Tuesday, August 13, 2013

Teien Sushi Bar - Piman 49 Review

Teien Sushi Bar - Sushi Bar & Japanese Restaurant at Piman 49, Sukhumvit 49, Bangkok




Overall Score  7.5/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3.5/5

Teien Sushi Bar - Sushi Bar & Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ใครบ้างครับที่คิดว่าร้าน Sushi Bar หรือร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเน้นซูชิในกรุงเทพเราถึงจุดอิ่มตัวกันแล้ว? ผมคนนึงล่ะที่มีความคิดนี้มาสักพักนึงแล้ว แต่ความคิดนี้ก็ถูกทำลายลงเรื่อยมาจากร้าน Sushi ที่ค่อย ๆ ทยอยกันเปิดตัวขึ้นมาตามทำเลต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกว่าร้าน Sushi นั้นหาง่ายกว่าร้านอาหารแนวอื่น ๆ ไปแล้วก็คงจะไม่ผิดนักนะเนี่ย ในรีวิวนี้เราก็จะไปกันที่ร้าน Teien Sushi ร้าน ซูชิน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน ร้านนี้ก็เป็นร้าน Sushi ขนาดกลาง ๆ ค่อนไปทางเล็กที่ตั้งอยู่ที่พิมาน 49 - community มีระดับแห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 49 (จริง ๆ ก็ไม่ใหม่มากหรอกครับเปิดมาจะปีนึงล่ะที่นี่) ตัวร้านนั้นถ้าขับรถผ่าน หรือเดินผ่านอาจจะหายากสักหน่อยเนื่องจากว่าร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก ๆ นึงในเวิ้งนี้ โดยการจะขึ้นไปร้านก็ต้องอาศัยลิฟท์ด้านหลังตึกขึ้นไป (หรือไม่ก็เดินขึ้นบันไดไป) อารมณ์คล้าย ๆ ร้าน Mugendai อะไรแบบนั้นล่ะครับ

ชื่อร้าน Teien Sushi นั้นแปลว่าสวนไผ่ ทางร้านก็เลยเน้นการตกแต่งตัวร้านด้วยไม้ให้ดูคล้าย ๆ เหมือนเป็นสวนไผ่ย่อม ๆ ทั้งโต๊ะ, เก้าอี้, ผนัง อะไรต่าง ๆ ล้วนทำจากไม้หมดเลย ก็บรรยากาศร้านอาจจะไม่ได้โดดเด่นแตกต่างจากร้านญี่ปุ่นระดับกึ่ง ๆ premium แบบนี้มากนัก คือมี ครัวเย็นขนาดใหญ่อยู่กลางร้าน และก็ห้อมล้อมเป็นรูปเกือกม้าไปด้วยโต๊ะอาหาร แต่ที่เด่นหน่อยก็คงจะเป็นตัวที่นั่งริมหน้าต่างของทางร้านที่เราสามารถมองวิวสวย ๆ ของพิมาน 49 กับซอยสุขุมวิท 49 ได้นี่แหละครับ ที่แตกต่างจากร้าน Sushi อื่น ๆ ที่มักจะอยู่ชั้น ground กัน






ร้าน Teien Sushi แห่งนี้นำปลาเข้าสัปดาห์ละสามวันคือ วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ ซึ่งเมื่อนับว่าเป็นร้านขนาดกลาง ๆ ที่ยอดขายยังไม่สูงเท่าร้านใหญ่ ๆ แล้ว การนำปลาเข้า 3 วันต่อสัปดาห์นี่ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุส่วนนึงของเรื่องนี้ก็เป็น เพราะว่าหุ้นส่วน 4 คนของร้านนี้ค่อนข้างพิถีพิถันกับตัวคุณภาพอาหารและวัตถุดิบมาก บวกกับตัวเชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์ของทางร้านเองก็ค่อนข้างจะใส่ใจในอาหารทุกจานที่ผ่านปลายนิ้วของเขา ผลลัพธ์ก็คือทางร้านเลยต้องใส่ใจในคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลย ตั้งแต่ การเลือก supplier, การเลือกชนิดของเนื้อ ชนิดของปลา (ทางร้าน Teien Sushi นี้จะใช้เนื้อ Premium ที่แตกต่างจากที่อื่นคือจะใช้เนื้อ Omi ซึ่งเป็นเนื้อวัวที่ได้รับรางวัลชนะเลิศที่ญี่ปุ่นมา 3 ปีซ้อนแล้ว โดยจะแตกต่างจากเนื้อ Premium ของเมืองอื่น ๆ คือวัวเมืองนี้จะเป็นการเลี้ยงแบบ free ranch หรือปล่อยให้เดินเป็นอิสระนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีผลการวิจัยออกมารับรองหลายงานแล้วว่าวัวที่เลี้ยงแบบนี้ ความเครียดจะน้อยกว่า และเนื้อก็จะอร่อยกว่า ถ้าวัวมีสายพันธุ์เดียวกัน เลี้ยง, นวด หรืออะไรอย่างอื่นเหมือน ๆ กันอะไรงี้) และการนำเอาวัตถุดิบมาแปลงเป็นอาหารสูตรเฉพาะของทางร้านโดยเน้นไปที่การทำให้ของราคาประหยัดนั้นมารวมร่างกันแล้วอร่อยยิ่งขึ้น เคียงคู่กันไปกับของราคาแพง ของ premium ที่พยายามนำเสนอตัววัตถุดิบที่อร่อยโดยตัวมันเองอยู่แล้ว อะไรแบบนี้

เมนูของร้าน Teien Sushi นี้อาจจะยังไม่ค่อยลงตัวนักเพราะว่าร้านเพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 2-3 เดือนแค่นั้น แต่วันที่ผมไป เมนูของร้านก็มีค่อนข้างเยอะแล้ว มีครบแทบจะทุกหมวดหมู่ที่ร้าน Sushi Bar เล็ก ๆ ควรจะมี คือ Sushi, Sashimi, Roll อาหารจากครัวร้อนเล็กน้อย อะไรแบบนี้ ราคาอาหารของร้านนี้ก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันกับร้าน Sushi อื่น ๆ ล่ะครับ ทางร้าน positioning ตัวเองไว้เป็นร้านระดับเกือบ ๆ premium ซึ่งจากที่ผมกะ ๆ เอาเองก็คือประมาณระดับร้าน Sankyodai, Shori Sushi, Seiryu Sushi อะไรพวกนี้ก็คงจะไม่ผิดนักล่ะครับ

อาหารในมื้อนี้มีทั้งหมด 5 + 1 อย่าง ก็ไล่เรียงกันไปเลยละกันนะครับ

Premium Aburi Set - 1,190 บาท : ใน set ก็ประกอบไปด้วย Hotate , Engawa , Hamachi, Otoro, Foie Gras , Madai, Tamago และ Omi Beef ตอนแรกที่ไม่รู้ราคา set นี้ก็คิดเอาไว้ว่าน่าจะราคาประมาณ 2,000 บาทเพราะมีเนื้อแพง ๆ อยู่ใน set เยอะเหมือนกันแต่แบบพอเห็นราคาแล้วก็แอบคุ้มเหมือนกันนะครับ set นี้ ซูชิทุกชิ้นใน set นี้อร่อยหมดไม่มีปัญหา ที่ผมว่าโดดเด่นเหนือคนอื่นสำหรับ  Sushi ร้านนี้ก็คงเป็นเรื่องการปั้นซูชิที่ได้สัดส่วน ข้าว : เนื้อปลา ค่อนข้างสมดุลตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ปัจจุบันมักจะไม่ค่อยเจอกับ Sushi Bar ในประเทศไทยสักเท่าไรแล้ว set นี้กินแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจ, พิถีพิถันเหนือกว่าร้าน Sushi หลาย ๆ ร้านที่กินมาช่วงหลังจริง ๆ ครับ (สีดำ ๆ ที่ใส่มาบน Hotate, Madai นั่นไม่ใช่ Caviar เหมือนที่หลาย ๆ ร้านมักจะใส่กันมาซึ่งผมว่ามันไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไร แต่ของร้าน Teien Sushi นี้เค้าใช้สาหร่ายญี่ปุ่นอะไรสักอย่างโปะมาแทน เพิ่มความมัน ความหนึบขึ้นต่อ Sushi แต่ละคำ)







Engawa Sakura Butera (ข้าวอัดเอ็นกาวะ - 450 บาท) : จานนี้เป็น Signature Dish ของทางร้านเลย และจากหน้าตาแล้วผมว่าก็ไม่น่าแปลกที่ทางร้านจะ proudly present ทางร้าน Teien Sushi ให้มาทั้งหมด 8 ชิ้นก็เฉลี่ยชิ้นละแค่ประมาณ 60 บาทแค่นั้น (นับว่าค่อนข้างถูกเพราะ Engawa ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่คำละ 100 บาทโดยประมาณ) ตัว Engawa ก็ไม่ได้อะไรมากครับ อร่อยได้มาตรฐานเดียวกันกับร้านอื่น ๆ ที่เจ๋งก็คือตัวข้าวด้านล่างที่เป็นแบบ 2 แบบ ข้าวคลุกกับซากุระอย่างนึง (เป็นสีชมพู) และก็ข้าวคลุกกับสาหร่ายสีม่วง ๆ ที่ทำให้รสชาติข้าวมันจะเค็ม ๆ หวาน ๆ หอม ๆ หน่อย และด้านบนท็อปด้วยโชยุเจลลี่ ทำให้รสชาติออกมากลมกล่อมลงตัวมาก แบบไม่ต้องจิ้มโชยุเพิ่มเลย

Selection of 3 Sashimi (ปลาดิบรวม 3 อย่าง - 400 บาท) : จานนี้ก็คุ้มอีกแล้วครับ เห็นหลายร้านจะมีปลาดิบรวม 3 อย่างนี่ขายกันและก็จะตั้งราคาเริ่มกันที่แพงกว่านี้ (บางร้านตั้ง 800 บาทเลยมั้ง ฮ่า ๆ) จานนี้ Salmon กับ Hamachi อร่อยค่อนข้างมากเลยล่ะครับ ส่วน Akami นั้นผมกับเพื่อนตัวอ้วนคิดว่ายังค่อนข้างธรรมดาไปนิดนึง กินแล้วยังไม่ได้มีความเนียน อร่อยเปล่งออกมาเหมือนกับ Akami ที่ผมเคยทานมาตามร้าน Premium กว่านี้ แต่ก็ถือว่าใช้ได้แหละครับ อืม (อ้อ จานนี้ตกแต่งสวยงามมากครับ มีเอาจานไปวางบนถาดที่โรยหินมา คล้าย ๆ พื้นกรวดของวัดที่ญี่ปุ่นอะไรงั้นเลย)






Botan Ebi Foie Gras (กุ้งโบตัน-ตับห่าน - 340 บาท) : จานนี้โดดเด่นที่การนำเสนอครับ ไม่ได้เป็นการแค่เอากุ้งโบตันมาวาง ๆ บนจานแบบธรรมดา ๆ ตัวกุ้งโบตันนั้นขนาดใหญ่ได้มาตรฐาน เนื้อสด ๆ นุ่ม ๆ ไม่เด้งเหมือนกุ้งชนิดอื่นตามประสากุ้งชนิดนี้และเพิ่มความมันเข้าไปด้วย foie gras ขนาดกำลังดีที่ sear (ไม่น่าจะทอดนะ) มากึ่งสุกกึ่งดิบพอดี จานนี้สามารถกินหัวกุ้งได้ด้วย เพราะทางร้านมีการเอาหัวกุ้งไปยัดไส้ด้วยข้าว แล้วก็ทอดมากรอบมาก ทำให้กินได้ทั้งหัวเลย อร่อยดีครับ

Spider Roll (โรลปูนิ่ม 320 บาท) : จานนี้โดดเด่นที่ความสวยงาม หน้าตามานี่แบบโดดเด่นกว่า Spider Roll ของที่ไหน ๆ เลยจริง ๆ และก็แปลกกว่าที่อื่นหน่อยตรงที่เหมือนจะไม่ได้เน้นปูนิ่มมากนัก เน้นที่ตัวข้าวปั้นซะมากกว่า แต่ตัวปูนิ่มก็ทอดมาได้ดี มีใส่เนื้อส้มเป็นกลีบมาด้วย เวลาทานคู่กันแล้วจะฉ่ำส้ม หอม สดชื่น ป้ายซอสรสชาติกลมกล่อมบนจานอีกสักหน่อย อร่อยไปอีกแบบครับ








มืื้อนี้ปิดท้ายด้วยของหวานพิเศษจากทางร้านที่เป็นการผสมรวมปนเปกันระหว่าง ไอศครีมชาเขียว + ถั่วแดง + โมจิย่าง + ดังโงะ + วาราบิโมจิ (Matcha ice cream + Azuki + Moji + Dango + Warabi Moji) จานนี้อร่อยครับ ไอศครีมชาเขียวนั้นเป็นของ Haagen Dazs อร่อยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว , โมจิเหนียวนุ่มหวานกำลังดีอร่อย , ถั่วแดงไม่ได้หวานจ๋าเหมือนบางร้าน ออกเค็มนิด ๆ ด้วย ซึ่งเป็นความตั้งใจของทางร้านที่อยากให้ตัดกับความหวานของไอศครีม แต่ผมชอบนะแบบนี้เพราะส่วนใหญ่จะเจอถั่วแดงแบบหวานแสบไส้ทั้งนั้นเลย โมจิชาเขียวก็อร่อยดี หนึบ ๆ ดี

สรุป ร้าน Teien Sushi นี่เป็นร้าน Sushi น้องใหม่ที่ผมว่าทำได้ค่อนข้างดีมากเลยนะ องค์ประกอบโดยรวมนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด แต่ที่ผมว่าโดดเด่นเหนือร้านอื่น ๆ ก็คงเป็น เรื่องความคุ้มค่า และไอเดียการสร้างสรรค์อาหารให้แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองนี่แหละครับ เห็นทางร้านบอกว่าเมนูแบบสมบูรณ์จะแล้วเสร็จประมาณเดือนนี้ (กรกฎาคม) เดือนหน้านี่แหละ ไว้คงต้องไปรอกันอีกสักรอบล่ะครับ ถ้าอาหารเค้าจะบรรเจิดขนาดนี้ ตามนั้น

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment