Dak Galbi - Korean Restaurant at Central City Bangna Review
ทัคคาลบี้ ร้านอาหารเกาลี เซ็นทรัลบางนา บางนา รีวิว
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4.5/5
Value 3/5
Dak Galbi (Central Bangna) - Korean Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
Dak Galbi (dak แปลว่าไก่ส่วน galbi แปลว่าซอสพริกเผาแดง ๆ ที่ราดมาให้กินคู่กัน) เป็นอาหารชื่อดังของประเทศเกาหลีที่ใครที่ได้ไปเกาหลีมาน่าจะมีโอกาสได้ลิ้มลองกันทุกคน อาหารชนิดนี้ค่อนข้างจะหาร้านเฉพาะทางในเมืองไทยกินได้ยากเพราะว่าต้องใช้อุปกรณ์ในการกินพิเศษกว่าอาหารปกติค่อนข้างมากเพราะต้องมีกระทะเหล็กขนาดใหญ่ไว้สำหรับผัด ซึ่งถ้าร้านไหนที่ไม่ได้ตั้งใจจะขายอาหารประเภทนี้ก็คงจะไม่ลงทุนสั่งกระทะ, สั่งเตามาทำกันโดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ในกรุงเทพร้านที่เน้นขายเฉพาะ Dak Galbi นี้ก็มีอยู่แค่ 2 ร้านที่ผมรู้จัก ร้านแรกก็คือร้าน Seoul Dakgalbi ในซอยสุขุมวิท 49 ที่ผมเคยรีวิวไปแล้ว และอีกร้านก็คือร้านในรีวิวฉบับนี้นามว่า Dak Galbi แบบตรง ๆ เลย
ร้าน Dak Galbi ในประเทศไทยนั้นถือกำเนิดขึ้นมาประมาณสัก 2 ปีที่แล้วจากความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการจะนำเมนูฮอตฮิตสัญชาติเกาหลีนี้มาทำให้ดีที่สุด เป็น dak galbi ที่สมบูรณ์แบบจากการไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของเจ้าของร้านเองโดยตรงที่ dak galbi street ในเมือง Chuncheon ถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายเมนูนี้ โดยเจ้าของร้านได้ตระเวณกินมาครบทุกร้านและเลือกเอาสูตรที่เจ้าของร้านชอบและคิดว่าคนไทยน่าจะชอบและนำมาประยุกต์ขายในเมืองไทยเราอย่างลงตัว ซึ่งสาขาแรกของร้าน Dak Galbi แห่งนี้จะอยู่ที่ Siam Square และด้วยความใส่ใจในคุณภาพ ความพิถีพิถันเพื่อให้ได้อาหารที่เหมือนกับต้นฉบับมาก ๆ ก็เลยทำให้ร้านนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ซึ่งในปัจจุบันนี้ร้านนี้ก็มีสาขาในกรุงเทพ 5 สาขาเข้าไปแล้ว ซึ่งสาขาที่เราจะไปรีวิวกันนี้ก็เป็นสาขาที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ของห้างเซ็นทรัลบางนากัน
บรรยากาศของร้าน Dal Gabi ณ Central Bangna แห่งนี้ตอนที่ผมเข้าไปครั้งแรกนั้นเป็นอะไรที่แอบผิดจากที่ผมคาดเอาไว้พอสมควรคือร้านตกแต่งสวยงามมาก เป็นแนว modern vintage ที่ทางเจ้าของร้านตกแต่งเอง และร้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่รองรับลูกค้าได้ถึง 100 คน ซึ่งแต่ละโต๊ะนั้นก็จะมีกระทะขนาดใหญ่ไว้สำหรับผัด dak galbi เคียงคู่กันไปกับเตาขนาดเล็กไว้สำหรับอุ่นอาหารหม้อร้อนของทางร้านด้วย และระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารทางร้านก็จะมีการเปิดเพลง pop เกาหลี คลอ ๆ เราไปตลอด คือแบบ ทุกอย่างของร้านนี้นี่เป็นอะไรที่เกาหลี๊ เกาหลีจริง ๆ เลยล่ะครับ
dak galbi แบบ original นั้นจริง ๆ แล้วจะมีแค่เนื้อไก่นำมาผัดกับผักแค่นั้น แต่ว่าทางร้านนี้ได้มีการประยุกต์นำเนื้อหลายชนิด ๆ มาใช้ด้วย เช่นเนื้อหมู, เนื้อวัว ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันจะทำลายความเป็น original อะไรลงไปรึเปล่า แต่จากความรู้สึกของผมเองแล้ว อาหารชนิดนี้ เอาเนื้อประเภทไหนมาเป็นวัตถุดิบเนื้อก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร เพราะดูมันจะเข้ากันได้ดีหมดกับเนื้อสัตว์ทุกชนิด แน่นอนว่าคนที่มากินที่ร้านนี้ก็คงจะสั่งทัคคาลบี้กันอย่างนึง ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วร้านทัคคาลบี้แท้ ๆ ก็จะไม่มีเมนูอื่นขายพ่วงแต่อย่างใด แต่ของร้านนี้นี่คือเค้าต้องการความหลากหลาย ความสมบูรณ์แบบก็เลยมีอาหารเกาหลีหลากหลายขนิดขายเป็น sidedish ขายเป็น topping พ่วงไปด้วย เช่น พิซซ่าเกาหลี, ซุปกิมจิ, บุลโกกิ ครบครันกันเลยจริง ๆ ล่ะครับ
อาหารในมื้อนี้ก็ค่อนข้างจะครอบคลุมทุกเมนูของทางร้านนี้เลย ก็มาไล่เรียงกันไปเลยดีกว่า
ชุดไก่ผัดซอสคาลบี้ (Chicken galbai (Dak galbi) - 275 บาท): ทางร้านจะมีคนที่มาผัด dak galbi ให้กับเรา เราไม่ต้องผัดเอง ซึ่งที่เกาหลีเองก็จะเป็นแบบนี้จะมีคนมาทำให้ เพราะว่าการผัดอาหารชนิดนี้นั้นไม่ใช่ว่าใครจะทำได้ดี ทำได้อร่อยในครั้งแรกที่ได้กิน มันจะต้องมีการปรับไฟ, การดูดควัน, การทิ้งช่วงให้อาหารสุก และอื่น ๆ กว่าจะออกมาเป็น dak galbi ที่สมบูรณ์แบบได้ ซึ่งพนักงานที่จะมาผัดให้ลูกค้านั้น ทางร้านจะทำการ training กันมาก่อนจนมั่นใจว่าสามารถผัดออกมาได้ดีแล้วถึงจะยอมปล่อยให้มาทำให้ลูกค้าครับ dak galbi ของร้านนี้อร่อยสมกับที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนจริง ๆ เนื้อไก่นุ่มอร่อย, ผักสดกรอบนิด ๆ ซอสที่ใส่มาก็เผ็ด จัดจ้านดี และสุดท้ายแล้วตอนผัดออกมาตัว dak galbi จะออกแนวแฉะ ๆ เล็กน้อย ทำให้ทุก ๆ อย่างฉ่ำดีเวลากิน ไม่เหมือนกับที่เกาหลีเองที่ผมเคยไปกินมาบางร้านแล้วมันแห้ง ๆ เกินไปไม่ค่อยอร่อยเท่าไร พวกผม 3 คนที่ไปในมื้อนี้ชอบกันหมดเลย
และพอเรากินเนื้อไก่, ผักกันไปจนจะหมด (หรือหมดแล้วก็ตาม) ในกระทะก็จะยังมีซอสเหลืออยู่ ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วเค้าก็จะมีการนำข้าว, นำเส้นราเมนหรืออะไรต่าง ๆ ลงมาผัดเพิ่มเพื่อเติมเต็มกระเพาะเราให้มากยิ่งขึ้นได้ โดยที่เราไม่ต้องเสียตังค์สั่งใหม่ทั้งชุด รวมถึงได้รสชาติอาหารที่แตกต่างออกไปด้วย ซึ่งในมื้อนี้เราก็มีการใส่เพิ่มไป 3 อย่างคือ เส้นราเมนซารี่ (Rameon noodle - 60 บาท), ข้าวไก่ผัดซอสคาลบี้ (Chicken galbi fried rice - 175 บาท) และ มอสซาเรลล่าชีส (Mozzarella cheese - 60 บาท) ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ก็ใส่ลงไปตูมเดียวแต่จะผัดแยก ๆ กระทะกัน และสุดท้ายก็จะออกมาเป็นข้าวผัดซอสพริกเผาที่ชีสเยิ้ม ๆ , เส้นราเมนผัดพริกเผา ที่อืม อร่อยคนละ feel กับ dak galbi แท้ ๆ แต่ก็ไม่ได้หนีจากกันมาก ก็อร่อยลงตัวไปอีกแบบล่ะครับ
อาหารในกระทะหลักในมื้อนี้ก็หมดลงเท่านี้ครับ จานที่เหลือในมื้อนี้ก็จะออกแนวเป็น side dish ล่ะ โดยจะมีอีก 4 อย่างมาไล่เรียงกันไปเลย
ทัคคัลยอง + cheese (Dak Gang-jung + cheese - 180 บาท): จานนี้เป็นประมาณเนื้อไก่ทอดแล้วก็ราดมาด้วย cheddar cheese ครับ อารมณ์ประมาณไก่คาราเกะ แต่เนื้อไก่จะกรอบน้อยกว่าหน่อยเพราะไม่ได้ชุบแป้งทอดมามากมาย ตัวชีสก็แบบช่วยเพิ่มความหอม ความมัน อร่อยดีครับ
ซุปกิมจิ (Kimchi chiojae - 149 บาท): น้ำซุปรสชาติจัดจ้านเป็นสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ที่พวกผมค่อนข้างชอบกันมาก ซดกันโฮก ๆ เลย ทางร้านมีใส่เนื้อตุ๋นมาด้วย ซึ่งตัวเนื้อตุ๋นนี่คือแบบอร่อยมาก นุ่มมาก จานนี้เพิ่มทีเด็ดด้วยเตาไฟฟ้าเล็ก ๆ ที่ออกแบบมาสำหรับอุ่นตัวซุปโดยเฉพาะทำให้ตลอดเวลาที่กินนี่คือ ร้อน อร่อยตลอดเวลา บอกตรง ๆ ว่ากินซุปกิมจิในประเทศไทยมาหลายร้านครับ ส่วนใหญ่ทำรสชาติมาแบบงง ๆ ไม่รู้ว่าทำกันออกมาได้ยังไงแต่คือของร้าน dak galbi หม้อนี้นี่คือ อร่อยลงตัวจริง ๆ ล่ะครับ
พาจอน (Pajeon - 150 บาท) หรือพิซซ่าเกาหลี ที่จะเป็นแป้งนำมาโรยด้วย กุ้ง, ต้นหอม, ต๊อกป๊อกกี้ แล้วก็นำไปอบจนกรอบมาเล็กน้อย และก็จิ้มกินกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน จานนี้ก็อร่อยประมาณพิซซ่าแป้งหนาหนุ่มหน้า seafood กลาย ๆ ครับ อร่อยอีกเช่นกัน
ปังซุปกล้วย ช็อคโก้ (Choco banana bingsu - 185 บาท): ของหวานสไตล์เกาหลีที่เป็นคล้าย ๆ เกล็ดน้ำแข็งรสช็อคโกแลตเสิร์ฟพร้อมถั่วแดงเย็น, ขนมปัง, กล้วยหอมและ whipped cream ขนมหวานจานนี้ทางร้านบอกว่าที่เกาหลีขายดีมากช่วงหน้าร้อน เพราะเป็นอะไรที่ช่วยดับร้อนได้ดีมาก ตอนจะกินเราก็จะนำทุกอย่างมาคลุก ๆ เข้าด้วยกันจนกลายเป็นคล้าย ๆ น้ำปั่น รสชาติอันนี้อารมณ์คล้ายๆ น้ำแข็งใสกับน้ำ smoothie ดีครับ ไม่ถึงกับร่วนมีอะไรให้เคี้ยว ๆ เล็กน้อย และก็เย็น ๆ ชื่นใจดีมาก
สรุป ร้าน Dak Galbi ณ เซ็นทรัลบางนา แห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารเกาหลีที่แบบเกาหลี๊ เกาหลี จริง ๆ สมกับที่ทางเจ้าของร้านไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ถึงต้นตอ และมุ่งมั่นที่จะทำร้านเกาหลีดี ๆ ของแท้ในเมืองไทยออกมา ใครอยากจะลองเมนูอาหารเกาหลีแบบแท้ ๆ ที่ไม่มีทางพบเจอได้ในร้านอาหารอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป หรือใครเคยเสียอารมณ์กับเมนูเกาหลีเก๊ ตามร้านเกาหลีที่แบบไม่ถึงขั้นจริง ๆ ก็มาลองร้านนี้กันได้ครับ สะดวกสาขาไหนก็ไปสาขานั้นกันได้เลย ร้านนี้เค้ามีกัน 5 สาขาทั่วกรุงเทพเลยล่ะ (สาขาที่ 6 ที่เซ็นทรัลพระราม 9 กำลังจะเปิดในเดือน พ.ย. 56 นี้ครับ)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment