Wednesday, December 19, 2012

Seven Spoons Bangkok Review

Seven Spoons - European & Mediterranean Restaurant Bangkok

เซเว่น สปูนส์ ร้านอาหารยุโรป เมดิเตอร์เรเนียน จักรพรรดิพงษ์ ราชดำเนิน




Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4.5/5

Seven Spoons - Mediteranean Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)



ร้าน Seven Spoons แห่งนี้ก็เป็นร้านที่เรียกได้ว่าอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างจะอโคจรเล็กน้อยทั้งกับนักท่องเที่ยว, หรือนักกิน หรือใครก็ตาม เนื่องด้วยทำเลของร้านที่เป็นห้องแถวห้องเดียวและตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ใช่ว่าใครจะเดินผ่านกันสักเท่าไร กับบริเวณสี่แยกจักรพรรดิพงษ์ และทำเลของร้านที่เรียกได้ว่าอโคจรอยู่แล้วยังไม่พอ ป้ายร้านก็เล็ก และยังมีกระถางต้นไม้ต้นใหญ่มาบังหน้าร้านอีก แต่ถึงแม้ว่าทำเลของร้านจะเป็นแบบนี้ ร้านนี้เค้าก็หาได้แคร์อะไรไม่ เนื่องจากลูกค้าของร้านนี้เค้าเต็มทุกวัน และเนื่องด้วยจำนวนโต๊ะของทางร้านที่มีอยู่แค่ 3 โต๊ะในห้องแอร์กับอีก 1 โต๊ะด้านนอก ก็เลยทำให้ร้านนี้ถ้าจะมากินจริง ๆ แนะนำให้จองโต๊ะไว้ก่อนจะดีมาก เพราะว่าเต็มทุกวันจริง ๆ อะไรจริง อย่างวันที่ผมไป ผมก็โทรจองอยู่หลายรอบกว่าจะได้โต๊ะเนื่องจากรอบก่อน ๆ หน้าจะไปเอาวันเสาร์เย็น ซึ่งแบบโทรไปทีไรก็เต็มตลอด วันที่จะไปสุดท้ายเลยไปเอาวันธรรมดานี่แหละ ก็เลยได้โต๊ะจนได้ .. แต่ก็ได้โต๊ะเอาตอนเกือบ ๆ 3 ทุ่มครับ เป็นประมาณรอบที่ 2 ของทางร้านแล้วนั่นเอง

ต้นกำเนิดของร้าน Seven Spoons นี้เกิดจากการทำ Catering ส่งลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ที่สหประชาชาติ ทางร้านทำส่งไปทำส่งมา ก็เลยมาเปิดร้านอาหารของตัวเองกันซะเลย ตัวร้านก็เลยเป็นการร่วมงานกันระหว่างกลุ่มเพื่อนโดยแบ่งหน้าที่กันเป็นคนรับแขก กับเป็นเชฟ ซึ่งตัว Catering ก็ยังคงทำอยู่ (ผมจำไม่ได้ล่ะว่าเว็บอะไรถ้าจะเข้าไปดูร้านอาหาร) และก็ตัวร้าน Seven Spoon นี้เนื่องจากว่าขายดีมากทางร้านก็เลยจะขยับขยายไปเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าทำเลเป๊ะ ๆ อยู่ตรงไหน เห็นบอกว่าจะย้ายร้านถัดไป 2 block เป็นร้านขนาดใหญ่กว่าเดิม ครัวใหญ่กว่าเดิม ซึ่งทางร้านบอกว่าจะย้ายร้านประมาณต้นปีหน้า ก็ไว้เดี๋ยวค่อยอัพเดทกันอีกทีถึงทำเลเป๊ะ ๆ ของทางร้านละกันนะครับ

อาหารของทางร้านนี้จากที่พูดคุยกับทางร้านแล้ว ร้านจะเน้นอาหาร Mediterranean เนื่องจากว่าจะสามารถเล่น, สามารถ Twist ได้มากกว่าอาหารยุโรปเฉย ๆ และก็ร้านอาหารยุโรปในบ้านเรานั้นมีค่อนข้างเยอะแล้วก็เลยอยากจะ stand out จากชาวบ้านเขาสักเล็กน้อยว่างั้น ตัวอาหารของทางร้านนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนทุก ๆ Season (ไทย) หรือประมาณ 4 เดือนครั้ง อาหารในมื้อที่ผมไปกินก็น่าจะเป็นอาหารฤดูหนาว (หนาว???? เหงื่อท่วม?) และก็รู้สึกว่าจะเพิ่งเปลี่ยนเมนูพอดี ตัวเมนูของทางร้านนั้นก็จะมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะประมาณ 20 - 30 อย่าง ตามประสาร้านชั้นดีเน้น Quality มากกว่า Quantity นอกจากตัวอาหารแล้ว ร้านนี้จะมี Cocktail ที่รังสรรค์สูตรขึ้นมาเองด้วยอีกหลายชนิด จุดเด่นของร้าน Seven Spoon สำหรับผมนอกจากตัวทำเลที่เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้จะถ่อมากินก็คงไม่ได้มากินแล้วก็คงเป็นเรื่องราคาครับ อาหารราคาไม่ค่อยแพงเลย เมื่อเทียบกับร้านอาหารยุโรปในกรุงเทพร้านอื่น ๆ และนอกจากราคาอาหารบนเมนูจะไม่ค่อยแพงแล้ว ทางร้านยังไม่มี Vat + Service Charge ด้วยก็เลยทำให้ราคาอาหารถูกยิ่งขึ้นไปอีก








ว่ากันด้วยเรื่องเครื่องดื่มของทางร้านก่อนละกัน มื้อนี้พวกผมสั่งไป 3 อย่าง (2 แก้ว + 2 ขวด) ตัวเครื่องดื่มแบบเป็นแก้วนั้นส่ง Cocktail ที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเอง อย่างแรกคือ Silver Spoon (Thailand smiles with Martini bianco, spiced rum, lime wedges and galangal) - 180 บาท Cocktail ที่ขนาดเอาชื่อร้านมาตั้งมันก็ต้องเป็นอะไรที่น่าจะเทพ น่าจะอร่อยและทางร้านภูมิใจนำเสนอใช่มั้ยครับ? คือผมไม่ขอเข้าถึงส่วนผสมของ Cocktail ละกันเอาเป็นว่าอร่อยหรือไม่อร่อยแค่นั้นพอ ซึ่งเจ้า Seven Spoons นี่ผมว่ามันก็อร่อยดี อร่อยแบบกินได้เพลิน ๆ แต่พอดีมันมีเจ้า Cocktail เทพแก้วที่สองนามว่า Better Weather (Fresh ginger sliced, wild honey, American whiskey and apple juice) - 180 บาท แก้วนี้ ไม่ขอพูดถึงส่วนผสมอีกเช่นกัน เอาเป็นว่ามันเป็น Cocktail ที่เทพมาก ๆ แค่นั้นพอ จบ period คือมันอร่อยแบบ..น่าจะอร่อยที่สุดในช่วงปีนี้ที่กินมาเลย อร่อยกว่าร้าน Little Beast ที่ผมว่าที่นั่นก็เทพแล้ว, อร่อยกว่าที่ Zuma ที่ผมว่าที่นั่นก็เทพแล้วอีกเช่นกัน อร่อยจนแบบถ้าไม่ติดว่าพวกผมไม่ใช่คอ Cocktail และเรื่องราคาแล้วพวกผมก็คงจะสั่งกันไปเรื่อย ๆ ล่ะ ส่วนเครื่องดื่มอีกอย่างก็เป็น Beer Lao Dark - 100 บาท หรือเบยลาวดำ เจ้าเบียร์ชนิดนี้ก็ไม่ค่อยเห็นคนขายกันสักเท่าไร ซึ่งรสชาติก็ดีนะครับ เข้ม ๆ นุ่มลึกตามประสาเบียร์ดำดี

เข้ากันถึงเรื่องอาหารก่อน ตัว Appetizer ในมื้อนี้สั่งไป 2 อย่าง อย่างแรกเป็น  Grilled chicken, cheddar cheese and smoked chipotle pepper quesadilla - 180 บาท คือจริง ๆ เจ้า เคซาดิญ่า นี่มันก็เป็นอาหารเม็กซิกันนะครับ Chipotle ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงร้าน Seven Spoons จะทำอาหารชาติไหนกันแน่ แต่ชาติไหน ชาติหน้า ชาตินู้น ผมก็ไม่สนล่ะครับ เพราะมันเป็น Quesadilla ที่หน้าตาธรรมดาแต่รสชาตินั้นอร่อยเกินหน้าตามาก คือหน้าตามาแบบ เอาจริงดิ? แป้งกรอบ ๆ แห้ง ๆ กับซอสซัลซ่า ตอนก่อนกินไม่คิดอะไรเลยครับว่ามันจะอร่อย แต่พอกินแล้ว โอ้ว ทุกอย่างมันลงตัวมาก แป้งกรอบ ๆ นั้นทำมาเพื่อชูรสชาติของไส้ในที่เป็นไก่ย่างเนื้อฉ่ำ ๆ และเอาซอสซัลซ่าเทลงบนแผ้นแป้งเพื่อเพิ่มความฉ่ำเข้าไปอีกก็ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่







อาหารอย่างที่ 2 เป็น Middle Eastern delight falafel salad - 180 บาท คือเจ้า Falafel นี่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จัก ตัวผมเองก็เพิ่งรู้จักตอนที่ไปตระเวณกินร้านที่อเมริกันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี่เอง มันคือก้อนแป้งทอด อารมณ์ประมาณลูกชิ้นบ้านเรา แต่เป็นอาหารของ Middle East เค้า แล้วประเด็นคือตอนผมไปกินที่อเมริกา มันอร่อยมาก และมาชิ้นใหญ่ ๆ เลย แต่แบบพอมากินที่ Seven Spoons นี่มันกลับไม่ค่อยอร่อยเท่าไร มันเป็นแป้งแบบแป้งจ๋า ๆ แล้วก็ผิวไม่ได้กรอบ ๆ สาก ๆ เหมือนที่กินที่อเมริกา แล้วก็ลูกเล็กกว่า และก็ไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไร ยังดีที่จานนี้ตัวสลัดทำมาได้ดีน้ำสลัดรสชาติลงตัว ไม่ได้เปรี้ยวจี๊ด, ไม่ได้ชีสจ๋าแบบร้านยุโรปหลาย ๆ ร้านช่วงหลังที่กิน

เข้าสู่อาหารจานหลักกันต่อ มื้อนี้จริง ๆ มี Pasta 2 จาน จานแรกเป็นจานที่อยู่ในเมนูกับ Crab ravioli with pink peppercorn cream sauce - 240 บาท จานนี้พาสต้าราวิโอลี่ที่แบบแค่เห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่า(แม่ง)ต้องอร่อยแน่นอน คือแบบซอสที่ราดมาดูดีมาก ๆ และตัว Ravioli ก็แบบบวมเป่ง น่าเจี๊ยะ ซึ่งมันไม่ได้บวมเป่งจากเนื้อหมู หรือเนื้ออะไรด้วย มันคือเนื้อปู!! แน่นอนครับ พอกินเข้าไป fin ครับ fin แฟง จนพวกผมแทบแย่งกันกินแทบไม่ทัน (อ้อ fin เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า จบ - the end นะครับ อ่านว่า แฟง แต่แบบบางทีผมก็กลัวเพื่อนไม่รู้เรื่องก็พูดว่าฟินบ้างอะไรบ้าง) จานนี้ไม่มีอะไรให้ต้องติเลย นอกจากปริมาณ ที่ทางร้านให้มาแค่ 5 - 6 ชิ้นเท่านั้น กินไม่ทันสะใจก็หมดแล้ว จริง ๆ มื้อนี้มีพาสต้าอีกจานแต่พอดีมันเป็นเมนูหน้าร้าน แล้วผมก็ลืมถ่ายมาด้วยก็เลยจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่คร่าว ๆ ก็คือเป็นประมาณ Spaghetti Meatball นั่นเอง จานนี้ก็อร่อยครับน่าจะเป็น Spaghetti Meatball ที่อร่อยมาก ๆ หรืออร่อยที่สุดช่วงหลังที่กิน ๆ มาเลย (แม้ว่าช่วงหลังนี่จะมีกินแต่ตามไลน์ sunday brunch ตามโรงแรมต่าง ๆ ก็ตาม) แต่ถ้าให้เทียบกับจานแรก จานนี้ก็แพ้น็อคไปแบบไม่ต้องสืบ










อาหารจานต่อมาเป็น Risotto balls, seafood with marinara sauce - 260 บาท จานนี้ก็มาหน้าตาค่อนข้างไม่ค่อยเหมือน Risotto ที่กิน ๆ มาส่วนใหญ่เล็กน้อยคือจะเป็น Risotto มาแบบข้าวเละ ๆ น้ำแฉะ ๆ เหมือนโจ๊กเลยประมาณนั้น จานนี้รสชาติค่อนข้างไร้รสชาติ รวมถึงตัวเนื้อที่ให้มาบนจานตอนแรกก็นึกว่าเป็นเนื้อสัตว์แต่รู้สึกว่าน่าจะเป็นเต้าหู้ คือมันจืด ๆ เละ ๆ ไม่ค่อยมีรสชาติ สรุปจานนี้ก็เลยกลายเป็นจาน เละ ๆ ไร้รสชาติไปทั้งจาน (เขียนไปเขียนมารู้สึกว่าตัวเมนูผมอาจจะเขียนผิด)

ส่วนอาหารจานหลักจริง ๆ ในมื้อนี้ก็มีอยู่ 2 จาน จานแรกเป็น Pan-seared white snapper with lavender cream sauce and pistachios - 260 บาท  หรือเรียกสั้น ๆ ง่าย ๆ สำหรับจานนี้ก็คือปลากะพงทอดนั่นเอง จานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจานที่อร่อยและแย่งกันกินแทบจะไม่ทัน เนื้อปลากรอบนอกนุ่มใน ซอสมาแบบรส mild ๆ แต่อร่อยเข้ากันดีกับเนื้อปลา เติมกลิ่นด้วย lavender หอม ๆ เป็นอีกหนึ่งจานที่ Perfect ลงตัวมาก ตอนแรกผมนึกว่าจะ Fin ไปกับเจ้าจานปลากะพงนี่แล้ว แต่ด้วยกระเพาะของสามหนุ่มที่ยังไม่อิ่มดีพอก็เลยให้ทางร้านแนะนำ Main Course มาอีกจานก็ได้มาเป็น Bacon wrapped pork filet with apple mango chutney and blue cheese potatoes - 340 บาท จานนี้จากหน้าตาที่แบบแสนจะพิถีพิถัน เอาเบคอนไปห่อเนื้อหมู(น่าจะส่วนสันใน) และเสิร์ฟมาพร้อมกับมะม่วงและซอสอร่อย ๆ แค่เห็นความพิถีพิถันของจานนี้ก็รู้แล้วว่าต้องอร่อย จานนี้ก็เรียกได้ว่าโชคดีที่ทางร้านให้เนื้อหมูพันเบคอนมา 3 ชิ้นพอดี ก็เลยแบ่งกันลงตัว เพราะถ้าไม่งั้นคงตีกันตายแน่ เพราะมันอร่อยมาก เนื้อหมูนุ่มอร่อยสุด ๆ ไม่มี undercook, overcook มาให้เสียอารมณ์ เสริมรสชาติความมันด้วยเบคอนที่พันมา และกินเข้าคู่กับมะม่วงหวาน ๆ และซอสเค็มนิด ๆ หวานหน่อย ๆ โอ้วสวรรค์








ร้าน Seven Spoons นี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มาตกม้าตายเอาที่ของหวานครับ พวกผมสั่ง Sea salt caramel creme brulee - 110 บาท ไป ก็ได้มาเป็น creme brulee ถ้วยเล็ก ๆ ซึ่งหน้าตาอะไรทุกอย่างก็ตามมาตรฐานดี แต่รสชาติมันยังไม่ใช่ครับ เหมือนมันจะหวานไป, ผิวบนของ creme brulee ก็ยังไม่กรอบพอ และยิ่งเทียบกับ creme brulee ที่ผมเพิ่งกินกับร้าน Le Beaulieu มาก็ยิ่งสู้ไม่ได้เข้าไปใหญ่ เสียดายครับ ไม่ได้จบแบบ grand finale happy ending จนได้

สรุป ร้าน Seven Spoons นี่ก็ไม่น่าแปลกใจครับว่าทำไมแม้ว่าร้านจะอยู่ในทำเลที่อโคจร(สำหรับนักท่องเที่ยว, ผู้คนทั่วไป) แบบนี้ แต่ร้านนี้ก็เรียกได้ว่าแทบจะเต็มทุกวัน อาหารอร่อย หน้าตาสวยงาม ราคาไม่แพง เติมเต็มด้วยเครื่องดื่มเก๋ ๆ รสชาติดี ๆ ด้วย ก็เรียกได้ว่าไม่รู้จะไปเรียกร้องอะไรจากร้านอาหารร้านนึงเค้าแล้ว ก็หวังว่าร้านนี้เมื่อย้ายทำเลแล้ว น่าจะมีโต๊ะรองรับลูกค้ามากขึ้นและการไปกินก็คงจะไม่ลำบากเหมือนดังเช่นปัจจุบันแบบนี้ แต่ถ้าให้เอาจริง ๆ ย้ายทำเลมาอยู่แถว ๆ ในเมืองกว่านี้ รับรอง ร้านดังระเบิดแน่ครับ





--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment