D' eiffel - French Restaurant - Mahidol Salaya, Nakon Pathom Province
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 3.5/5
Service 3/5
Value 3.5/5
D' Eiffel - French Restaurant on BumRes.com
คราวก่อนผมเพิ่งรีวิวร้าน พุทธรักษา หนึ่งในร้านอาหารหน้า มหิดล ศาลายาไปครับ พอดีช่วงนี้มีธุระต้องมาส่งรูปเล่มที่ศาลายาบ่อยก็เลยมีโอกาสได้มารีวิวร้าน D' eiffel - Taste of France แห่งนี้อีกร้านนึงครับ ร้านนี้ก็เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ถ้าบอกใครต่อใครก็คงไม่เชื่อว่าจะมีร้านอาหารฝรั่งเศส ขนานแท้ ๆ มาเปิดอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแบบนี้ (เด็กที่ไหนจะมีตังค์กิน ยกเว้นเด็ก MUIC >< ) ซึ่งร้านนี้ผมเคยได้ยินชื่อมาเป็นปีแล้ว และถ้าร้านยังเปิดอยู่ได้ก็แสดงว่าเค้าต้องมีอะไรดีล่ะครับ
ร้าน D' eiffel (น่าจะแปลว่าหอไอเฟิล) ก็เป็นร้านห้องแถว 2 คูหาที่ดัดแปลงร้านได้ค่อนข้างสวยงามครับ มองดูหน้าร้านแล้วไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นร้านห้องแถวเลย ตัวร้านภายในก็ตกแต่งค่อนข้างสวยงามดีครับ ให้ความรู้สึก vintage ๆ แบบยุโรปเล็กน้อย แต่สิ่งที่ fail คือการบริการของพนักงานครับ ผมไม่ชอบเลยคือ พนักงานกิริยาไม่ค่อยดี ยังไงไม่ทราบบอกไม่ถูก และก็มีพนักงานใหม่คนนึง ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่อาหารที่ยกมาว่ามีส่วนประกอบเป็นอะไร หรือจานนี้เรียกว่าอะไร! แล้วก็ wine list ก็ไม่มีต้องเดินไปดูในห้องเก็บไวน์เอง รวมถึง ที่วางแก้ววางขวดก็ไม่มี เอาขวดเบียร์ผมไปวางตรงปูนด้านหลังโต๊ะซะงั้น คือแบบ การบริการรู้สึก fail มาก ๆ ครับสำหรับร้าน ดี ไอเฟิล แห่งนี้
อาหารของทางร้าน D' eiffel ก็แน่นอนครับ เป็นอาหารฝรั่งเศสจ๋ามาก ๆ มีแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ถูกต้องตามหลักของอาหารฝรั่งเศส และมีรายการอาหารให้เลือกเยอะมาก ๆ ครับ สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ราคาอาหารนั้น จัดได้ว่าค่อนข้างถูกเลยทีเดียว คือหลาย ๆ อย่างราคาต่ำกว่า 200 บาท และมีที่แพง ๆ พวก Main Course ก็จะราคาหลายร้อยหน่อย แต่เมื่อเทียบกับร้านฝรั่งเศสในเมืองแล้ว แน่นอนว่า ร้านนี้ถูกกว่าจมครับ (ซึ่งก็เป็นจุดขายอย่างนึงครับ เพราะถ้าแพงเหมือนในกรุง ใครจะอยากกิน) รายการอาหารก็ดูที่ tab menu เช่นเคยเลยนะครับ
อาหารอย่างแรกในมื้อก็เป็นขนมปังกินรองท้องตามแบบฉบับฝรั่งเศสเค้าล่ะครับ แม้ว่าหน้าตาขนมปังของร้าน ดี ไอเฟิล แห่งนี้จะดูไม่น่ากิน แต่รสชาตินั้นจัดได้ว่าอร่อยเยี่ยมดีกว่าหลาย ๆ ร้านครับ และที่สำคัญ ร้อน (เกือบ) ลวกมือด้วย เป็นอะไรที่ผมชอบมาก ส่วนอาหารจริง ๆ จานแรกนั้นเป็น ซุปข้นกุ้ง (lobster bisque) ครับ ซึ่งจานนี้ก็เสิร์ฟมาอย่างร้อน ๆ อีกเช่นกัน (ชอบครับ) และรสชาติก็เข้มข้น เผ็ดนิด ๆ เค็มหน่อย อร่อยลงตัวเป็นอย่างมากครับ อาหารเปิดประเดิม เปิดได้สวยทีเดียว
Appetizer ในมื้อนี้มีอีก 2 อย่างครับ อย่างแรกคือ สลัดปลาทูน่า อาหารเพื่อสุขภาพของพี่สาวผม ซึ่งรสชาติและหน้าตาก็ไม่ได้มีอะไรผิดแผก แหวกแนวไปกว่าร้านอื่น ๆ เลยครับ คือสามารถหากินได้ทั่ว ๆ ไปและรสชาติกลาง ๆ นั่นเอง ส่วนอีกจานนั้นเป็น เทอรีนตับไก่ ซึ่งจริง ๆ แล้วผมเป็นคนไม่ชอบอาหารประเภทนี้ แต่พอดีเห็นราคาของร้านนี้ถูกดีก็เลยลองสักหน่อยครับ และหลังจากได้กิน ก็ต้องขอบคุณร้าน D' eiffel แห่งนี้ที่ทำให้ความไม่ชอบของผมลดลงไปเล็กน้อย (แต่ก็ยังแอบไม่ชอบอยู่) เพราะร้านนี้ทำได้ดีกว่าร้านอื่น ๆ ครับคือไม่คาวมาก และก็เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ (แต่ไม่เจี๊ยบ) และกินกับขนมปังแผ่นที่ให้มาคู่กันก็อร่อยดีครับ
ส่วนอาหารจานหลักจานแรกนั้นเป็น ผักโขมอบชีส ซึ่งจานนี้ก็อีกแล้ว ทั้งหน้าตาและรสชาติค่อนข้างจะมาตรฐาน ออกจะแย่ ๆ ด้วยซ้ำตรงที่รสชาติมันจืด ๆ ไปหน่อยครับ แต่ก็ถือว่ากินได้อร่อยดีในระดับนึง
ส่วนจานที่ 2 นั้นเป็น สเต็กปลาแซลมอนเสิร์ฟกับเส้นพาสต้าอะไรสักอย่างและก็โปะคาร์เวียร์มาให้ด้วยหน่อยนึงครับ จานนี้ แม้หน้าตาจะดูไม่ค่อยสวย แต่รสชาตินั้นถือว่าอร่อยดีเลยทีเดียวครับ แต่ที่แย่อย่างคือ แซลมอนมีก้างมาหลายชิ้นอยู่ เชฟน่าจะเอาออกซักหน่อยน่า ก่อนเอามาเสิร์ฟ ส่วนจานสุดท้ายของผมเป็นอาหารแนะนำของทางร้าน กับ Snow Fish sauteed in butter with dry cherry and shallots 650 บาท นั่นเอง จานนี้ หน้าตาจัดได้ว่าค่อนข้างดูดีมีชาติตระกูลครับ แต่ผมรู้สึกว่าให้มาน้อยไปหน่อย ส่วนเรื่องรสชาติ ก็อร่อยดี แต่ยังไม่ถึงขั้นประทับใจครับ คือเหมือนกับว่าเชฟยังดูรสชาติของปลาหิมะออกมาได้ยังไม่สุดครับ หรือทำอะไรสักอย่างพลาดไปจนเวลากินแล้วเหมือนไม่ได้กินเนื้อปลาหิมะยังไงก็ไม่ทราบ
ส่วนของหวานในมื้อนี้สั่ง Banane flambee (120 บาท) กับ Peche melba (90 บาท) ไปครับ (ราคาถูกมาก) หน้าตาและรสชาติก็เหมือนกับของหวานตามร้านอิตาเลียนฝรั่งเศสทั่ว ๆ ไปที่ผมกินมา ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น รวมถึงรสชาติด้วยครับที่เหมือนว่าจะใช้ของสำเร็จรูปมาก ๆ มาทำยังไงก็ไม่ทราบ
เบ็ดเสร็จมื้อเกือบใหญ่ของผมที่ร้าน D' eiffel แห่งนี้ก็จัดได้ว่าพอโอเค แต่ไม่ถึงกับประทับใจครับ คือถ้าถามว่าผมอยากจะถ่อมากินอาหารฝรั่งเศสถึงมหิดล ศาลายา กับร้านนี้อีกรึเปล่า ก็คงบอกว่า "ไม่" ครับ เพราะรสชาติและชนิดอาหารนั้นหากินได้ในร้านในเมืองทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเผอิญต้องมาทำธุระ ถ้ามีโอกาสก็คงมาอีกครับ เพราะการได้กินอาหารฝรั่งเศสแบบค่อนข้างครบเครื่องแต่ค่าเสียหายไม่ถึง 2000 บาทแบบนี้ มันจะหาได้ที่ไหนในประเทศไทยเราได้อีกล่ะครับ?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment