Thai Kin - Thai Restaurant at Thonglor 20 Review
ไทย กิน - ร้านอาหารไทย ทองหล่อ 20 รีวิว
Overall Score 8.5/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4.5/5
Thai Kin - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ผมรู้สึกว่าร้านอาหารไทยเปิดใหม่ร้านล่าสุดในย่านทองหล่อที่มีผมมีโอกาสได้ไปลิ้มลองนั้น น่าจะท้าวความไปตั้งแต่ปลาย ๆ ปี 2012 นุ่นเลยกับร้าน Supanika Eating's Room เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปกินอีกหนึ่งร้านอาหารไทยแท้ ๆ ที่เพิ่งเปิดมาได้ 2-3 เดือนในย่านทองหล่อมาร้านนึงกับร้าน Thai Kin หรือ ไทยกิน ที่เปิดทำการอยู่ในซอยทองหล่อ 20 แทนที่ร้าน Bird House หรือเบิร์ดอะไรสักอย่างที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นและเจ๊งไปนี่แหละครับ ร้าน Thai Kin แห่งนี้มีความพิเศษมากกว่าแค่เป็นร้านอาหารไทยเฉย ๆ อีกคือมีอาหารอีสานขายด้วย ก็เลยทำให้ร้านนี้น่าจะเป็นร้านเดียวในย่านทองหล่อที่เป็นร้านอาหารอีสานที่ผมรู้จักเลยนะเนี่ย (แต่ไม่รวมเอกมัยที่มีอยู่หลายร้านนะครับ ฮ่า ๆ)
บรรยากาศของร้านนี้หลังจากที่ผมเข้าร้านไปตอนแรกนี่ก็น่าจะเรียกได้ว่าค่อนข้างคุ้นเคยมากเพราะเคยมากินร้านนี้เอาตอนที่ยังเป็นร้าน Bird ๆ อะไรสักอย่างเมื่อปีที่แล้ว ร้านจะเน้นการตกแต่งด้วยปูนเปลือย มีที่นั่งแบบโต๊ะธรรมดาเป็นเมนหลักของร้าน และก็มีที่นั่งแบบนั่งขัดสมาธิ, นั่งกับพื้น(บนเบาะ) เป็นที่นั่งเก๋ไก๋ ๆ ไว้สำหรับให้คนมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศอีกโซนนึง หรือว่าถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวร้าน ไทยกิน (Thai Kin) แห่งนี้ก็สามารถจัดให้ได้อีกเช่นกัน (แต่ก็เป็นห้องส่วนตัวขนาดไม่ใหญ่นัก) ก็เรียกได้ว่าอยากจะได้บรรยากาศแบบไหนร้านนี้เค้าตอบโจทย์ได้หมดเลยจริง ๆ
ส่วนอาหารของทางร้านนี้ก็ตามที่กล่าวไปตอนแรกคือจะเป็นอาหารไทยกับอาหารอีสานปน ๆ กันอย่างละครึ่ง ๆ โดยประมาณ ราคาอาหารไม่ค่อยแพงนักเมื่อเทียบกับทำเลของร้านที่ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อแบบนี้และถ้ายิ่งคิดว่าร้านนี้เป็นร้านที่การบริการ, บรรยากาศนั้นจัดอยู่ในระดับภัตตาคารแบบเป็นเรื่องเป็นราวนี่ราคาอาหารของร้านนี้เค้ายิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ด้วยราคาเฉลี่ยของอาหารอยู่ที่ประมาณ 120 - 180 บาทเท่านั้นเอง โอย ไปกินร้าน sushi ในย่านนี้ราคาเท่านี้ยังกินหน้าซูชิแพง ๆ คำนึงไม่ได้เลยครับทำเป็นเล่นไป ส่วนตัวเครื่องดื่มของร้าน ไทยกิน (Thai Kin) แห่งนี้ก็มีให้เลือกเยอะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มีทั้งเครื่องดื่ม alcohol มาตรฐานทั้งหลายแหล่ whiskey, vodka, beer แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือตัวเหล้าปั่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไทย ๆ ที่ผมไม่เคยพบเจอที่ไหนในโลก และเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับสาว ๆ เป็นอย่างดีใครที่เคยดื่มเหล้าปั่นมาคงทราบเป็นอย่างดีว่ามันเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ค่อยเหลือเค้าความเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สักเท่าไรเลย
มื้อนี้ก็มีอาหารหลากหลายประเภทและก็มีเครื่องดื่มอีกเล็กน้อยมาไล่เรียงกันไปเลย
ชาเย็น (Thai ice tea with milk - 50 บาท): เครื่องดื่มแบบไทย ๆ มาตรฐาน ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้ ชงมาไม่ค่อยหวานมากนัก ผู้ชายดื่มได้ผู้หญิงดื่มดี
เหล้าปั่น Thai Kin (120 บาท): 120 บาทได้มาเหยือกนึง และเป็น 120 บาทที่สามารถเมากันได้สบาย ๆ เลยเพราะเหยือกนึงนี่ผมว่ามีเหล้าอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ช็อตได้ รสชาติอันนี้ผมไม่แน่ใจว่าทางร้านเอาไปผสมอะไรกันมาบ้างนะครับแต่กินแล้วคืออร่อยเลยล่ะ อร่อยกว่าเหล้าปั่นหลาย ๆ ที่ที่เคยกินมา ก็สมกับที่ทางร้านถึงกับเอาชื่อร้านมาตั้งเป็นชื่อล่ะครับ พวกผมไปกัน 3 คนชอบเหยือกนี้กันทุกคนเลย
ส้มตำแคปหมู (Papaya salad with crisp pork skin - 120 บาท): เปิดฉากกันด้วยอาหารอีสาน เป็นส้มตำที่ก็ถือว่าค่อนข้างแพงเล็กน้อยถ้าเทียบกับส้มตำส่วนใหญ่ที่มักจะอยู่ที่ 60 - 80 บาทโดยประมาณกับร้านที่เป็นกิจลักษณะ แต่ปริมาณของส้มตำจานนี้ก็เรียกได้ว่าให้มาค่อนข้างเยอะดี แต่ที่น่าตกใจคือ ตอนแรกที่รู้จักร้านนี้คือเค้าเป็นร้านที่กะจะเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นคนญี่ปุ่นเป็นหลัก ผมก็เลยเดา ๆ เอาว่าอาหารไม่น่าจะรสจัดแต่ที่ไหนได้ส้มตำจานนี้นี่คือรสชาติจัดจ้านมาก เผ็ดจนผมไม่คิดว่าคนญี่ปุ่นหรือคนต่างชาติจะกินกันได้ แต่ก็เพราะเผ็ดแบบนี้นี่แหละครับที่ทำให้ส้มตำจานนี้อร่อยและรสชาตินัวดีแท้เลย
แกงเขียนหวานไก่ (Green curry with chicken - 160 บาท): แกงเขียวหวานที่ค่อนข้างจะมาตรฐานไม่ได้มีความหวือหวาอะไรนักทั้งเรื่องรสชาติ, วัตถุดิบ, องค์ประกอบที่อออกมาในถ้วย เนื้อไก่ให้มาเยอะดี, มะเขือยาว, มะเขือเปาะให้มาอย่าง balance ๆ ตัวน้ำแกงมีรสหวานเล็ก ๆ ใส่กะทิมากำลังดี น้ำไม่ข้นคลั่กเกินไป รวม ๆ แล้วเป็นรสชาติแกงเขียวหวานแบบที่คนไทยส่วนใหญ่น่าจะชอบกันนะครับ
ลาบหมู (Spicy minced pork salad - 150 บาท): เป็นลาบหมูที่หน้าตาดูดีมาก จัดจานมาแบบสะอาดสะอ้านดูดีมีชาติตระกูลกว่าลาบหมูไหน ๆ ที่ผมเคยเจอมาให้เนื้อหมูสับกับตับหมูมาในปริมาณที่ค่อนข้างจะเท่า ๆ กันเลย ลาบปรุงรสชาติมานัวดีมากครับ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว ผสมผสานกันอย่างลงตัว กินกับข้าวสวยหอมมะลิอย่างดีที่ทางร้านให้มาพร้อมกันนี่เป็นอะไรที่ฟินเลยล่ะครับ
ยำผักบุ้งทอดกรอบ (Fried morning glory salad - 180 บาท): เป็นยำผักบุ้งที่ผมว่าต้องมีการปรับปรุงอีกสักหน่อยอย่างแรกเลยคือทอดมาแบบไม่ค่อยกรอบเหมือนที่เคย ๆ กินมา จริง ๆ แล้วออกแนวนุ่มด้วยซ้ำ กินแล้วเหมือนกับกินแป้งนุ่ม, ปูนิ่ม อะไรพวกนั้น ส่วนน้ำยานี่รสชาติออกหวานไปหน่อยทำให้แบบรสชาติโดยรวมของจานขาดความเป็นยำไปพอสมควร
ปลาทับทิมทอดกระเทียม (Deep-fried Tubtim fish with garlic - 290 บาท): ปลาทับทิมตัวเขื่อง ๆ ทอดมาแบบกรอบดีมาก เนื้อในก็สุกทั่วถึงกันและขาวเนียนดี ไม่มีความคาวเลยสักนิดเดียว บ่งบอกถึงการทอดที่ดีและความสดของปลาเป็นอย่างดี ทางร้าน ไทยกิน (Thai Kin) บั้งตัวเนื้อปลามาค่อนข้างใหญ่ ทำให้แต่ละคำที่ตัด ๆ ลงไปก็ได้ชิ้นปลาที่ค่อนข้างเต็มปากเต็มคำดี กระเทียมที่โรย ๆ มาก็ทอดจนกรอบและช่วยเพิ่มรสชาติดีมาก สรุปคือ ไม่ได้กินปลาทับทิมทอดกระเทียมที่ทำได้ดีแบบนี้มาสักพักแล้วล่ะครับ
ไก่ย่างทรงเครื่อง (Grilled Chicken - 120 บาท): จานนี้ชอบที่สุดในมื้อเลยล่ะครับ อร่อย max จริง ๆ ไก่แบบย่างมาได้ดีมาก หนังไก่ไม่มีตรงไหนไหม้เลย และตัวเนื้อไก่ก็แบบขาวเนี๊ยน เนียนมาก ตัวเนื้อไก่นี่ทางร้านจัดมาให้ครึ่งตัวก็เลยได้ทั้งส่วนเนื้อสะโพกและเนื้อหน้าอกมาทั้งสองแบบ คือถ้าใครที่ชอบกินเนื้อ lean ก็จัดเนื้ออกไป ส่วนใครชอบเนื้อมัน ๆ ก็จัดเนื้อสะโพกไป ไม่ต้องมีอะไรให้ทะเลาะกัน จานนี้ความอร่อยนี่ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน แต่คือกินแล้วมันชอบจริง ๆ อ่ะครับ รสชาติไก่มันกลมกล่อม และเนื้อไก่มันฉ่ำอร่อยมากเลย อร่อยจนร้านอีสาน, ร้านไก่ย่างบางร้านยังต้องอายอะไรประมาณนั้นเลย
ปอเปี๊ยะทอด (Spring Rolls - 90 บาท): ปอเปี๊ยะทอดอาหารแบบจีน ๆ ที่ช่วงหลังร้านอาหารไทยแทบทุกร้านก็มีอยู่ในเมนูกันหมดแล้ว สำหรับร้าน ไทยกิน (Thai Kin) แห่งนี้ก็ทำปอเปี๊ยะมาได้ค่อนข้างจะเป็นแบบจีนนะครับ ตัวไส้ในให้มาค่อนข้างเต็มปากเต็มคำดี วุ้นเส้น, ผักกาด, เนื้อหมูสับ ให้มาแบบค่อนข้างสมดุล แต่ละคำที่กัดผ่านแป้งกรอบ ๆ ลงไปนี่คือได้ไส้ในมาแบบ balance ดีมาก เป็นปอเปี๊ยะที่ถือว่ารสชาติดีครับจานนี้
ไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบ (Stir-fried holy basil with minced pork and century eggs - 150 บาท): ปิดท้ายของคาวมื้อนี้ด้วยของคาวที่ค่อนข้างจะเบสิค พบเจอได้ตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไปแต่มักจะไม่ค่อยพบเจอตามร้านอาหารเป็นเรื่องเป็นราว ไข่เยี่ยวม้ามีการไปชุบแป้งและทอดมาจนกรอบกำลังดี, ใบกะเพรากรอบก็กรอบจริง ๆ และให้มาเยอะดี ตัวเนื้อหมูสับก็ให้มาปริมาณค่อนข้างจะสมดุลกัน ส่วนรสชาติกระเพรานั้นมาแบบนัว ๆ ใช้ได้ดีมากขาดแค่รสเผ็ดที่ถ้าเผ็ดอีกหน่อยนี่จะทำให้จานนี้กลายเป็นสุดยอดกระเพราได้อย่างไม่ยากเย็นเลยล่ะครับ
เฉาก๊วยชาเย็น (Black root jelly in iced Thai tea - 50 บาท): มื้อนี้ปิดท้ายด้วยของหวานแบบไทย ๆ ปิดท้ายด้วยเฉาก๊วยแบบไม่ธรรมดาที่ทางร้านเปลี่ยนเอาน้ำเฉาก๊วยมาเป็นน้ำชาเย็นแทน ตัวเฉาก๊วยอร่อยดีเด้งดึ๋ง ๆ ตัวน้ำชาเย็นไม่ค่อยหวานเท่าไร เลยทำให้รู้สึกว่าเฉาก๊วยจานนี้มันขาดความหวานไปเล็กน้อย แต่รวม ๆ แล้วก็ได้ความแปลกใหม่ของการกินเฉาก๊วยดีนะครับ
สรุป ร้าน ไทยกิน (Thai Kin) ร้านอาหารไทย-อาหารอีสาน น้องใหม่ในย่านทองหล่อแห่งนี้ผมว่ามีหลาย ๆ อย่างที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของทางร้านเลย อย่างแรกเลยคือเรื่องราคา ราคาอาหารของร้านนี้ถือว่าถูกมาก ๆ กินกันเต็มที่ก็คงไม่น่าจะเกิน 500 บาท ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งนักกับร้านในย่านทองหล่อแบบนี้, อย่างที่สองก็คือเรื่องรสชาติ รสชาติร้านนี้ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นแบบไม่ใช่รสชาติคนไทย แต่พอกินแต่ละจาน ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็แบบอืม นี่มันรสคนไทยชัด ๆ เราต้องทำให้คนต่างชาติอร่อยกับรสแบบไทย ๆ นี่สิไม่ใช่เราไปปรับให้รสมันถูกปากคนต่างชาติ อย่างที่ 3 เลยก็คือตัวเครื่องดื่มที่มีให้เลือกเยอะและมีเหล้าปั่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันแสนจะเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยด้วย ครับ ร้านนี้เป็นอะไรที่น่ามาลองกันสำหรับคนที่เบื่อร้านอาหารญี่ปุ่น, อิตาเลียน, ยุโรป ในย่านทองหล่อ แต่พอดีต้องผ่านมาแถวนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment