Wednesday, August 22, 2012

Indigo French Restaurant Bangkok Review

Indigo - French Restaurant at Silom, Bangkok อินดิโก้ ร้านอาหารฝรั่งเศส ซอยคอนแวนต์ สีลม




Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3/5

Indigo - French Restaurant on BumRes.com



คือเท่าที่ผมตระเวณกินร้านอาหารฝรั่งเศสในกรุงเทพมา ผมก็เพิ่งมาสังเกตตัวเองว่าที่ผ่านมาผมมักจะกินเจ้าสัญชาติอาหารแห่งความสวยงามนี่เป็นมื้อเที่ยงซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงที่ผมมาพินิจพิเคราะห์ดูกับเจ้าอาหารสัญชาติยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะ อิตาเลียน, ฝรั่งเศส หรือตะวันตกแบบรวม ๆ จากประสบการณ์แล้วผมกินมื้อเที่ยงอาหารพวกนี้มายังไม่เคยมีร้านไหนประทับใจเลย แต่กับมื้อเย็นส่วนใหญ่ที่ไปก็มักจะประทับใจทุกที (ร้านฝรั่งเศสที่เคยไปมื้อเย็นรู้สึกจะมีแค่ Chez Pape @ Sukhumvit 11 ที่ผมนึกออกครับ) ซึ่งเหตุผลแห่งความไม่เท่าเทียมกันของมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นนี้ ผมก็ตั้งสมมติฐานไปต่าง ๆ นา ๆ กับเพื่อนว่าทำม้าย ทำไม มื้อเที่ยงมึงจะช่วยตั้งใจทำอาหารให้มันออกมาอร่อยเหมือนมื้อเย็นกันหน่อยจะได้มั้ย(วะ) พวกร้านอาหารฝรั่งทั้งหลาย!

รีวิวฉบับนี้ก็จะเป็นของร้าน Indigo - French Restaurant ที่ตั้งตัวเองอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ของซอยคอนแวนต์ สีลม อีกทีนึงร้านนี้ตอนก่อนจะไปก็ชั่งใจอยู่นะครับว่าจะไปดีมั้ย เพราะผมกินอาหารฝรั่งเศสมาผมไม่เคยจะชอบเลยให้ตาย ส่วนใหญ่ที่กินมันจะจืด ๆ ไร้รสชาติ มีดีแค่ความสวยงามแค่นั้น แต่เนื่องจากมื้อนี้เพื่อนผมชวนไปและมันเป็นมื้อเย็นด้วยก็เลยคิดว่าไปลองเปิดประสบการณ์ตัวเองสักหน่อยก็น่าจะดี ร้าน Indigo นี่ถ้ามาจากทางสีลมเข้าซอยคอนแวนต์มาสัก 100 เมตรจะเจอตรอกเล็ก ๆ ทางขวามือที่ฝั่งตรงข้ามเป็น 7-11 ก็เลี้ยวเข้าตรอกมาเลย ทางร้านมีที่จอดรถให้ 7 คัน แต่ถ้าใครนั่งรถไฟฟ้ามาก็ไม่ยากครับ ลงป้ายศาลาแดงแล้วก็เดิน ๆ อีกนิดหน่อยก็จะถึงร้านล่ะครับ







ร้านนี้ Indigo @ Silom, Bangkok นี่ผมรู้สึกว่าอาหารของเค้าจะเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบ Bistro ๆ เล็กน้อย แต่ก็แอบมีกลิ่นอาย Restaurant ๆ บ้างเหมือนกัน ที่พูดแบบนี้ก็เพราะตัวร้านตกแต่งสวยงามดีครับ มีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor ที่สัดส่วนจำนวนโต๊ะเกือบจะพอ ๆ กันเลย ร้าน Indigo นี่ก็เป็นร้านที่จะเรียกว่าเก่าแก่ก็ว่าได้เพราะเปิดมาตั้งแต่ปี 2000 ตอนนี้ก็ 12 ปีแล้ว ลูกค้า ณ วันที่ผมไปก็จัดได้ว่าค่อนข้างเยอะอยู่ occupy ซัก 70% ของโต๊ะ แม้ว่าจะเป็นเย็นวันอังคาร เย็นของวัน weekdays ที่หลาย ๆ ร้านที่ไปมามักจะไม่ค่อยมีลูกค้าสักเท่าไร ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นดัชนีชี้วัดได้เหมือนกับร้านญี่ปุ่นที่ลูกค้าญี่ปุ่นเยอะ ๆ แล้วมักจะอร่อยได้หรือไม่ เพราะผมเองไม่ค่อยได้ไปร้านอาหารฝรั่งตอนเย็น สักเท่าไร ต่อไปจะเริ่มสังเกตขึ้นละกันครับ

อาหารของร้าน Indigo แห่งนี้ก็จะเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบค่อนข้าง Traditional เท่าที่ดู ๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบ Molecular ไม่ได้ twist ไม่ได้ fusion อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อาหารที่สั่งมาในมื้อนี้หลาย ๆ อย่างไม่ได้เน้นความสวยงามแต่เน้นปริมาณและรสชาติ มีอาหารหลายจานในมื้อนี้ที่พนักงานจะมาปรุงเพิ่มเติมจากห้องครัวให้สด ๆ ข้างโต๊ะ ซึ่งร้านที่ทำแบบนี้ที่เคยกินมาก็จะมีร้าน Artur @ ซอยต้นสน อีกหนึ่งร้านล่ะมั้งครับ ซึ่งการมาทำแบบนี้ผมชอบนะ เพราะเราสามารถสั่งพนักงานปรุงรสแบบที่เราชอบได้ รวมถึงมันเป็นการเพิ่มความอยากอาหารขึ้นมาด้วย แบบว่าอาหารอยู่ต่อหน้าแท้ ๆ แต่ชั้นยังไม่ได้กิน ชั้นต้องรอ ต้องนั่งนำลายไหลรอต่ออีกแปบนึง อะไรประมาณนั้น






เข้าเรื่องอาหารกันดีกว่า มื้อนี้สั่งไปประมาณ 6-7 อย่างครับ จานที่ผมชอบที่สุดในมื้อคือ Steak Tartare (Lean top round, cut to order prepared at the table with French fries - 490 บาท) จานนี้ก่อนมาได้อ่านรีวิวเว็บเพื่อนบ้านไว้ มีแต่คนแนะนำ ซึ่งมันก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ครับ เป็น Beef Tartare ที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกินมาก็ว่าได้ (แม้ว่าจะกินมาไม่เยอะก็ตาม) รสชาติมันค่อนข้างโดนใจผม เพราะพนักงานปรุงมาให้เป็นรสจัด ๆ (บอกตอนปรุงให้ข้าง ๆ โต๊ะ) ตัวเนื้อก็สด เย็น อร่อย และให้ปริมาณมาเยอะมาก รวมถึงตัว French fries ที่ให้มากินคู่กัน มันยังเป็นสุดยอดเฟรนช์ฟรายอีกต่างหาก กรอบ อร่อย ร้อน โอย จานนี้นี่ดีซะจนผมสามารถกลับไปร้านนี้อีกครั้งเพื่อกินแต่จานนี้อย่างเดียวได้เลยเนี่ย!

จานที่ชอบรองลงมาก็จะเป็น Milk fed veal chop served with spinach & forest mushroom sauce (850 บาท) จานนี้ก็เป็นสเต็กเนื้อลูกวัว เสิร์ฟมากับผักโขมและซอสเห็ด หน้าตาตอนยกมาก็ธรรมดา ๆ นะครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นเนื้อส่วนไหน มีติดกระดูกมาข้างนึงคล้าย ๆ pork-chop เลย รสชาติเนื้อจานนี้นี่มันแบบ..อร่อยมากครับ อร่อยประทับใจ ไม่ได้กินเสต็กอร่อย ๆ แบบนี้มานานแล้ว (ล่าสุดก็เป็นที่ร้าน Madison Steakhouse @ Four Season Hotel Bangkok) ไม่รู้ว่าทางร้าน Indigo ทำมายังไงเหมือนกันครับ เนื้อข้างนอกมันเกรียมได้ที่แต่ไม่ไหม้ เนื้อด้านในก็ medium rare มาพอดี เจ้าตัวซอสเห็ดที่ทำมาให้ราดก็รสชาติดี เพิ่มความอร่อยของเนื้อเข้าไปอีก ไม่เหมือนบางร้านที่ซอสแทนที่จะเพิ่มความอร่อยแต่ดันไปทำให้รสชาติเนื้อเสียลงไปซะงั้น ผักโขมที่ให้มาค่อนข้างเยอะก็รสชาติดีครับ เป็นอีกหนึ่งจานที่ประทับใจเลยล่ะ







ส่วนจานอื่น ๆ ที่ชอบพอประมาณในมื้อนี้ก็จะมี Cheese souffle with Gruyere cheese (240 บาท) คือเจ้าซูเฟล่นี่จริง ๆ ก็ค่อยได้กินมาสักเท่าไรครับ จานนี้แปลกใหม่ขึ้นไปอีกด้วยการเป็น Cheese souffle อีกต่างหาก รสชาติดีครับ อร่อยแบบชีสแน่น ๆ มีแต่รสชีส ขนาดผมผู้ซึ่งไม่ค่อยชอบชีสเท่าไร กินไปคำแรก ๆ ก็ยังว่าอร่อยเลย (แต่คำหลัง ๆ ไม่ไหวครับ เลี่ยนเกิน) // อีกจานเป็น 6 Escargots (6 Snails with garlic butter grain - 320 บาท) หรือหอยทากเอาไปอบกับเนยและกระเทียมนั่นเอง จานนี้คล้าย ๆ Baby Clam หรือพวกหอยทะเลอบแบบที่ผมชอบ ๆ ที่สามารถหากินได้ตามร้านอาหารไทย-จีน-ทะเล ทั้งหลาย จานนี้ทั้งรสชาติและหน้าตาและภาชนะมาแนวเดียวกันเลย จะขาดก็แต่ตัวขนมปังกระเทียมที่น่าจะมาด้วยเหมือนเจ้า Baby Clam เพราะมันจะทำให้หอยทากนี่อร่อยกว่ากินเปล่า ๆ เยอะเลย (กินเปล่า ๆ มันเค็มไปครับ) // จานสุดท้ายที่ชอบพอประมาณก็เป็น Rock lobster mousse in white wine sauce (200 บาท) จานนี้ อร่อยดีครับ รสชาติละมุน ๆ ให้ความเป็นฝรั่งเศสจ๋าดีทีเดียว







มื้อนี้ก็มีอาหารอีก 2 จาน ซึ่งทั้ง 2 จานเป็น Main Dish ทั้งคู่และผม(และเพื่อนในโต๊ะ) ไม่ชอบกันทั้งคู่ จานแรกเป็น Pan-fried calf liver, deglzed with aged vinegar, sauteed spinach, boiled potatoes (490 บาท) จานนี้ก็เป็นประมาณเสต็กตับลูกวัวนั่นเอง หน้าตาเสต็กไม่มีปัญหาน่ากินมาก (มาเป็นตับทั้งก้อน เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนกันมาเลยทีเดียว) ตัวเครื่องเคียงก็รสชาติดีเหมือนจานเสต็กเนื้อลูกวัว แต่รสชาติพอกินเข้าไปนี่มันแบบ เอิ่ม .. ตับมัน overcook อ่ะครับ เนื้อแข็งมาก เด้งมาก กินแล้วไม่ให้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อตับแบบที่ควรจะเป็น ตัวซอสที่ราดมาเล็กน้อยก็ดีอยู่ล่ะครับ แต่ส่วนสำคัญที่เป็นเนื้อตับนี่ดัน Fail ซะงั้น -*- // อีกจานเป็น Whole grilled fish of the day - Mediterranean style - for two (750 บาท) ซึ่งปลาประจำวันก็เป็นปลากะพงครับ ตอนแรกถามพนักงานก่อนจะสั่งล่ะว่าเป็น Live seabass รึเปล่า ก็ได้ความมาว่าฟรีซมาแล้ว ก็แอบคิด ๆ ไว้ว่ามันจะต้องไม่อร่อยแน่ ๆ ซึ่งพอได้กินก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ครับ เนื้อปลาไม่สด ปรุงรสมาแบบพิกลพิการ คือไม่ค่อยมีรสเท่าไร แม้ว่าจะมีการยกมาทั้งโต๊ะ มาเลาะหนัง เลาะก้างออกให้เรา และเสิร์ฟมาแต่เนื้อปลากะพง แต่กินปลากะพงเผาเกลือ แบบไทย ๆ เรา ซึ่งให้ texture และรสชาติคล้าย ๆ กันกับเจ้าจานนี้ ปลากะพงเผาเกลือบ้านเราอร่อยกว่าแบบชัดเจนเลยครับ

มื้อนี้ ปิดท้ายลงโดยไม่มีของหวาน เนื่องจากเพื่อนผมคนนึงที่เป็น Chef ที่ไปกินด้วย คุณเธอทำของหวานมาให้กิน พวกเราก็เลยเช็คบิลออกไปกินของหวานกันริมถนนหน้าร้านแทน -*- มื้อนี้ผมค่อนข้างประทับใจกับร้าน Indigo @ Silom, Bangkok แห่งนี้นะครับ อาหารจานที่อร่อยก็อร่อยมาก อร่อยจนอยากไปกินอีกครั้งโดยไม่ต้องคิด (ส่วนจานที่ไม่อร่อยก็ไม่ได้แย่แค่นั้น แต่แบบกับราคาที่เสียไป ความคาดหวังมันเลยสูง) การบริการก็ดี พนักงานมารยาทดีมาก ร้านก็บรรยากาศดี ตอนหลุดเข้าไปในร้านนี่เหมือนหลุดไปอยู่ในฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ (ว่าไปนั่นยังไม่เคยไปเลย ฮ่า ๆ) จากมื้อนี้ก็ได้ข้อสรุปที่แน่นอนต่ออาหารฝรั่งเศส (เช่นเดียวกันกับอาหารอิตาเลียน) อีกแล้วว่า "ถ้าอยากอร่อย ให้ไปกินมื้อเย็น" จบครับ







--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment