The Myth of Mahanaga - Contemporary Thai Restaurant at Sukhumvit 29, Bangkok Review
เดอะ มิธ ออฟ มหานากา - ร้านอาหารไทย ร่วมสมัย สุขุมวิท 29
Overall Score 7/10
Taste 3/5
Ambiance 4.5/5
Service 4.5/5
Value 3.5/5
The Myth of Mahanaga - Contemporary Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
The Myth of Mahanaga หรือ เทพนิยายแห่งมหานาค แห่งนี้ ก็เป็นรานอาหารไทย ที่ได้ยินชื่อ หรือได้เห็นร้านในครั้งแรกก็คงไม่คิดว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยกันแน่ ๆ (ผมคนนึงล่ะ) ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 29 บริเวณปากซอยเลย คือเข้าซอยไปประมาณ 20 เมตรจะเห็นร้านอยู่ขวามือเลย มีที่จอดรถสะดวกสบาย จะขับรถมา หรือจะเดินมาจากรถไฟฟ้าก็สะดวกสบายทั้งคู่ครับ ร้านนี้เปิดทำการมาได้ 14 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้จะใช้ชื่อแค่ Mahanaga เฉย ๆ แต่เนื่องด้วยอยากให้ร้านดูลี้ลับ น่าค้นหามากขึ้นก็เลยเปลี่ยนชื่อกันซะหน่อย
ร้าน The Myth of Mahanaga แห่งนี้ก็เป็นร้านที่โดดเด่นอย่างมากในร้านบรรยากาศและการตกแต่งร้านครับ ตัวร้านจะมีหลายโซนเริ่มกันที่โซน al fresco dining ตรงกลางร้านก่อน โดยในโซนนี้จะเป็นที่นั่งแบบ open air นั่งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่มีการเอาหลอดไฟไปแต่งสีให้ดูแบบเหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย ฟากนึงจะเป็นบาร์ขนาดใหญ่ สวยงาม , อีกฟากนึงจะเป็นอาคารขนาดเล็กที่มีบาร์เล็ก ๆ และที่นั่งไว้ให้นั่งดื่มนั่งชิลล์ , อีกฟากนึงจะเป็นอาคารที่ทางร้านเรียกว่า grand dining หรือบริเวณหลักที่มีโต๊ะอาหารไว้รองรับแขกทั่วไปทั้ง walk-in หรือจองโต๊ะมาก่อน ส่วนอีกฟากนึงก็จะเป็น private function room ขนาดใหญ่ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องจัดปาร์ตี้ขนาดกลาง ๆ ได้ ถ้ามีการแจ้งกับทางร้าน แต่ว่าในวันที่ไม่มีปาร์ตี้ก็จะเป็นที่นั่งแบบปกติธรรมดาได้เช่นกัน
บรรยากาศร้านนั้นตกแต่งได้พิศวง ลี้ลับน่าค้นหาสมกับชื่อร้านจริง ๆ ทางร้านให้นิยามการตกแต่งว่าเป็นสไตล์ Mix & Match เพราะมีการเอาประติมากรรมจากหลาย ๆ ชาติมาวาง ๆ ประดับประดาตัวร้าน แต่ตามความรู้สึกของผมเอง ผมรู้สึกเหมือนมันคือการตกแต่งสไตล์ Moroccan ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันครับ สวยดี ลี้ลับดีจริง ๆ
อาหารของทางร้านนี้ทางร้านบอกว่าเป็นอาหารไทย แต่จากรูปที่ทุกท่านเห็นทั้งจากในรีวิวนี้ หรือจากใน facebook ร้าน หรือจากที่ไหนก็แล้วแต่ก็อาจจะคิดว่านี่มันคืออาหารไทยจริงหรือ? เพราะว่าอาหารแต่ละจานนั้นทำออกมาหน้าตาเหมือนแบบอาหารยุโรป, อาหารฟิวชั่น อาหารแนวใหม่ก็คงจะไม่ผิดนักครับ ซึ่ง concept ขอร้านนี้ก็คืออาหารไทยแนว Modern , Twist นั่นเองครับ ส่วนนึงที่อาหารของทางร้านเป็นแนวนี้ก็เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของทางร้านเป็นชาวต่างชาติด้วย และก็ไม่อยากทำแบบอาหารไทยธรรมดา ๆ ที่เราสามารถพบเจอกันได้ทั่วไป อาหารของทางร้าน The Myth of Mahanaga แห่งนี้มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะตามสไตล์ร้านระดับ Premium ราคาอาหารก็อยู่ในช่วง 300 บาทโดยประมาณ คือถ้ามากินกันแบบจัดหนัก ๆ หน่อยสั่งอาหารหลายจาน สั่งเครื่องดื่มด้วย ก็คงจะอยู่ที่หัวละประมาณ 1,000 บาทโดยประมาณ
มื้อนี้เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่ม 2 ชนิด เป็น Signature Drink ของทางร้านทั้งคู่
The MYTH of love (Pampero blanco rum , peach liquer, passion fruit & pineapple juice - 270 บาท)
The MYTH of NAGA (Gordon's dry gin, apple sour, passion fruit & lychee juice - 270 บาท)
2 แก้วนี้รสชาติดีมากครับ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารสชาติเป็นยังไงเอาเป็นว่าเป็น Cocktail ที่อร่อยมาก สมกับที่ทางร้านเอาชื่อร้านมาตั้ง และเป็นหนึ่งในแค่ 5 Signature Cocktail ของทางร้านนี้ประมาณนั้นเลย
อาหารในมื้อนี้ก็มี 4 อย่างครับเป็นของคาว 3 ของหวาน 1
ลาบปลาทูน่า (Spicy fin tuna salad slow cooked with cracked roasted rice, flavored with onion and mint - 300 บาท) : เป็นการนำเอาปลาทูน่าไป sear นิด ๆ แล้วเอามาปรุงรส, ใส่ผักมาแบบเป็นรสลาบ และก็ตกแต่งจานมาเป็นแนว appetizer สไตล์ฝรั่งเศส รสชาติลาบอาจจะไม่เด่นมากนักจานนี้แต่ว่าตัวปลาทูน่านั้นชิ้นใหญ่ เนื้อหนา อร่อยดี (อารมณ์ประมาณกิน Sear Akamai Sushi แบบเผ็ด ๆ อะไรประมาณนั้นครับ)
Slow Cooked Pork (15 Hours slowly roasted pork in browns bean sauce and chilli, served with sauteed kale and green puree - 320 บาท) : เนื้อหมูที่ผ่านการหมักมา 15 ชั่วโมงเลยทำให้ได้เนื้อหมูที่นุ่มไปซะทุกอณู และไม่ได้แค่เอาไปต้มมาแค่นั้นก่อนนำมาเสิร์ฟทางร้านก็มีการเผา ๆ ที่ผิวให้เกรียม ๆ มาเล็กน้อยด้วย คือเจ้าเนื้อหมูสามชั้นชิ้นนี้ก็เลยมีทั้งความนุ่ม, ความมัน, ความกรอบ(นิด ๆ) ผสมผสานกันอยู่ในแต่ละคำที่กินเข้าไป คือเนื้อหมูชิ้นนี้ผมกินเปล่า ๆ ก็โอเคแล้ว แต่ว่าทางร้านก็มีใส่ซอสผักบด (pesto sauce) มาจนเต็มชามด้วย ก็ช่วยเปลี่ยนรสชาติได้ดีไม่ทำให้กินไปหลัง ๆ แล้วเจอแต่ความเลี่ยนอะไรงี้
Red snapper sauce tom yam (Red snapper pave, rubbed dried tom yam spices and pan fried to perfection served on stir-fried greens - 360 บาท) : จานนี้เป็นการนำเอาปลากะพงแดงไปคลุกกับผงพริก, เครื่องแบบต้มยำ และก็จัดแต่งจานมาสไตล์ยุโรป ซอสต้มยำผมรู้สึกว่ามันยังรสชาติไม่ค่อยต้มยำสักเท่าไร รู้สึกว่าเป็นประมาณผงพริก, ผงเครื่องแกงอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่ว่าตัวปลากะพงแดงก็สดดีครับ และตัว side dish, garnish ที่ให้มาด้วยกันก็อร่อยดี
กล้วยบวชชี (A twist on classic sweet banana coated in coconut milk served in a crispy sesame cannelloni - 150 บาท) : จานนี้ไอเดียบรรเจิดสุด ๆ เป็นการนำเอากล้วยไปคลุกกับกะทิแล้วก็เอาไปทอดมาแบบปอเปี๊ยะ คือถ้าไม่ตั้งชื่อว่ากล้วยบวชชี ผมว่ามันก็พอโอเคอยู่ อร่อยพี แต่พอตั้งชื่อมาว่ากล้วยบวชชีแล้วพอเห็นหน้าตาแบบนี้ และไม่ได้ตัวน้ำกะทิ, ตัวกล้วยแบบสะใจ ๆ หน่อยก็เลยแบบแอบผิดคาดไปเหมือนกันครับ
สรุป ร้าน The Myth of Mahanaga ร้านอาหารไทยแนว Modern แห่งนี้ก็เป็นอะไรที่ทางร้านทำร้านมาได้ตรงตาม concept ดีมากเลย บรรยากาศร้านลี้ลับน่าพิศวง, อาหารแต่ละจานก็ทำหน้าตาออกมาได้แบบแปลกใหม่ น่าค้นหา เหมือนการกินคือการเปิดอ่านเทพนิยายอะไรแบบนั้น เพราะเราไม่รู้จะเจออะไรแบบไหน ใครกำลังมองหาร้านสวย ๆ เก๋ ๆ อาหารแนว ๆ เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะ ใจกลางกรุงเทพแล้วล่ะก็ มาพิศวงกันไปกับบเทพนิยายแห่งมหานครร้านนี้กันมั้ยล่ะครับ?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment