Saturday, September 8, 2012

Japan Spring Trip 2012 by BumRes.com - Day 3

Japan Spring Trip 2012 by BumRes.com - Day 3



วันที่ 3 นี่โปรแกรมการเที่ยวของผมคือปล่อยให้ทัวร์ญี่ปุ่นจัดการ ผมกับเพื่อน ๆ ซื้อทัวร์แบบ One Day ไปเช้าเย็นกลับเอาไว้  เป็นทัวร์ของ Club Tourism Yokoso Japan Tour ซึ่งในทริปของผมครั้งนี้ ผมฝากชีวิตไว้กับทัวร์นี้ถึง 3 ทริป เริ่มต้นทัวร์แรกด้วยการไปทัวร์สวนดอกไม้ต่าง ๆ 3 ที่  ทัวร์นัดพวกผมไว้ตอน 7.20 น. ที่บริเวณจุดนัดพบของหลาย ๆ ทัวร์บริเวณด้านหลังโรงแรม Keio Plaza ฝั่งตะวันตกของสถานีรถไฟชินจูกุ คือเจ้าสถานีชินจูกุ เนี่ยเป็นสถานีหลักของโตเกียวฝั่งตะวันตก เวลาจะเดินทางไปอะไรที่อยู่ตะวันตกของโตเกียว ก็จะต้องมาเริ่มที่สถานีนี้กันหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ, รถทัวร์ แต่ไม่รวมเครื่องบิน (จะรวมได้ยังไงล่ะ) สถานที่ที่อยู่ตะวันตกของโตเกียวก็ไล่เรียงกันไปเลยก็ โอซาก้า, ภูเขาไฟฟูจิ, ฮาโกเน่, ฮิโรชิมา และอื่น ๆ อีกมากมาย คือแทบจะทุกที่เที่ยวต้องไปเริ่มที่ชินจูกุนี่หมด ยกเว้นก็แต่แถว Tohoku (เซนได, อาโอโมริ) และฮอกไกโด ที่ต้องไปเริ่มที่  Ueno หรือ Tokyo Station แทน

ทัวร์ในวันนี้ของเกริ่น ๆ ไว้ก่อนว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะ fail เนื่องจากวันนี้ฝนตกทั้งวัน ซึ่งตกมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยงแล้ว ฝนตกปรอย ๆ แต่ก็เปียกได้ ทั้งวันแบบนี้ ไม่ค่อยมีหรือไม่มีที่เมืองไทยว่ามั้ยครับ มันเป็นฝนที่น่ารำคาญมากสำหรับคนที่มาเที่ยวอย่างผม คือแบบนอกจากถ่ายรูปไม่สวยแล้ว ยังถ่ายรูปไม่ค่อยได้ และลำบากลำบนต้องกางร่มไปถ่ายรูปไปด้วยอีกต่างหาก คือถ้าไม่ได้จ่ายเงินค่าทัวร์ไปก่อนแล้วนี่ผมคงจะไม่มาทัวร์วันนี้ให้เสียอารมณ์หรอกครับ (ฮือ ๆ) แต่ข้อดีของฝนตกวันนี้ ก็มีอย่างนึงคือแม้ว่าวันนี้ (3 May 2012) จะเป็นวันที่อยู่ในช่วง Golden Week ของคนญี่ปุ่น แต่เนื่องจากเจ้าฝนเจ้ากรรมทำให้สถานที่เที่ยวต่าง ๆ ที่ผมไป ไม่ค่อยเจอคลื่นผู้คนสักเท่าไร สำหรับคนที่สนใจทัวร์แบบ One Day นี่จริง ๆ ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายบริษัทให้บริการนะครับ ลอง search ๆ ดูจากเว็บ japan-guide.com  เอาก็ได้ อย่างของผมก็หาเจอจากเว็บนี้ ซึ่งบริษัททัวร์ Club Torusim ของผมนี่ก็ถือว่าเป็นทัวร์ขนาดใหญ่ มีทัวร์จัดพร้อม ๆ กันหลายทัวร์ และเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตาม Season ใครสนใจก็ดูตาม link นี้ได้ครับ Club Tourism Japan

ฝนตกทั้งวันครับวันนี้ -*-

ฝาท่อน้ำของญี่ปุ่นจะทำเป็นรูปสัญลักษณ์ประจำเมืองครับ ไม่รู้เมืองนี้เกี่ยวอะไรกับแรคคูน

ดอกไม้ไม่่ค่อยสวยเท่าไร เพราะว่าฝนตกครับ

เสาหินไม่รู้อ่านว่าอะไรเหมือนกัน




เดินมาเหนื่อย ๆ เลยแวะกินเบียร์เย็น ๆ หน่อยครับ เบียร์สดที่ญี่ปุ่นนี่อร่อยจริง ๆ

โอเด้งก็เป็นอาหารโปรดผมที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน ร้อน ๆ อร่อย ๆ

สถานที่แรกที่ทัวร์พาผมไปคือสวน Tatebayashi Tsutsuji-ga-oka Park (Azalea Hill Park) พิกัด 36.243186,139.557055 (ไปกรอกใน Google Maps ได้เลยครับ สวนนี้ก็เป็นสวนดอกไม้ขนาดกำลังดี ดอกไม้เด่น ๆ ของที่นี่จะเป็นดอก Tsutsuji หรือดอก Azalea แต่จริง ๆ ก็มีดอกไม้อื่น ๆ อีกบ้างพอสมควรประปราย คือจริง ๆ แล้วก็ตามที่พิมพ์ไว้ตอนต้นแหล่ะครับว่าถ้าฝนไม่ตก , แดดออกซักหน่อย สวนและดอกไม้ในสวนนี้ก็คงจะสวยงามมาก ๆ แต่แบบดอกไม้เจอฝนตกมาตั้งแต่เมื่อวานจนดอกเหี่ยวไปเกือบหมด เดินไปเดินมาในสวนก็เป็นดิน ๆ โคลน ๆ เศร้าครับ


อันนี้ตั๋วเข้าวัดครับ

ไม่ค่อยมีดอกไม้สักเท่าไร ไม่รู้ว่าเพราะฝนตกแล้วหุบหรือว่าไม่ค่อยมีอยู่แล้ว

ฝนก็ยังคงตกอยู่


ดอกโบตั่นที่น่าจะหาดูที่ไทยไม่ได้

มันก็สวยดีนะครับ แต่ผมว่าถ้าฝนไม่ตกน่าจะสวยกว่านี้



ข้าวกล่องของทางทัวร์

ก็พอกินได้เฉย ๆ ครับ 



ส่วนสถานที่ที่ 2 ที่ไปคือ Ryushin-ji temple เป็นวัดที่มีดอก Peonies หรือดอกโบตั๋นอยู่กว่า 2500 ดอก คือดอกโบตั๋นนี่เพื่อนผมบอกว่าที่เมืองไทยปลูกไม่ได้เลยเพราะว่ามันเป็นดอกเมืองหนาว ผมก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยที่แบบเฮ้ยได้ดูดอกไม้หายาก ซึ่งก็เหมือนสวนแรกครับคือ ถ้าฝนไม่ตก ดอกโบตั๋นก็คงจะบาน ผลิดอกสวยงาม เพราะนี่ขนาดมันเหี่ยว ๆ แต่ก็ยังสวยดีเลยนะผมว่า คือดอกโบตั๋นมันจะดอกใหญ่ ๆ มีหลาย ๆ สี พอเอามากระจุก ๆ รวม ๆ กันแล้วมันสวยดีจริง ๆ พิกัดของวัดนี้ก็อยู่ที่ 36.419461,139.268261 ลองดูใน google maps เอานะครับ

หลังจากเปียก ๆ แฉะ ๆ เซ็ง ๆ กับดอกไม้ที่เหี่ยว ๆ และกลับไปนั่งในรถ ทางทัวร์ก็แจกอาหารกล่องที่หน้าตาดูดีแต่รสชาติเฉย ๆ มาให้กล่องนึง คือผมเนี่ยเป็นคนที่ชอบตระเวณซื้ออาหารกล่องของญี่ปุ่นพอสมควรเลย เนื่องจากได้ดูรายการทีวีแชมเปี้ยน หรือ โกโกริโกะเกมกึ๋ยส์ที่ชอบจะมีพาไปเปิดตำนาน หรือตระเวณกินอาหารกล่องเทพ ๆ ตามสถานีรถไฟหรือสนามบิน ซึ่งแต่ละอันที่ทางรายการเอามาออกอากาศนี่ผมว่ามันเทพ ๆ ทั้งนั้นเลย ตัวผมเองก็พยายามสรรหา พยายามซื้อมาหลายกล่องแล้ว ทั้งแพงบ้างถูกบ้าง (แพง ๆ นี่เคยซื้อกล่องละ 2000 yen เลยครับ) แต่แบบยังไม่เคยเจออร่อย ๆ เลย ส่วนใหญ่จะเป็นแบบพอกินได้ และมีบางกล่องที่กินไม่ได้เลย T_T ไม่รู้ว่าผมเลือกไม่เป็นหรือว่าผมไม่ชอบอาหารเย็น ๆ กันแน่นะครับ แต่สิบกว่ากล่องที่กินมา มันไม่อร่อยเลยง่ะ แต่เจ้าอาหารกล่องพวกนี้จะมีดีอย่างคือ packaging เทพมาก ๆ ไม่ว่าจะรสชาติห่วยแตกแค่ไหนแต่การทำหีบห่อวัสดุนี่จะเทพไว้ก่อนพี่ยุ่นสอนไว้ ซึ่งจะว่าไปแล้ว  packaging ของญี่ปุ่นนี่ผมว่าเป็นที่สุดในสามโลกเลย อยากให้ประเทศไทยของเราลองพยายามพัฒนาเรื่องนี้ขึ้นมา เผลอ ๆ ของที่ขายไม่ค่อยได้อาจจะขายได้ ของที่ขายดีอยู่แล้วอาจจะอัพราคาขึ้นกว่าเดิมได้อีกเยอะ ๆ เลยอะไรประมาณนั้น ข้าวกล่องที่ทางทัวร์แจกให้ในมื้อนี้ก็เหมือนกับที่กิน ๆ มาครับ อยู่ในระดับพอกินได้ค่อนไปทางไม่อร่อย ประมาณนั้น T_T


ไปถึงอีกสวนนึงล่ะครับ สวนนี้อลังการที่สุดแล้ว

ต้น Wisteria มีเยอะแยะเต็มสวนเลย

มีหลากสีด้วยครับ

แต่เสียดายเหี่ยว ๆ ไปหน่อยเพราะว่า




อันนี้ต้น Wisteria ที่ใหญ่มาก ๆ สวยดีครับพอไปยืนอยู่ด้านล่าง

สถานที่สุดท้ายที่ทัวร์พาไปคือ Ashikaga Flower Park หนึ่งในสวนดอกไม้ขั้นเทพของประเทศญี่ปุ่นเค้า พิกัด 36.313329,139.520249 สวนนี้เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทัวร์นี้เลย เพราะว่าเป็นสวนดอกไม้ที่ใหญ่มาก และจะมีต้น Wisteria ขนาดยักษ์อยู่หลายต้นที่แบบ สวยงามจริง ๆ และก็มีอุโมงค์ Wisteria สีขาวยาวประมาณสัก 10-15 เมตรแห่งเดียวของญี่ปุ่น ซึ่งก็แบบสวยดีอีกเช่นกัน สวนนี้แม้ว่าขณะที่ผมเดินชมและถ่ายรูปจะฝนตกบ้างไม่ตกบ้้างสลับกันไป แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันเป็สวนที่สวยมากจริง ๆ สวนนึง และใหญ่โต เดินได้เรื่อย ๆ 2-3 ชั่วโมงสบาย ๆ สวนนี้แนะนำให้ลองไปกันดูครับถ้ามีโอกาส อ้อ สถานที่ทั้งหมดที่ผมไปวันนี้ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าถ้าเดินทางไปเองต้อนเดินทางยังไง เพราะแบบนั่งรถทัวร์อย่างเดียว และระหว่างนั่งก็หลับไม่รู้เรื่องแทบจะตลอดเวลา ใครสนใจจะตามรอยก็ลองเอาพิกัดไปค้น ๆ กันดูละกันนะครับ อ้ออีกอย่างสำหรับทัวร์ของชาวญี่ปุ่นคือ ตัวไกด์จะพูดอังกฤษกันไม่ค่อยได้เท่าไร จะพูดได้แค่ เวลานัด, สถานที่นัด แค่นั้นเป็นหลัก รายละเอียดของสถานที่เที่ยวแต่ละอันที่พาไป,​เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนั้นจะไม่มีภาษาอังกฤษเลย ถ้าทำใจเรื่องนี้ได้ก็โอเคเลยล่ะครับ 








อีกหนึ่งต้น Wisteria ใหญ่ ๆ




อันนี้เป็นทางเดิน wisteria สีขาวครับ ก็เจ๋งดี ตอนกลางคืนจะเปิดไฟจะสวยกว่านี้


แวะกิน softcream สักหน่อยครับ ที่ญี่ปุ่นนี่ไปที่ไหนก็จะมี softcream ขายไม่รู้ว่าจะชอบกินอะไรกันขนาดนั้น

ซื้อ Tagoyaki กินด้วยครับ ไม่อร่อย เย็นชืดมาเลย



ผมกลับถึงที่ชินจูกุประมาณ 17.00 น. ก่อนกำหนดการเล็กน้อย วางแผนกันไว้ว่าจะไปกินร้าน Izakaya ร้านโปรดของผม ร้าน Kinno Kura Jr. กัน 

รีวิวร้านที่ 4 Kinno Kura Jr. สาขา ชินจูกุ

ร้านนี้ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันที่มีพ่วงท้ายว่า Jr. นี่คือแตกไลน์มาจากร้านหลัก แต่มาขายราคาถูกลงรึเปล่า (เว็บไซต์ของทางร้าน Kinno Kura Jr.) คืออาหารของทางร้าน Kinno Kura Jr. (金のくら) นี่อาหารหลัก ๆ จะราคา 270 yen หมด มีอาหารที่ทางร้านเรียกว่าเป็นอาหาร premium จะราคาอัพขึ้นไปเป็น 380 yen ร้านนี้ผมเคยรีวิวเอาไว้แล้วเมื่อคราวที่แล้วที่มาตอนฤดูร้อน ลิงค์) ทริปฤดูร้อนครั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้กินร้านนี้ แล้วผมก็ติดใจร้านนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (ทริปนั้นกินไปมื้อใหญ่ ๆ 2 มื้อติด) ร้านนี้ก็จะเป็นร้าน style Izakaya หรือร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น อาหารจะเป็นอาหารสไตล์กับแกล้ม จานไม่ใหญ่นัก แต่ก็จะครบครันแทบทุกอย่างของอาหารญี่ปุ่น มีเครื่องดื่มให้เลือกดื่มมากมาย ทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอลล์ ร้านสไตล์นี้ที่ไทยที่ผมชอบ ๆ ก็มีร้าน Nagiya ตรงทองหล่อ, Imoya @ Emporium และก็ Torajiro สุขุมวิท 39 ประมาณนี้ 


ถั่วแระญี่ปุ่นบังคับสั่งและบังคับกิน จะเก็บค่าโต๊ะคนละ 270 yen ไว้ก่อนครับ

เบียร์สดไม่รู้ยี่ห้ออะไรเหมือนกัน แต่ก็อร่อยเหมือนยี่ห้อดัง ๆ ทั่วไปครับ

ปลาซาบะซาซิมิก็ดีครับ

อันนี้เจ๋งมาก พุงปลาแซลมอนผัดซีอิ๊ว อร่อย ๆ


ร้าน Kinno Kura ๋Jr. (金のくら) นี่นอกจากอาหารและเครื่องจะถูกแล้ว (เบียร์สด 270 yen หาไม่ค่อยได้นะครับที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะราคา 500 - 700 yen  และเบียร์สดที่ญี่ปุ่นนี่เป็นอะไรที่ผมชอบมาก อร่อยสุด ๆ จะพยายามสั่งทุกมื้อที่เป็นไปได้เลย) รสชาติอาหารนี่อร่อยกว่า izakaya ที่เมืองไทยทุกร้านที่ผมว่ามาทั้งหมดนั่นเลย ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่แบบมันอร่อยจริง ๆ ครับ ข้อดีอีกอย่างคือที่นี่เราจะไม่ต้องสั่งอาหารกับพนักงาน สั่งผ่าน tablet ประจำโต๊ะแทน และมีภาษาอังกฤษให้ด้วย ตัดปัญหาเรื่อง lost in translation ไปโดยปริยาย ด้วยองค์ประกอบ 3 ข้อนี้ ทำให้ร้านนี้เป็นร้าน Izakaya โปรดของผมไปโดยปริยาย และรู้สึกว่าตอนนี้ที่โตเกียวจะมีร้านนี้กระจายตัวอยู่ทั่วไปหมดเลย ใครที่ไปเที่ยวเอง อยากหาร้านแนวนี้อร่อย ๆ ราคาถูกก็จัดร้านนี้ได้เลยครับ มีกระจายตัวอยู่แทบจะทั่วทุกหย่อมหญ้า 



พวก yakitori ของร้าน izakaya นี่จะอร่อยเป็นพิเศษเลย

ไข่ม้วนหวาน ๆ จิ้มกับหัวไชเท้าฝอย อร่อยดีเช่นกัน

อันนี้ไม่รู้อะไรเหมือนกันครับ


อาหารในมื้อนี้ก็มีไม่ค่อยเยอะเนื่องจากพวกผมไม่ค่อยหิวกันเท่าไร เริ่มต้นด้วย Edamame หรือถั่วแระญี่ปุ่นที่ทางร้านจะบังคับให้กินแบบมัดมือชกมาและก็เก็บเงินคนละ 270 yen เป็นค่าแรกเข้าไปด้วย ก็ถือว่าค่อนข้างแฟร์ ๆ ครับ เพราะผมกินเบียร์ของทางร้านสัก 2 แก้วก็ถอนทุนคืนได้ล่ะ อาหารในมื้อนี้ก็อร่อยหมด อร่อยมาก อร่อยน้อยต่างกันไปก็แค่นั้น ที่ผมชอบเป็นพิเศษก็เป็นพวก ยากิโทริ หรือเสียบไม้ปิ้งย่าง ที่แบบปกติอาหารประเภทนี้ก็เป็นอะไรที่อร่อยอยู่แล้วที่เมืองไทย แต่มากินที่ญี่ปุ่นทีไร มันมักจะอร่อยเป็นพิเศษ น่าจะเป็นที่ซอสเทอริยากิ หรือเนื้อไก่ที่แบบที่ญี่ปุ่นทำได้อร่อยกว่า ส่วนอาหารอื่น ๆ ก็อร่อยหมดเช่นกัน ไม่ว่าจะพวกกระทะร้อน, อาหารสไตล์กับแกล้ม ส่วนพวกซูชิ, ซาซิมิ นั้นถือว่าค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับร้าน Sushi แท้ ๆ (แน่ล่ะ) แต่ว่าก็ยังดีกว่าร้านที่ไทยหลาย ๆ ร้านครับ กิน ๆ ไปถ้าเบื่ออาหารพวกผัด ๆ ย่าง ๆ ก็มากินปลาดิบแก้เลี่ยนได้ก็โอเคอยู่



ทาโกะยากิห้มาเยอะดีและอร่อยกว่าตอนกลางวัน

ไก่ซีอิ๊วก็ดีครับ

มะเขือยาวทำอะไรสัรกอย่าง อร่อย ๆ

Salmon Sushi ค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย

อันนี้ไก่บดไข่ดิบ อร่อยดีครับ

กุ้งตัวเล็ก ๆ ทอดก็กินเพลิน เข้ากับเบียร์ดี

Uni หรือไข่หอยเม่นนี่เป็นอาหาร premium ครับ แค่พอกินได้เฉย ๆ

พอเช็คบิลแล้วจะมีรายการให้ดู และหารเป็นจำนวนคนให้เสร็จสรรพเลย

ปลาฮอกเกะย่างตัวขนาดกำลังดีปิดท้าย


สรุป มื้อที่ 3  ของผมกับร้าน Kinno Kura Jr. แห่งนี้ (สาขา Shinjuku ซึ่งจริง ๆ แล้วหลังจากที่เดินที่ Shinjuku จนพรุน แค่ที่รอบ ๆ สถานี JR Shinjuku นี่ก็มีร้านนี้ประมาณ 5 สาขาขึ้นไปล่ะครับ -*-) ก็ยังคงประทับใจต่อไปเช่นเดิม อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีเมนูให้เลือกเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญคืออ่านเมนูรู้เรื่อง และสั่งรู้เรื่อง ใครที่ไปโตเกียว ผมแนะนำให้จัดครับ (แต่รู้สึกว่าผมไปแถบคันไซมาเมื่อปลายปีที่แล้วจะไม่เจอร้านนี้เลย ไม่รู้ว่ามีเฉพาะเขตคันโตรึเปล่า)

หลังจากกินเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านไปนอนเลย เพราะว่าเมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอน ส่วนพรุ่งนี้ผมจะไปกินไปเที่ยวไหนบ้าง ก็ตามไปอ่านต่อได้ที่ link นี้เลยครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment