Thursday, June 28, 2012

Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 1

Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 1


รูปนี้ อยู่ part 2 ครับ พอดีต้องหารูปอาหารยั่วน้ำลายมาจั่วหัว ก็เลยเอารูปนี้มาครับ -*-

มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทางแล้วครับ พอดีตอนที่แล้วของซีรีย์ ตระลุยกินฤดูใบไม้ร่วงถิ่นคันไซ 2011 ตอนที่แล้วของผมมันยาวไปแล้ว ผมเลยตัดเรื่องรีวิวที่พักมาต่อเป็นของวันที่ 7 ของผมแทน และพอดีวันที่ 7 กับวันที่ 8 มันไม่ค่อยมีอะไร ผมก็เลยเหมาะรวมมันมาเขียนในตอนเดียว แต่เขียนไปเขียนมาดันยาวซะงั้นก็เลยแบ่งเป็น 2 part แล้วทำไม(มึง)ไม่เขียนแยกเป็นแต่ละวัน? คือพอดีเหตุการณ์ของ 2 วันนี้มันคาบเกี่ยวกันอีกน่ะครับ เลยอยากพาดหัวตามความเป็นจริง (เยอะนะมึง) ก็ถึงจะเยอะ ๆ งง ๆ ก็เชิญอ่านกันต่อเลยครับ

เมื่อวานผมค้างถึงตอน check-in โรงแรม โรงแรมที่ 2 ในทริปนี้ที่พวกผมไปนอนกันคือ Fraser Residence - Nakai - Osaka โรงแรมที่เป็น Serviced Apartment และเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน โรงแรมนี้ผมจองผ่าน booking.com เหมือน Hankyu International Hotel ก่อนหน้านี้ที่ผมพัก ซึ่งดูจากคะแนนรีวิวและราคาแล้ว ก็เลยตัดสินใจเลือกโรงแรมนี้ และหลังจากที่ได้ไปพักมาแล้ว ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ผมขอมอบคะแนน 10 ดาวเต็มให้ เนื่องจาก 1) ทำเลดีมาก ใกล้ Namba สุด ๆ เดินแค่ 5 นาที 2) ราคาต่อคุณภาพของโรงแรมคุ้มมาก 3) เป็น serviced residence ก็เลยมีอุปกรณ์การดำรงชีวิตครบถ้วนสุด ๆ ครบแบบเหมือนเป็นบ้านเราอะไรประมาณนั้นเลย เครื่องซักผ้า, เตารีด, จานชามช้อนส้อม ฯลฯ บ้านเราควรมีอะไร ที่นี่มีให้หมดครับ 4) มี wi-fi ให้ใช้ฟรีถึงห้อง คือโรงแรมญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่ผมไปนอนมา (จริง ๆ ก็ทุกโรงแรม แม้แต่ 5 ดาวที่อื่นก็ตาม) จะมีแต่สาย Lan ให้เสียบ และเจ้า Macbook air เจ้ากรรมผมมันไม่มีช่องให้เสียบ LAN ก็เลยลำบากต้องไปซื้อตัว wi-fi hot spot มาใช้เอา อืม ข้อดีของโรงแรม Fraser Residence ก็หมดล่ะครับ เอาเป็นว่าผมชอบที่นี่มากกว่าที่ Hotel Hankyu International อีกครับ เมื่อพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมด

อันนี้เป็น Yebisu 3 สหายที่ผมกินก่อนนอนเตอนกลางคืนครับ เบียร์ที่ญี่ปุ่นเค้าจะคิดภาษีตามปริมาณของ Malt ในเบียร์ ทางผู้ผลิตเบียร์ก็เลยหัวใส ทำเบียร์ที่ไม่มี Malt ออกมาแต่ให้รสชาติเป็นเบียร์ และเมาอยู่ ซึ่งเบียร์ Malt ปกติจะกระป๋องละ 200 - 300 yen แต่เจ้าเบียร์ทำเทียมจะแค่ 100 yen เท่านั้น ซึ่งถ้าถามผม ถ้าไม่ตั้งใจแยกกินจริง ๆ ก็ไม่รู้หรอก ดังนั้นถ้าอยาก save ๆ เงินก็กินแบบเทียม ๆ ก็ได้ครับ

ที่พักของเรา ทำเลดีมาก ฝั่งตรงข้ามมี Ippudo Ramen เลยด้วย

ห้องขนาดกำลังดี 35 sq. m. มั้งครับไม่แน่ใจ

เตียงนุ่ม

ทีวีกับโต๊ะทำงานพร้อม มี iPod dock ด้วย

เครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ , กาน้ำร้อนก็มี

เตาะ, กะทะ, มีด, ซิงค์น้ำก็พร้อม

ห้องน้ำก็เยี่ยมครับ

เครื่องฟอกอากาศก็มี

ตู้เซฟ ชุดนอน

ช้อนส้อมมีดช้อนของหวาน

แก้วไวน์แก้วกาแฟ อย่างที่ผมพิมพ์บอกข้างบนครับว่า มาแต่ตัว มาอยู่ได้เลยกับที่ Fraser Residence Nankai - Osaka แห่งนี้

เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ พวกผมก็เลยเที่ยวกันแบบง่าย ๆ คือเที่ยวห้างตรงข้ามโรงแรมเอาซะเลย ห้าง Namba Parks ที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมผมก็เป็นห้างเปิดใหม่ที่ทำห้างมาโดยมี Concept ว่าอยากให้เป็นห้างที่เหมือนเป็นสวนอยู่ในเมือง ตัวห้างนอกจากที่จะมีร้านรวงเหมือนห้างทั่ว ๆ ไปแล้ว ในห้างจะมีสวนสวย ๆ ขนาด 7 ชั้นไล่เรียงเคียงคู่กับห้างลงมาเรื่อย ๆ จนถึงชั้น 1 และตัวห้างก็จะตกแต่งแบบมีต้นไม้, เถาวัลย์เลื้อย ๆ อยู่ในห้างซึ่งดูแล้วสบายตาและงดงามดี รวมถึงการออกแบบตัวตึกให้โปร่ง ๆ โล่ง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของห้าง Namba Parks แห่งนี้ นอกจากเรื่องความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบแล้ว ร้านรวง, ร้านอาหารในห้างก็มีเยอะไม่ยิ่งหย่อนกว่าห้างธรรมดาทั่วไป ตัวร้านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ร้านอาหารผมไม่รู้เหมือนกันว่ามีกี่ร้าน แต่ถ้าร้านอาหารทางห้างบอกว่าเขามีให้บริการถึง 40 ร้านเลย พวกผมก็ใช้เวลาช่วงครึ่งเช้ากันที่ห้าง Namba Parks นี่ เดินเล่นในสวนของเค้า เดินดูร้านค้าต่าง ๆ ในห้าง และพอเที่ยงก็ไปเดินหาร้านกินกันและไปลงเอยที่ร้านโอโคโนมิยากิร้านนึงครับ


อยู่ติดกับสถานี Namba เลยห้างนี้

แค่ทางขึ้นห้างก็แนวแล้วครับ

ในห้างจะโปร่ง ๆ โล่ง ๆ มีเถาวัลย์, ไม้เลื้อยเยอะ ๆ

สวนในห้าง จะเชื่อมกับส่วนร้านค้าในห้างเลยครับ

สวนสวยดี

แต่ตอนกลางวันไม่มีคนเลย

ห้างสวยครับ ชอบมาก

สวนก็สวย

สิ่งก่อสร้างแปลก ๆ ก็มี



บางร้านอยู่ในสวนเลยก็มีครับ



 ร้านโอโคโนมิยากิ @ Namba Parks ที่พวกผมฝากท้องกันตอนเที่ยงนั้น ส่วนหนึ่งที่เลือกเพราะรูปด้านล่างรูปแรกนี่แหละครับ มีเก้าอี้ให้ลูกค้ารอคิวเยอะขนาดนี้ มันต้องมีอะไรเด็ดแน่ พอดีพวกผมไปตอนร้านเพิ่งเปิดพอดีเลยไม่ต้องรอคิว แต่ร้านนี้ก็เป็นเหมือนร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่ร้านอื่น ๆ คือเมนูไม่มีภาษาอังกฤษและพนักงานพูดอังกฤษไม่ได้ครับ ดีที่ผมพออ่าน Katagana ได้บ้างก็เลยพอกล้อมแกล้มสั่งกันไปได้ โอโคโนมิยากิมื้อนี้อร่อยกว่ามื้อแรกที่กินที่ Umeda Sky Building ครับ อร่อยกว่าแบบ Significant เลยด้วย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นแบบอร่อยจนประทับใจเหมือนร้านเนื้อย่างเมื่อคืน แต่ก็แน่นอนครับ ดีกว่าพิซซ่าญี่ปุ่นในไทยแน่นอน (ผมเคยไปกินร้าน Kyoto Yoshino ตรง Isetan ที่ขายเฉพาะเจ้า Okonomiyaki มา คือผมกับเพื่อน ๆ  นี่บางหน้ากินกันไม่ลงเลยครับเพราะมันเลี่ยนและไม่อร่อย)

หน้าร้านบ่งบอกความขายดี

ไปตอนไม่มีคนนี่มันดีจริง ๆ

อ่านกันไม่ค่อยออกครับเมนู

เตรียมพร้อม

ชาร้อนฟรี

หน้าตาดูไฮโซมั้ยครับ อร่อยดีเลยล่ะ

อันนี้ไม่ใช่ทาโกะยากินะครับ เป็นอะไรสักอย่างที่คล้าย ๆ กันจำชื่อไม่ได้ล่ะ อร่อยดี

พ่อกับแม่ผมกินด้วยกันเลยสั่งแบบผสมครึ่ง ๆ

อันนี้ของผม ไส้ negi หรือกุยช่ายญี่ปุ่น, หัวหอม ไม่แน่ใจครับ อร่อยครับ

อาหารโดยรวมในมื้อนี้

ขนาดเตาพอดีโอโคโนมิยากิ และพอดีคนด้วย

พอกินกันอิ่มพวกเราก็แวะไปพักที่โรงแรมกัน (แค่เดินข้ามถนนกลับไป -*-) ซึ่งก่อนไปหรือหลังไป ฝนก็ยังคงตกอยู่ ทำให้ไม่ค่อยมีอารมณ์อยากจะไปไหนสักเท่าไร แต่จะไม่ไปไหนเลยมันก็ใช่ที่ พวกเราก็เลยไปที่ Osaka Museum of Housing and Living กัน เจ้าพิพิทธภัณฑ์นี้น่าสนใจมากเพราะจะเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโอซาก้าเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมาก ประวัติศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นนี่ ในพิพิทธภัณฑ์ก็จะมี แบบจำลองเมืองทั้งเมืองของโอซาก้าสมัยเอโดะ (มีที่เดียวที่ญี่ปุ่น) , ประวัติศาสตร์การพัฒนาเมืองโอซาก้า และวิธ๊ชีวิตของผู้คนในสมัยเอโดะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะ Fin มากถ้ามีภาษาอังกฤษซักหน่อย คือพี่แกไม่มีภาษาอังกฤษให้ผมเลยสักตัว (ดูขนาดป้ายทางเข้ายังไม่มีภาษาอังกฤษเลยครับ T_T) แต่แม้จะอ่านไม่ออก แค่ได้ไปดู ได้เห็นก็ค่อนข้างคุ้มค่าแล้วครับ การเดินทางไปที่ Osaka Museum of Housing and Living ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปลงป้าย Tenjinbashisuji 6-chome ก็จะถึงเลยครับ ตัวพิพิทธภัณฑ์อยู่ตรงทางออกรถไฟใต้ดินเลย

คือกะไม่ขายคนต่างชาติเลยว่างั้น? ทางเข้าไม่มีอังกฤษสักตัว

เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติเหมือนเช่นทุกที่

ที่ฝากร่มสุดล้ำ ไม่ต้องกลัวหายเลย

ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน แล้วก็ค่อย ๆ เดินลงมา

จำลองเมืองมาเลย

ไม่รู้จะบรรยายอะไรครับ เพราะอ่านไม่ออก












Part 1 ก็จบตรงนี้ละกันครับ ต่อ Part 2 ได้ตาม Link นี้เลย


Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 1
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 2
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 3
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 4
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 5
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 6
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 1
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 2

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment