Tuesday, December 3, 2013

Yuutaro Japanese Restaurant Review

Yuutaro - Japanese Restaurant at Sukhumvit 49, Thonglor Bangkok Review

ยูทาโร่ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ปลาดิบ สุขุมวิท 49 ทองหล่อ รีวิว



Overall Score  9/10
Taste   5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   3/5

Yuutaro - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



เดี๋ยวนี้เวลาได้ยินว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวทองหล่อ, พร้อมพงษ์นี่ บอกตรง ๆ ว่าผมจะรู้สึกประมาณว่า "เหรอ แล้วไง?" พร้อมกับยกมือขึ้นมาไว้ข้าง ๆ เอวพร้อมแบะออกส่งเสริมท่าไม่แยแส เช่นเดียวกันกับตอนที่ได้ยินชื่อร้าน Yuutaro ในรีวิวนี้ที่เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ในย่านทองหล่อที่เพิ่งเปิดมาได้ประมาณเดือนเดียว (เขียนวันที่ 27 Nov 2013) แต่บอกตรง ๆ ว่าผมเกือบไปแล้ว เกือบที่จะเอาความเคยชินและชินชาต่อร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ในกรุงเทพฯ มาด่วนตัดสินร้านอาหารญี่ปุ่นดี ๆ ร้านนี้ทิ้งไปซะก่อนที่จะได้มาลิ้มลอง เพราะถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ร้าน Yuutaro แห่งนี้นี่เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นแค่อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ที่ผมไปกินมาช่วงปีนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะทั้งความใหญ่โตของร้าน, ความหลากหลายของเมนู, การบริการของพนักงาน, การใส่ใจในด้านจานชามช้อนส้อมตะเกียบของทางร้าน ทั้งหมดนี้เป็นอะไรที่ top notch, สุดยอด ซะจนร้านนี้ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยจริง ๆ ยอดเยี่ยมซะจนผมรู้สึกว่าความรู้สึกหลังได้กินมื้อนี้เสร็จนี่มันอารมณ์ประมาณที่ผมได้กินร้าน Mugendai ครั้งแรกเลยนะนั่น (ร้านโปรดอันดับหนึ่งในดวงใจผม)

ร้าน Yuutaro แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 บริเวณท้ายซอย ตั้งอยู่ในทำเลที่แต่ก่อนเป็นร้านอาหารอิตาเลียนร้านนึงแต่เจ๊งไปแล้วสักพัก (ไม่รู้นานเท่าไรแล้วล่ะครับ) การเดินทางก็สามารถมาได้ทั้งจากซอยทองหล่อ 13 แล้วก็เลาะ ๆ มา หรือว่าจะเข้ามาทางสุขุวิมท 49 เองเลยก็ได้ ที่จอดรถของทางร้านมีค่อนข้างจะครบครันจอดได้หลายสิบคัน (ผมไม่รู้เรื่องขับเข้าไปด้านหน้า เห็นที่จอดแค่ 3-4 คันเพิ่งมารู้ว่ามีด้านหลัง) ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นร้าน Yuutaro แห่งนี้คือ "ทำไมร้านใหญ่จัง!" ใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้มากครับ ณ วันที่ไปนั้น ตัวร้านยังสร้างไม่เสร็จดีเพราะเพิ่งเปิดมาได้แค่ 1 เดือน ตัวร้านเสร็จเฉพาะที่นั่งส่วน sushi bar ที่น่าจะเป็นบาร์ซูชิที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ และแบบอาหารทะเลสด ๆ ในตู้แต่ละตู้นี่ก็คือแบบ เต็มแน่นเอี๊ยดและหลากหลายไม่ซ้ำกันเลย คือเห็นแค่ตัว sushi bar แค่นี้ก็อาจจะทำให้ใครบางคนฟินแล้วก็เป็นได้ (ผมคนนึงล่ะฮ๋า ๆ) และอีกส่วนหนึ่งที่สร้างเสร็จแล้วก็คือที่นั่งส่วนปกติที่มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายแบบและมีจำนวนโต๊ะค่อนข้างเยอะ หรูหรา โอ่โถ่ง ไม่ค่อยเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เคยเจอมานัก ให้ feel ที่ต่างออกไปดีเหมือนกัน







ส่วนบริเวณร้านที่ยังสร้างไม่เสร็จก็จะเป็นส่วนห้องส่วนตัวจำนวน 4 ห้อง (รู้สึกจะเป็นที่นั่งแบบนั่งบนเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นด้วย) และส่วน wine cellar ที่ทางร้านกะว่าจะมีไวน์เจ๋ง ๆ จากทั่วมุมโลกมาให้ลูกค้าได้เลือกสรร pairing กับตัวอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลายอยู่แล้วของทางร้านกันได้อย่างเพลิดเพลิน วันที่ผมไปเป็นช่วงที่ร้านอยู่ในช่วง soft opening และลดราคาอาหาร 50% ทำให้แม้ว่าผมจะไปร้าน Yuutaro แห่งนี้ตอนกลางวัน แต่ลูกค้าก็แน่นเต็มร้านแบบน่าตกใจ แต่ถึงแม้ว่าลูกค้าจะเยอะ order จะแยะ พนักงานจะวิ่งกันวุ่น แต่การบริการก็หาได้ตกหล่นแต่อย่างใดเลยครับ บริการได้ดีประทับใจตลอดมื้อที่ผมนั่งรับประทานที่ร้านนี้เลย

อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของผมต่อร้านนี้ก็คือตัวอาหารของทางร้าน บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกผมนึกว่าอาหารของร้านนี้ก็คงจะเป็นอารมณ์ประมาณ อาหารญี่ปุ่นแบบที่เราพบเจอกันได้ดาษดื่นทั่วกรุงเทพฯ ไม่มีอะไรหวือหวาแต่อย่างใด แต่พอได้ไล่ดูเมนูไปทีละหน้าแล้ว ความรู้สึก amaze ก็ค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ คือแบบเมนูอาหารของร้านนี้เยอะ และน่าสั่ง น่ากินจริง ๆ เมนูบางตัวนี่คือแบบเป็นญี่ปุ่นจ๋าซะจนผมเองยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ เมนูของร้านนี้มีค่อนข้างครบครันไล่กันไปตั้งแต่ set lunch, tasting menu (หัวละ 6,000++ บาท), sushi, sashimi, ของทอด, อาหารเส้น, และอื่น ๆ คือแบบน่าจะเป็นหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอาหารให้เลือกเยอะครบครันที่สุดร้านนึงในกรุงเทพฯก็ว่าได้ล่ะครับ (ไม่นับร้านภูเขาไฟสีน้ำเงินนะครับ ฮ่า ๆ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความ premium ของทางร้านในทุก ๆ ด้านก็เลยทำให้อาหารของทางร้านนี้ (super) premium ตามติดมาตาม ๆ กัน ราคาอาหารค่อนข้างแพงครับ ค่าเฉลี่ยหัวนึงน่าจะอยู่ที่ 2,000 - 3,000 บาทได้อย่างไม่ยากเย็นเลย

อาหารในมื้อนี้ก็มีค่อนข้างครบครัน และเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ mix กับของหวานสไตล์ฝรั่งได้อย่างลงตัวดี มาไล่เรียงกันไปทีละอย่างเลยละกันนะครับ





Cool Egg Custard (cold steamed egg custard topped with seafood jelly, sea urchin, shiro ebi and junsai - 700 บาท): ถ้าเรียกจานนี้ว่าไข่ตุ๋นและดูราคาประกอบ ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะเห็นตรงกันว่า "ไข่ตุ๋นอะไรกัน 700 บาท!" แต่เมื่อได้เห็นหน้าตาที่ให้มาแต่ขอ premium ๆ ทั้งไข่หอยเม่น, ไข่ปลาแซลมอน, กุ้งขาว, ซีฟู้ดเจลลี ซึ่งพวกวัตถุดิบเสริมพวกนี้ล้วนแต่ทำให้ไข่ตุ๋นแต่ละคำที่กินเข้าไปนี่คือมีรสชาติมากกว่าการเป็นไข่ตุ๋นปกติจริง ๆ และไข่ตุ๋นถ้วยนี้เสิร์ฟกันมาแบบเย็น ๆ ด้วย เพื่อให้เข้าคู่กันกับวัตถุดิบ premium ทั้งหลาย จานนี้ก็เลยกลายเป็นไข่ตุ๋นเย็นที่อร่อย เยี่ยมเลยจริง ๆ (แต่แพงไปนะ)





Yuba Salad Maki (Tuna, salmon, shrimp, eggroll, salmon roe, avocado, cucumber and salad leaves wrapped in tofu skin with wasabi sauce - 800 บาท): จานนี้ทางร้านจัดว่าเป็นสลัด ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ ถ้าเป็นร้านอื่นอาจจะจัดอันนี้เป็นหมวดหมู่ roll เพราะหน้าตาจานนี้มันคือโรลล์ชัด ๆ แค่ไม่ได้ใช้ข้าวมาเป็นตัวทำให้ขึ้นรูปเป็นชิ้นแค่นั้น ใช้ตัวแผ่นเต้าหู้แทน จานนี้จะรสชาติเบา ๆ กินแล้วได้ความฉ่ำของผักและความมันของวัตถุดิบแต่ละอย่างมากกว่า ก็อร่อยดีครับ เป็น salad กลายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาได้ลงตัวดี





Wagyu-toro roll (Seared fatty tuna, avocado and Japanese leek wrapped in seared Japanese wagyu beef - 1,300 บาท): จานนี้เป็นการจับคู่เอาของดีของทั้งทะเลกับบกมาเจอกันและออกมาเป็น roll ที่หน้าตาน่าหม่ำจานนึง ไส้ในจะเป็นเนื้อโอโทโร่นำไปเผาให้หอม ๆ และมันเยิ้ม ๆ นิด นึง และยังเพิ่มความมันและความนุ่มมาด้วย avocado และเมื่อมาเจอกับความนุ่มและมันของเนื้อวากิวที่ห่อหุ้ม roll แต่ละชิ้นเข้าไปอีก แต่ละคำที่กินเข้าไปก็เลยแบบ โอว อา นุ่ม ละลายในปากมากเลยครับ






Beef tasting platter (Premium - Matsuzaka) (a selectionof four beef appetizers served in small tasting portions - 3,900 บาท): จานนี้เป็นเมนูที่ผมเพิ่งจะเคยเห็นในร้าน ๆ นึงซึ่งทางร้าน Yuutaro เองก็มี platter อะไรหลาย ๆ อย่างให้เราเลือกทั้ง tuna platter, seafood platter โดยจุดประสงค์คือต้องการให้ลูกค้าได้ลิ้มรสกับความอร่อยของเนื้อชนิดนึงในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจานนี้ก็จะเป็น beef plater ที่ประกอบด้วยเนื้อ Matsuzaka เนื้อวัวสุดแสนจะ premium ของโลกทำมา 4 แบบ คือมีเป็นแบบแล่มาเป็นชิ้นกำลังดีและจิ้มกินกับซอส ยonzu jelly, มีแบบไปห่อตัวตับห่าน (foie gras) มา, ย่างมาและเสียบไม้และมีจิ้มกินกับเกลือทะเล และก็มีย่างมาให้กินกับ yuzu cream sauce ทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าอร่อยไร้กังวลอยู่แล้วเพราะว่าเนื้อวัวมัตสึซากะซะอย่าง แต่คือแต่ละคำที่กินเข้าไปนั้นรสชาตินั้นค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจนจากตัวซอสที่ design มาให้เข้าคู่กัน ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดก็คือตัว ที่ห่อตับห่านมาครับ อร่อย ละลายในปากมาก ๆ โอว อา





Toro Tseke Inaniwa Udon (Cold inaniwa udon with fatty tuna, onsen tamago and nameko mushrooms - 900 บาท): จานนี้เป็นจานที่ผมเองไม่เคยกินมาก่อน เป็นการนำเส้น inaniwa udon (เส้นอุด้งจากจังหวัด Akita ที่จะเส้นเรียวเล็กกว่าเส้นอุด้งปกติ คล้าย ๆ กันกับเส้นราเมนที่จะมีเส้นของ hakata ที่จะเส้นเรียวเล็กกว่าปกติเช่นกัน) และก็เสริ์ฟมาพร้อมกับของ premium ทั้งหลายคล้าย ๆ กับจานไข่ตุ๋น ประกอบด้วย เนื้อโอโทโร่, ไข่หอยเม่น, ไข่ปลาแซลมอน และก็มีใส่ไข่ออนเซ็นและเห็ด nameko มาเพื่อให้รสชาติกลมกล่อม คละเคล้ากันเป็นอย่างดีด้วย ก่อนจะกินถ้วยนี้ก็จะต้องคลุกก่อน คลุกก่อนให้วัตถุดิบแต่ละอย่างรวม ๆ กันเป็นอย่างผสมผสานและก็กินเข้าไปก็จะได้เป็นอุด้งเย็นที่จะนัว ๆ มัน ๆ อร่อยดีไปอีกแบบครับ












Sushi Platter (ไข่หวาน [100 บาท], Ootoro [520 บาท], Kuruma Ebi [450 บาท], Akami [200 บาท], Hotate [200 บาท], Kare[220 บาท], Uni [500 บาท]): จานนี้เป็นซูชิแบบรวม ๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน set แต่เป็นการ mix and match มาด้วยกัน ซึ่งผมเชื่อว่าใครที่เป็นคอ sushi แล้วได้ไปเห็นเจ้าซูชิรวมจานนี้วางอยู่ตรงหน้าแล้ว คน ๆ นั้นแค่ไม่ได้กินก็คงรู้ได้ตั้งแต่ก่อนกินแล้วว่ามันต้องอร่อยแน่นอน ซูชิทุกคำคือเนื้อสดเด้ง อร่อยหมด ไม่มีอะไรให้ต้องติเลยสักนิดเดียว คือเรียกได้ว่าถ้าถามว่าที่สุดของความสดของ sushi แต่ละประเภทในจานนี้เป็นยังไง แต่ละคำที่ผมได้กินเข้าไปทั้งหมดนั่นล่ะคือตัวแทนความสดที่สุดของมันแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทางร้าน Yuutaro ปั้นมาแบบข้าวน้อยไปหน่อย (ข้าวคำเล็กมาก) ซึ่งตัวผมเองค่อนข้างจะชอบแบบเนื้อปลากับข้าวให้มันสมดุลกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคำก็ยังคงอร่อยเยี่ยมอยู่ดีล่ะครับ

Genmai-Cha Pudding (Brown rice tea flavoured pudding with berry sauce - 150 บาท): พุดดิ้งรสชาติเบา ๆ หวานหน่อย ๆ ตัวเนื้อพุดดิ้งก็เนียน ๆ ดี อร่อยใช้ได้ครับ








Macarons (Yuzu, Green Tea, Genmaicha, Sesame) (40 baht/each): เมนูนี้อาจจะเรียกว่าแปลกก็ว่าได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบร้าน Yuutaro แห่งนี้เสิร์ฟของหวานเป็น Macaron แต่ว่าถ้ามาการอนแต่ละชิ้นจะชิ้นใหญ่และรสชาติอร่อย และรสชาติชัดเจนแบบที่ตั้งใจจะให้ทำมาแล้วแบบนี้แล้วล่ะก็ ผมว่าก็ไม่เป็นไรหรอกครับที่ใช้ของหวานเป็น macaron แบบนี้ แฟนผมและผมชอบกันทั้งคู่ ตัวผมเองชอบตัวรสส้ม Yuzu ที่สุด เปรี้ยวนิด ๆ หวานหน่อย ๆ อร่อยดีมากครับ

สรุป ร้าน Yuutaro ร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่แห่งนี้ ผมว่าไม่ยากเลยที่ร้านนี้จะกลายเป็นที่หนึ่งในดวงใจใครหลาย ๆ คน เพราะทุกอย่างของร้านนี้นี่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไปหมด ไม่ว่าจะบรรยากาศร้าน, การบริการ, รสชาติอาหาร, ความหลากหลายของอาหาร เรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครในพ.ศ.นี้จริง ๆ แต่ความสุดยอดทั้งหมดนี้ก็แลกมากับราคาที่ค่อนข้างจะ premium หน่อย แต่ถ้าถามผมว่าเก็บเงินสักก้อนนึงแล้วมากินอาหารญี่ปุ่นดี ๆ แบบนี้สักมื้อนึง มันก็ยังดีกว่าไปเสียเงินประปรายกินอาหารญี่ปุ่นธรรมดา ๆ ที่อื่นแต่ได้กินแบบไม่สุด ๆ หลายมื้อ อยู่ดีนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment