุบแป้งทอดมาทั้งชิ้นแล้วเอาไปทอดมาจนกรอบ แล้วก็รอยพริกเกลือมาเยอะมาก ๆ พอกินไปแต่ละคำนี่คือได้ทั้งรสชาติ, texture แบบที่ไม่เคยพบเจอในการกินปลาหิมะมาก่อนเลย คือมาแบบ เค็ม ๆ เผ็ด ๆ กรอบ ๆ นุ่ม ๆ แบบ โอ้โห ผสมผสานกันมาแบบลิ้นงงเลยว่าจะส่งสัญญาณประสาทไปที่สมองอย่างไรดี
- เนื้อออสเตรเลียผัดพริกไทยเสฉวน (Australian beef with szechuan pepper and spicy chilli oil - 800 บาท) ผมล่ะไม่อยากจะเขียนเลยว่าจานนี้มันก็อร่อยมากอีกแล้ว เพราะมันจะดูเชียร์ over ไปรึเปล่า แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เนื้อจานนี้นุ่มอร่อยมาก นุ่มจนแบบไม่รู้ว่าทำมานุ่มแบบนี้ได้ยังไง แต่ก็ไม่ได้นุ่มจนเนื้อเละ เนื้อเสีย texture ไปแบบพวกที่ใส่ผงหมักเนื้อนุ่มมาเยอะ ๆ อะไรแบบนั้นครับ ตัวซอสจานนี้ก็เป็นซอสสไตล์เปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ น้ำเยิ้ม ๆ คือเอาจริง ๆ จานนี้ก็คล้าย ๆ เนื้อผัดน้ำมันหอยนี่แหละ แต่แค่เปลี่ยนเป็นเนื้อนุ่มขั้นเทพ กับซอสเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ แทน อร่อยมากครับ
- แกะสันนอกเจี๋ยนซอสตะไคร้ (Lamb chops wok-seared with lemongrass sauce - 900 บาท) - จานนี้ผมรู้สึกดีใจมาก ที่จะสามารถมอบนิยามคำว่า กลาง ๆ ให้ได้แล้ว (หลังจากที่อร่อยมากมาทุกจาน) เนื้อแกะมาแบบไม่ค่อยแหล่มเท่าไร มาแบบออกแนวเนื้อไปตุ๋น, ไปต้มมา ไม่ได้ไปย่าง หรือไปทอดมา มันก็เลยแบบขาดความเกรียม, ความหอมของเนื้อไป เนื้อแกะก็ไม่ค่อยมันเท่าไร กินแล้วยังไม่ค่อยโดน ส่วนตัวซอสก็งั้น ๆ ครับรสชาติแปลก ๆ ไม่รู้ว่าต้องการจะชูรสด้านไหนกันแน่ ประมาณนั้น
สรุป ร้าน เหมยเจียง - Mei Jaing @ Peninsula Hotel, Bangkok แห่งนี้ แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการมากินครั้งแรกของผม แต่ก็เรียกได้ว่าประทับใจไปแบบสงสัยจะไม่รู้ลืมเลยก็ว่าได้ ทุกอย่างของทางร้านทำได้ประทับใจสุด ๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศร้าน, การบริการ, รสชาติอาหาร, ความแปลกใหม่และ identity ของตัวอาหาร, ความคุ้มค่าของตัว course bottomless basket dimsum อืม อ่าน ๆ รีวิวนี้อาจจะเหมือนผมอวยมากไป ยังไงก็ลองไปดูกันละกัน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบปากเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าลองกินดูกันเอาเองนะครับบบบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment