All Six to Twelve - Thai Fusion Cafe & Restaurant at Fraser Place Lungsuan Bangkok
ออล ซิกซ์ ทู ทเวลฟ์ ร้านอาหารไทย ฟิวชั่น อาหารเช้า หลังสวน
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4/5
Value 4.5/5
All six to twleves - Thai Fusion Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
สองข้างทางซอยหลังสวนนั้นก็เรียงรายไปด้วยร้านอาหารสวย ๆ เก๋ ๆ มากมาย ร้าน All Six to Twelve ในรีวิวนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านเก๋ ๆ แนว ๆ แบบที่ว่าด้วย concept การตกแต่งร้านเป็นแนว New York Loft หรือบรรยากาศเหมือนกับร้านอาหารฝรั่งเก๋ ๆ ที่อเมริกา และด้วยพันธกิจที่ต้องการจะเป็น cafe & social bar ที่เจาะกลุ่มทุกวัย ร้านนี้จึงมีโต๊ะและที่นั่งที่ค่อนข้างหลากหลาย พร้อมอาหารแบบ Modern Thai ระคนกับอาหารฝรั่ง กันไป คือทุกอย่างของร้านนี้วาง concept มาดีมากจริง ๆ ตั้งแต่แว่บแรกที่เดินเข้าร้าน, ดูเมนู, ดูบรรยากาศ และอะไรต่าง ๆ
ร้าน All Six to Twelve แห่งนี้ตั้งอยู่ที่โรงแรมและ service residence นามว่า Fraser Place Lungsuan ชื่อร้านนี้ตอนแรกผมนึกว่าหมายถึง "ทั้งหมด หกโมงเย็น ถึง เที่ยงคืน" แต่จริง ๆ แล้วชื่อร้านนี้ความหมายจริง ๆ คือ "ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคน ตั้งแต่ หกโมงเช้า ยัน เที่ยงคืน" โดยในมื้อเช้าทางร้านจะประพฤติตัวเองเป็นห้องอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกของทางโรงแรม โดยจะเป็น buffet breakfast หัวละ 280 บาท ++ โดยแขกทั่วไปสามารถมารับประทานเคียงคู่กันไปกับแขกของโรงแรมได้เลย พอจบมื้อเช้าแล้ว อาหารของที่นี่ก็จะปรับเปลี่ยนกลายเป็น Modern Thai หรือ Thai Fusion และขายไปตลอดทั้งวันยันเที่ยงคืนเลย
เครื่องดื่มและอาหารของร้าน all Six To Twelve - หลังสวน แห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้งตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ทางร้านเปิดทำการมา เมนูในปัจจุบันนี้ทางเจ้าของร้านบอกว่าเป็นเมนูที่ลงตัวมาก ๆ แล้ว ซึ่งพวกผมดูกันแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ อาหารมีให้เลือกหลายสิบชนิด แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ อย่างลงตัว สามารถสั่งมากินได้ทั้งแบบจัดหนัก และแบบเบา ๆ สบายท้อง ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกครบครัน ตั้งแต่เครื่องดื่มแบบเบา ๆ ไว้กินยามเช้าหรือยามสาย ที่ทางร้านจะแบ่งหมวดหมู่ไว้ตามเวลา เช่น six to start ก็จะเป็น cocktail เบา ๆ หน่อย, drink to twelve ก็จะหนัก ๆ ขึ้นมา มีหมวด burn out หรือเอาไว้ตบท้ายอีก และก็ยังมีพวก party drinks ไว้จัดหนักกันแบบยกแก๊งอีกด้วย คือแบบเครื่องดื่มของเค้านั้นเยอะ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตัวอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว
รีวิวนี้ขอไปจับที่ตัวอาหารก่อนละกัน เพราะว่าได้รับอาหารก่อน แล้วถึงได้เครื่องดื่มภายหลัง ซึ่งผมรู้สึกโชคดีที่เป็นแบบนั้นมาก ๆ เพราะว่าถ้าได้เครื่องดื่มก่อนนี่ เผลอ ๆ จะจำความเอาไม่ได้ว่ารสชาติอาหารแต่ละจานเป็นยังไง
อาหารในมื้อนี้
แคบหมูพะโล้แห้ง (Chinese herbs crispy pork - crispy pork belly with Chinese herb glazing - 130 บาท) : เป็นของว่างที่แปลกแหวกแนวดีมาก ไม่เคยเห็นหรือกินที่ร้านไหนมาก่อน เป็นการนำแคบหมูที่แห้ง ๆ ไปคลุกกับซอสพะโล้เล็กน้อยให้มันเคลือบอยู่ที่ผิว และก็มีรสชาติมากกว่าแคบหมูปกติ ประมาณนั้น
เสต็กไก่สมุนไพร (Herb chicken steak - Steamed and fried Chinese herbs chicken with blueberry gravy sauce and mixed salad - 180 บาท) : จานนี้จะคล้าย ๆ duck confit แต่จะแตกต่างกันตรงที่ใช้สะโพกไก่แทน แต่อย่างอื่นนั้นค่อนข้างจะคล้ายกันหมด ไม่ว่าจะตัว ผักเครื่องเคียง การทอดไก่มาจนกรอบ แห้ง แต่ว่าเนื้อภายในนั้นยัง juicy ยังฉ่ำ ยังอร่อยอยู่ ทางร้านให้ตัวน้ำซอส blueberry gravy มาให้ราดกินกับเนื้อไก่ด้วย ซึ่งก็เป็นอะไรที่แปลกดีครับ ซอสจะหวาน ๆ หน่อย มาตัดกับความเค็มของหนังไก่ได้เป็นอย่างดี
สเปาเก็ตตี้เส้นดำสแกลลอป (US Scallops black ink Kee Mao spaghetti - Black ink spaghetti with US scallops, garlic, chili and plenty of herbs and spice - 230 บาท) : เป็นสปาเก็ตตี้ที่เห็นแว่บแรกแล้วแอบทึ่งในขนาดหอยเชลล์ที่ใหญ่โตอลังการมากครับ (ซึ่งก็เนื้อนุ่ม สด อร่อยดี สมกับเป็น US scallop) ส่วนตัวเส้นและการผัดและภาพรวมของพาสต้าก็ดีเช่นกัน จะมาแบบผัดแห้งหน่อยแต่ก็ไม่แห้งมาก จะมีรสเผ็ดจากพริก และกลิ่นจากกระเทียมในแต่ละคำที่กิน
Seafood on the rock (Hot & spicy tiger prawn, US scallop, squid NZ mussel, served with salad - 260 บาท) : จานนี้ก็เป็นอารมณ์ประมาณพวก seafood นำไปย่างและก็เสิร์ฟมาบนผักสลัด เต็ม ๆ จาน จานนี้ถ้าวัตถุดิบไม่ได้ดีก็คงจะจบกันตั้งแต่คำแรกที่กินแล้ว แต่เนื่องจากจานนี้ใช้วัตถุดิบดีมากสัตว์ทะเลแต่ละประเภทนี่ชิ้นใหญ่ และก็เนื้อสดดีมาก คือทุกอย่างอร่อยหมดเลย
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ใส่มันกุ้ง (Stir-fried squid with onion and salted egg served with rice vermicelli - 110 บาท) : จานนี้ก็เป็นการนำเสนอแหวกแนวดีครับ แทนที่จะเป็นปลาหมึกผัดไข่เค็มมาแบบเป็นจาน ๆ แต่ที่นี่เอาใส่ถ้วยมาและให้เส้นหมี่มาทานคู่กันด้วย จานนี้ก็อร่อยเช่นกันครับ ตัวปลาหมึกนั้นจะตัวเล็กกว่าจาน seafood on the rock หน่อย แต่ความสด ความเด้งนั้นไม่หนีกัน ส่วนตัวซอสไข่เค็มที่ผัดมาก็กลมกล่อมกำลังดี มีความมันที่แตกต่างจากที่อื่นเล็กน้อยจากมันกุ้งที่ใส่ลงไปเพิ่มเติมอีกด้วย
เกี๊ยวกุ้งซุปใส (Prawn wonton, served with double Thai consomme soup - 140 บาท) เกี๊ยวน้ำใส่กุ้ง + ฟัวกราส์ : จานนี้มาแนวอีกแล้วครับ จะเป็นเกี๊ยวกุ้งที่ใส่ foie gras มาเล็กน้อยแบบแห้ง ๆ ให้เรามาเติมน้ำกันเอาเอง เหมือนอารมณ์ประมาณรินน้ำชาอะไรงั้น ซึ่งพอผมรินชาเสร็จกินเข้าไปคำแรก อืม ก็อร่อยดี แต่ยังไม่เท่าไร เพราะน้ำยังไม่ได้พาความร้อนเข้าไปในตัวเกี๊ยวนัก แต่พอปล่อย ๆ ไปสักพักนึงแล้วกินใหม่ คำที่สองอร่อยกว่าคำแรกมากครับ เกี๊ยวแม้ว่าจะไม่ได้ชิ้นใหญ่ แต่ความแน่นจากเนื้อกุ้ง ความมันจาก foie gras ทำให้จานนี้ เป็นเกี๊ยวที่อร่อยดีจานนึงเลย
เฉาก๊วยเก๊กฮวยเย็น (Ice Chinese black jelly - served with chrysanthemum tea - 70 บาท) : เฉาก๊วยที่ทำได้ดีกว่ามาตรฐานเล็กน้อย เส้นเฉาก๊วยเด้งดึ๋ง ตัวน้ำเก๊กฮวยก็หวานกำลังดี และหอมมาก ส่วนน้ำแข็งก็มาแบบเป็นน้ำแข็งที่แทบจะเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วเลยทำให้กินง่าย และอร่อยกว่าพวกน้ำแข็งฝอยพอสมควร
Old school ice cream (Coconut milk ice-cream with sweet sticky rice, jackfruit served in soft roll - 95 บาท) : เป็นไอศครีมที่ต้องการให้เรารำลึกถึงวัยเด็กที่จะกินไอศครีมกะทิสดกับขนมปังจากร้านรถเข็นริมถนนอะไรแนวนั้น แต่อันนี้มาในรูปแบบที่ดูดีกว่า และมาด้วยไอศครีมกะทิสดที่เข้มข้นมาก ๆ อร่อยดีมาก ส่วนขนมปังก็จะนุ่ม ๆ หน่อย ก็กินเข้าคู่กันได้ลงตัวดีครับ
หมวดเครื่องดื่ม - เครื่องดื่มในมื้อนี้อาจจะมีเยอะสักนิดนึงนะครับ เพราะว่ารายการเครื่องดื่มของร้านนี้เค้าเยอะจริง ๆ และทางร้านเองก็ต้องการให้ตัวเองเป็น Social Bar ในย่านหลังสวนนี้ด้วยก็เลยแบบมีให้เลือกเยอะขนาดนี้
Yakuza shot (sake jelly + asahi) (Asahi, sake, gelatin shot - 140 บาท) : กินแล้วมีทั้ง texture ดุ่ย ๆ จาก เจลลี่, ความซ่าจากเบียร์ และความหอมจากสาเก ผสมผสานกันมาเป็นช็อตสำหรับยากูซ่าได้ตามชื่อจริง ๆ
Cherry sour (150 บาท) : เป็น mocktail ที่หน้าตาและรสชาติเหมาะกับผู้หญิงมาก ๆแก้วนึง รสชาติจากหวาน ๆ เปรี้ยว ระคนกันไปอย่างลงตัว
Twelve Ice Tea (gin, rum, vodka tequila, sour mix, strawberry syrup, sprite - 280 บาท) : แก้วนี้ไม่ค่อยแรงสักเท่าไร จะออกแนวหวาน ๆ หอม ๆ ซะมากกว่าด้วย อร่อยดีเช่นกัน
Honey fizz (Vanilla vodka, lemon, honey, sour mix - 280 บาท) : เปรี้ยว หวาน แรง คือ นิยามของแก้วนี้ครับ
Mudslide (vodka, kahlua, bailey's - 280 บาท) : แก้วนี้ชื่อแก้วนั้นแปลว่าดินถล่ม : แก้วนี้ดูเผิน ๆ ก็จะเหมือนเป็นดิน, เป็นโคลน แทรกตัวลงมาตามน้ำแข็งจากตัว Kahlua ครับ ก็คน ๆ สักหน่อยให้มันกระจายทั่วกันแล้วก็ดื่มเข้าไปก็อร่อยดีครับ เน้นหวาน ๆ นิด ๆ แต่ก็มีความแรงของ vodka ผสมอยู่
Bad dog (gin, rum, vodka, tequila, grand marnier, sour mix, grenadine r&b - 280 บาท) : แก้วนี้ทางร้านต้องการให้เราดูดเข้าไปรวดเดียวจนหมดแก้วแล้วก็จะได้เอียง ๆ เซ ๆ เป็นสุนัขกันไปเลย ประมาณว่ากินแก้วเดียวแล้วอารมณ์ขึ้นได้เลยอะไรงั้น โชคดีครับที่ผมกับเพื่อนตัวอ้วนแบ่งกันคนละครึ่งแก้ว ก็เลยยังไม่ถึงกับขึ้นอะไรมาก แต่ก็เอียง ๆ เซ ๆ นิดนึง แก้วนี้ แรงสะใจ สีสันสวยงามดีมาก
Party Drinks - Domini 4 glass - 1,400 บาท เป็น signature drink ของทางร้านเลยครับโดยก่อนกินจะมีการนำแก้ว shot ที่จะใส่เหล้า Jager (เหล้าที่หนังเรื่อง Hangover ดื่มกินแล้วแฮงค์ จนเกิดเรื่องนั่นแหละครับ) มาวางบนขอบแก้วของ Prosecco แล้วพอจะกินก็จะตบแก้วให้ล้มลงเป็น Domino เกิดเป็น Prosecco Bomb นั่นเอง แก้วนี้ แรง อลังการ สะใจมากครับ ถ้ายิ่งสั่งกันเป็นแถวยาว ๆ ตบเสร็จกระดกต่อนี่คง มันส์กันมาก ๆ เลยล่ะ
สรุป ร้าน all Six to Twelve - ร้าน Social Bar ที่ positioning ตัวเองได้ตรง concept มาก ๆ แห่งนี้ ก็น่าจะเป็นร้านที่คนที่ทำงานอยู่แถวหลังสวน, เพลินจิต แห่งนี้คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะว่าดูลูกค้าจะแน่นขนัดตลอดเวลาเลย แต่ถ้าใครยังไม่เคยมาร้านนี้ แต่อยากจะหาอาหารไทย ฟิวชั่น สวย ๆ เก๋ ๆ ราคาไม่แพง กินเคล้ากันไปกับเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหลากหลายชนิดในบรรยากาศแบบ New York แล้วล่ะก็ มาจัดร้านนี้กันได้เลย ร้านนี้เค้าต้อนรับทุกเพศทุกวัย และต้อนรับกัน 18 ชั่วโมงต่อวันเลยล่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment