Kaizen Sushi & Hibachi - Japanese Restaurant at Aree, Bangkok
ไคเซ็น ซูชิ แอนด์ ฮิบาชิ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาซิมิ ปลาดิบ อารีย์
Overall Score 8.5/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
Kaizen Sushi & Hibachi - Japanese Restaurant on BuMRes.c0m (For more pictures, menu and info)
ร้าน Kaizen Sushi & Hibachi ในรีวิวนี้ก็เป็นร้านสาขาลำดับที่ 2 ของร้านอาหารญี่ปุ่นร้านโปรดของผมที่มีโอกาสได้ไปลิ้มลองร้านนี้เมื่อปีที่แล้ว ณ สาขาราชเทวี จนเมื่อประมาณกลาง ๆ ปีที่ผ่านมา (เดือนมิ.ย.) ทางร้าน Kaizen ได้เปิดสาขาที่ 2 ขึ้นที่คอนโด Noble Reform คอนโด chic ๆ ณ ปากซอยอารีย์ พหลโยธิน 7 บริเวณชั้นล่างของคอนโดที่มีร้านอาหารเก๋ ๆ อีก 2 ร้านเปิดขนาบคู่กันเป็นสามสหายร้านอาหารกันเลยทีเดียว
ร้าน Kaizen สาขา 2 ณ อารีย์ แห่งนี้ยังคง concept ของความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเต็มรูปแบบเอาไว้อย่างครบถ้วน ด้วยอาหารที่ให้บริการครบครันทั้งครัวร้อน, ครัวเย็น และอาหารที่มีให้เลือกครบแทบจะทุกหมวดหมู่อาหารญี่ปุ่นที่เราจะนึกออก แต่เนื่องด้วยขีดจำกัดทางกายภาพของทางร้านที่มีพื้นที่เล็กกว่าสาขาแรก ทำให้ตัวกระทะร้อนหรือ Hibachi ของทางร้านก็มีอันต้องเอาไปซ่อนไว้อยู่ในครัวด้านใน ไม่ได้โชว์ทำกันสด ๆ เหมือนที่สาขาราชเทวี, อาหารบางอย่างที่ order น้อยและทำนานเช่น ซุป, สุกี้ ก็จะไม่ได้ใส่ไว้ในเมนูเนื่องจากว่าไม่มีที่วางน้ำ stock ในห้องครัว (แต่ทางร้านบอกว่าสั่งได้ แต่ต้องรอหน่อย 20 นาทีขึ้นไปอะไรงี้)
แต่นอกเหนือจาก 2 เรื่องนี้แล้วทั้ง 2 สาขานี้ก็เรียกได้ว่า clone กันมาจาก DNA เดียวกันเลย ไม่ว่าจะตัววัตถุดิบที่นำเข้ากันมาจากญี่ปุ่นแบบสด ๆ วันต่อวัน, ตัวเชฟผู้มากประสบการณ์ (ทางร้านมี executive chef 9 คน สลับหมุนเวียนกัน 2 สาขา และสลับหมุนเวียนกันทำอาหาร เช่น ทำ sushi traditional บ้าง roll บ้าง อะไรแบบนี้) , เครื่องดื่มที่มีให้เลือกครบครันทั้งเครื่องดื่มนำเข้าจากญี่ปุ่นหรือเบียร์สด ๆ ไว้ดื่มเคล้าคลอไปกับอาหารอร่อย ๆ รวมถึงตัว set lunch ทางร้าน Kaizen Sushi & Habachi สาขาอารีย์ก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน โดยตัว set lunch นั้น จะให้บริการช่วง 11.00 - 15.00 น. จะมีอาหารพวกกระทะร้อนให้เลือกสั่งในราคาประหยัดกว่าสั่งแบบ a la carte และแถมซุปและข้าวให้ด้วย
ส่วนถ้ามานอกเหนือจากเวลานั้นแล้ว เราก็สามารถสั่ง sushi, sashimi ที่มีปลาให้เลือกสุดแล้วแต่เราจะนึกออก, roll แบบครีเอท ๆ มากมายที่ทางร้านคิดกันขึ้นมาเอง และโด่งดังกันจนลูกค้าแทบทุกโต๊ะที่มาจะต้องลอง roll ชื่อดังของทางร้าน (เช่น snowman) รวมถึงอาหารจากครัวร้อนต่าง ๆ ทั้งพวกเสต็ก, อาหารตุ๋น, อาหารต้ม มีครบจัดเต็มกันหมดเลย ราคาอาหารของร้าน Kaizen นี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมครับยังเป็นราคาที่คุ้มค่ากว่าหลาย ๆ ร้านในระดับเดียวกันเช่นเคย เช่น ชุด Sashimi 27 ชิ้นอลังการที่สุดของร้าน ราคาแค่ 2,800++ บาท ในขณะที่หลาย ๆ ร้านถ้าเป็นแบบเดียวกันนี้ก็จะอยู่ที่ 3,500 - 4,000 บาทได้สบาย ๆ เลย
(ทางร้าน Kaizen ยังมีเมนูพิเศษประจำเดือนที่จะออกมากันอยู่เรื่อย ๆ อย่างตอนผมไปก็จะเป็น Sashimi Set B + Sugoi Maki จาก 830 บาทเหลือ 729 บาทอะไรแบบนี้)
เกริ่นกันอยู่นานเข้าตัวอาหารกันดีกว่า มื้อนี้มี Roll 2 อย่าง, Sashimi 1 จาน, Sushi 1 จาน และ Steak 2 อย่างครับ มาไล่เรียงกันไปเลยดีกว่า
Sugoi Maki (Baked crab meat on top, shrimp tempura, asparagus, avocado, tobiko - 380 บาท) : เป็น roll แรกในชีวิตผมที่มีการนำเนื้อปูม้ามาเป็นเองประกอบ โดยจะเป็นเนื้อปูม้าผสมกับปูอัดและก็โรยไข่ปลาบินมาด้านบนอีกที ส่วนไส้ในก็จะเป็น avocado กับ หน่อไม้ฝรั่ง ก็อร่อยดีครับ roll อันนี้ ไม่ได้มีวัตถุดิบตัวไหนโดดเด่นกว่ากันแต่ก็ผสมผสานกันมาลงตัวดี
Foie Gras Maki (Foie gras on top & inside, avocado, unagi, kani, tamago, aspargus - 420 บาท) : จานนี้เป็น roll ที่แค่เห็นแว่บแรกก็รู้แล้วว่าต้องมัน ต้องนุ่ม แน่ เพราะว่ามีทั้ง foie gras, avocado, unagi ยัดรวมเข้ามาในก้อนเดียว ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ครับ นุ่ม มัน อร่อยดีมาก คือกินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว แต่ทางร้าน Kaizen มีราดซอสที่คล้าย ๆ ครีมซอสเพิ่มเข้ามาอีกก็เลยแบบอร่อยขึ้นไปอีก อืม ฟิน
Sashimi Set ประกอบด้วย Hamachi (360 บาท) , Akami (180 บาท), Otoro (1,200 บาท), Chutoro (650 บาท), Salmon (144 บาท) , Madai (330 บาท) ทั้งหมด 6 อย่างอย่างละ 3 คำเป็น Sashimi แบบ a la carte แต่จัดมาเป็น set ครับ ซึ่งปกติแล้ว sashimi ของทางร้าน Kaizen แห่งนี้จะขายเป็น 5 ชิ้นแต่สั่ง 3 ชิ้นก็ได้ราคาจะลดหลั่นกันไป (ในวงเล็บเป็นราคาต่อ 3 ชิ้น) : จานนี้สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยคือความหนาและใหญ่ของชิ้นปลาครับ หนาและใหญ่มาก ๆ และเมื่อเทียบราคาแล้วค่อนข้างถูกกว่าร้านอื่นแบบนี้แล้วด้วยเลยยิ่งรู้สึกคุ้มขึ้นไปใหญ่ ส่วนความสด ความอร่อย ก็ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้วล่ะครับ ปลาเข้าทุกวัน เชฟเก๋าขนาดนี้ อร่อย ฟิน แน่นอน
Sushi Set ประกอบด้วย Matsuzaka (320 บาท) , Kampachi (140 บาท), Akami (120 บาท), Hamachi (80 บาท) , Enkawa (120 บาท) และ Foie Gras (260 บาท) ซึ่งจานนี้ก็เป็น sushi แบบ a la carte แต่นำมาจัดเป็นจานเดียวเช่นเดียวกัน : Sushi นี่จะแตกต่างจาก Sashimi หน่อยตรงที่ทางร้าน Kaizen ไม่ได้ปั้นมาชิ้นใหญ่ ๆ เหมือนหลาย ๆ ร้านในปัจจุบันแต่จะปั้นมาพอดีคำ ๆ ขนาดกำลังดีมากกว่า (ซึ่งแบบนี้ผมชอบ) ตัวปลาสดอยู่แล้ว ส่วนข้าวก็อร่อยดี รวม ๆ แล้วก็เป็น Sushi คุณภาพดีทุกคำล่ะครับ
Kobe Steak (100 g) (เนื้อโกเบขนาด 100 กรัม - 600 บาท) : เนื้อโกเบชิ้นค่อนข้างใหญ่ (ผมว่าน่าจะเกิน 100 g นะ) และก็ย่างมาแบบ medium rare กำลังดี จิ้มกินกับน้ำจิ้ม 3 ชนิดตามสไตล์ญี่ปุ่น อร่อยแบบลงตัว
Snowfish Steak (เสต็กปลาหิมะ - 450 บาท) : ปลาหิมะชิ้นใหญ่ ย่างมาแบบผิวเกรียมนิด ๆ แต่ผิวด้านในยังขาวละมุน ปลาสดดี เนื้อไม่เละ ไม่แตก และก็กินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว หรือจะจิ้มกับน้ำซอส 3 ชนิดของทางร้านก็ได้เช่นเดียวกันครับ อร่อยดี
ก็ครั้งที่ 2 ของผมกับร้าน Kaizen Sushi & Habichi แต่คราวนี้มาที่สาขาอารีย์ - พหลโยธิน 7 ก็ยังคงประทับใจอยู่เช่นเคยครับ คือแบบกินอาหารของร้านนี้แล้วรู้สึกว่าทางร้านใช้ของดีมีคุณภาพ และราคาไม่โหด รู้สึกว่าแบบทางร้านจริงใจดี บวกกับอาหารที่มีให้เลือกสั่งกันอย่างหลากหลาย และเดินทางสะดวกเหลือเกิน ติดรถไฟฟ้าอารีย์ขนาดนี้ ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น แนะนำให้มาลองกันครับ
ปล. ถ้าทุกสาขาของทางร้านนี้สามารถรักษาคุณภาพไว้ได้แบบนี้แล้วล่ะก็ผมเชื่อว่าร้านจะ Kaizen (เจริญรุ่งเรืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนความหมายของชื่อร้าน) ได้อย่างไม่ยากเย็นเลยนะแหม่
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment