Saturday, July 20, 2013

Palm Cuisine - Thonglor 16 Review

Palm Cuisine - Thai Restaurant at Thonglor 16, Bangkok

ปาล์ม คูซีน - ร้านอาหารไทย ทองหล่อซอย 16





Overall Score  10/10
Taste   5/5
Ambiance  4/5
Service  5/5
Value   4/5

Palm Cuisine - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and information)



ผมรู้สึกว่าอาหารไทยแบบแท้ ๆ ในปัจจุบันนั้นเริ่มจะหากยากขึ้นทุกทีล่ะ พวกร้านน้องใหม่ทั้งหลายแหล่ ตอนนี้ก็มักจะพุ่งเป้าไปที่อาหารไทยแบบ Modern สมัยใหม่ หรืออาหารไทย Fusion กับญี่ปุ่นหรือตะวันตก อะไรก็ว่าไป ร้านอาหารไทยแท้ ๆ นั้นกลับกลายเป็นมีแต่ร้านบ้าน ๆ ร้านห้องแถว ร้านชานเมืองไปซะหมด ไม่รู้เพราะกลัวกันว่าจะทำอาหารไทยให้อร่อย ๆ จนคนยอมที่จะถ่อออกมากินนอกบ้านไม่ได้ หรือเพราะว่าอาหารไทยมัน Margin น้อยขายได้ไม่แพง ถ้าขายแพงก็ไม่มีคนกิน ไม่เหมือนอาหารญี่ปุ่น หรือาอาหารตะวันตกที่ตั้งราคากันจานละหลายพันได้สบาย ๆ หรือเพราะว่าทางเจ้าของร้านเบื่ออาหารไทยกันแล้ว ถ้าอยากจะมีร้านอาหารของตัวเองสักร้านนึงก็ขอเป็นอาหารต่างชาติดีกว่า อะไรประมาณนี้ แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม วันนี้ผมรู้สึกดีใจมากครับที่ได้เจอร้านอาหารไทยเทพ ๆ ร้านนึงที่องค์ประกอบทุกด้านนั้นผมและเพื่อน 2 คนให้คะแนนเต็มกันหมดเลยทีเดียว กับร้าน Palm Cuisine - ในซอยทองหล่อ 16 แห่งนี้นี่เอง

ร้าน Palm Cuisine (ชื่อร้านมาจาก Palm ที่แปลว่าฝ่ามือ เพราะเป็นร้านนวด, ร้าน Spa และก็มีการเอาต้น Palm  มาตกแต่งร้านด้วยเพิ่มเติมในภายหลัง) แห่งนี้แต่เดิมเป็นร้าน Spa มาก่อน แต่เนื่องด้วย คุณติ๋ว - เย็นจิตร (ไม่แน่ใจเขียนชื่อถูกรึเปล่า) นั้นเป็นคนชอบทำอาหารไทยอยู่แล้ว เวลาแขกมาใช้บริการ Spa เสร็จก็จะมีอาหารให้สั่งกินกันเพิ่มเติมด้วย แต่ไป ๆ มา ๆ ขายดี ลูกค้าติดอกติดใจก็เลย ทำส่วน Cuisine หรือส่วนร้านอาหารขึ้นมาอย่างจริงจังเลยดีกว่า ทำให้เมื่อ 3 ปีก่อนร้าน Palm Cuisine ร้านอาหารไทย ขนาดเล็กที่ใช้พื้นที่ 2 ส่วน 2 ปีกของตึกมาแปลงเป็นร้านอาหาร แห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยประการฉะนี้แล






ร้าน Palm Cuisine แห่งนี้ก็เป็นร้านอาหารไทยขนานแท้ ๆ ให้บริการอาหารไทยแบบยุคเก่าหน่อย หรืออาหารไทยชาววังนั่นเอง ไม่มีการ Fusion ไม่มีการทำออกมาเป็นอาหารไทยแบบที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบันนี้ แต่แบบจะมีการจัดแต่งจานออกมาให้สวย ๆ หน่อย ให้ดูน่ากิน ดูหรูขึ้นมา โดยอาหารก็จะมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะสักเท่าไร เพราะเหมือนว่าแต่ละเมนู แต่ละจานนั้นจะเป็นจานที่ทางคุณติ๋วถนัด และมั่นใจเท่านั้นถึงจะนำมาใส่ในเมนู แม้ว่าราคาอาหารอาจจะค่อนข้างสูงสักหน่อยเมื่อเทียบกับภัตตาคารอาหารไทยร้านอื่น ๆ แต่ว่าถ้ากับร้านอาหารไทยในย่านทองหล่อ หรือ ว่าร้านอาหารต่างชาติในย่านนี้แล้วราคาอาหารของร้านนี้ก็ไม่ได้แพงแต่อย่างใดเลยครับ ก็มาไล่เรียงอาหารของร้านนี้กันไปทีละอย่างเลยละกันนะครับ

ถุงเพชรถุงพลอย (Toong Phetch Toong Ploy) : อันนี้ก็เป็นของกินเล่นสไตล์ไทย ๆ ที่ทำได้ค่อนข้างยาก ทางร้านนำเอาแป้งฟิโล มาห่อไส้หมูสับ และก็พัน ๆ ออกมาเป็นถุงแป้งสวยงาม จานนี้รสชาติอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากครับ อารมณ์มาตรฐานของกินเล่นแบบไทย ๆ แต่โดดเด่นที่การทอดทำมาได้ดีมาก กรอบไม่อมน้ำมัน ทานเล่นเพลินดีนักแล






ปลากะพงทอดน้ำปลา (Fried snapper seasoned with fish sauce (480 บาท) (อีกหนึ่งเมนูที่คนชอบปลาต้องสั่ง ปลาสด ๆ ทอดกรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานกำลังดี : อาหารจานปลาที่ค่อนข้างมาตรฐาน พบเจอได้ในแทบจะทุกร้านอาหารไทยในปัจจุบันนี้แล้ว แต่แบบร้าน Palm Cuisine ทำมาได้ลึกล้ำ เหนือกว่าแทบจะทุกร้านที่ผมเคยกินมาก็ว่าได้ (อาจจะมีร้านที่ทำได้ระดับนี้ก็น้อยมาก ๆ เท่าที่ผมนึกออกก็จะมีแค่ร้าน อบอร่อย - ถนน ศรีวรา แค่นั้น) เนื้อปลาทอดมาได้แบบ กรอบนอก นุ่มใน และเนื้อปลาก็สดอร่อย เนื้อเนียนสุด ๆ น้ำจิ้มก็รสชาติดี ให้มา 2 แบบ เป็นน้ำจิ้ม ซีฟู้ด กับ น้ำยำ , น้ำยำมะม่วง ประมาณนั้น ซึ่ง 2 น้ำจิ้มนี้ก็รสชาติดี ช่วยเพิ่มความอร่อยให้เนื้อปลาเข้าไปอีกและช่วยเพิ่มความหลากหลายของรสชาติด้วย จานนี้เยี่ยมจริง ๆ ครับ

เส้นหมี่กะทิ (Rice noodle with red curry sauce and coconut milk) : จานนี้เป็นอาหารที่ค่อนข้างแปลกหน่อย คือตัวเส้นนั้นผมรู้สึกว่าน่าจะเรียกว่าเส้นเล็กน่าจะเหมาะสมกว่า และก็เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำกะทิ ที่อารมณ์คล้าย ๆ น้ำยา ในขนมจีนน้ำยา เวลากินก็คือตักเส้นมาพอดีคำ ใส่ผักที่ให้มามากมายในจานลงไปกอง แล้วก็ราดน้ำยาลงไป บีบมะนาวลงไปอีกหน่อย จานนี้รสชาติแบบสุดยอดมาก กลมกล่อม ถ้าเอาน้ำยา, น้ำกะทินี่ไปเปิดขายในร้านขนมจีนอย่างเดียว รับรองกลายเป็นร้านขนมจีนชื่อดังได้อย่างไม่ยากเย็นเลย แต่นี่มาแบบแปลกหน่อยคือกินกับเส้นหมี่ (จริง ๆ เส้นเล็ก) ก็เลยช่วยเพิ่ม Texture ให้แปลกขึ้นไปอีกด้วย






แกงเขียวหวานเนื้อโคขุนพริกขี้หนู (Beef fillet green curry with hot green chili - 220 บาท) : จานนี้ก็ล้ำครับ เป็นแกงเขียวหวานแบบน้ำซุปเข้มข้นมาก ๆ ใส่กะทิมาเยอะ และก็มาแบบไม่หวานเลย ตัวเนื้อที่ให้มาก็เป็นเนื้ออย่างดี (น่าจะเป็นเนื้อสัน) ที่แบบชิ้นพอดีคำ นุ่ม อร่อย แต่ทีเด็ดจริง ๆ ก็คือน้ำแกงเขียวหวานนี่แหละครับ รสชาติมันแบบกลมกล่อม เผ็ดนำ เค็มนำ อร่อยแบบที่ผมไม่ได้กินแกงเขียวหวาน (หรือไม่เคยกินด้วยซ้ำ) แกงเขียวหวานอร่อย ๆ แบบนี้มานานแค่ไหนก็ไม่รู้แล้ว

เนื้อปูผัดไข่ต้นหอม (Grilled beef with spicy chili sauce and red curry sauce - 350 บาท) (เนื้อกรรเชียงปู สด ๆ ก้อนโต ผัดกับไข่และต้นหอมแบบง่าย ๆ แค่นี้ก็อร่อยสุดแล้ว) :  จานนี้ไม่แน่ใจว่าคุณติ๋วเป็นคนคิดเมนูเองรึเปล่า เพราะผมไม่เคยเจอที่ไหนเลย จานนี้อร่อยเทพอีกเช่นกันครับ รสจะมาแบบเบา ๆ กลมกล่อม ๆ เพื่อให้รสชาติเนื้อปูนั้นมันโดดเด่นขึ้นมา เพราะเนื้อปูที่ให้มานั้นแบบเป็นก้อน ๆ มาก ก้อนใหญ่สุด ๆ กินแล้วฟินสุด ๆ ส่วนถ้าใครไม่ชอบรสชาติแบบจืด ๆ แบบนี้ทางร้านก็มีพริกน้ำปลามาให้กินด้วย ก็กินสลับรสชาติกันไปมาได้ เพื่อนตัวอ้วนผมชอบกินกับพริกน้ำปลา ส่วนผมชอบกินแบบเปล่า ๆ แต่จะแบบไหนก็อร่อยหมดล่ะครับ






พล่ากุ้งแม่น้ำมะเขือยาว (Spicy prawn salad with lemongrass and grilled aubergine) : จานนี้โดดเด่นด้วยหน้าตา และตัวเครื่องที่ให้มา รสชาติของจานนี้อาจจะไม่ได้ผสมผสานกลมกลืนกันเป็นรสเดียวเหมือนจานอื่น ๆ แต่ความโดดเด่นของวัตถุดิบแต่ละชนิด ไม่ว่าจะตัวมะเขือยาวที่นุ่มอร่อย (แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก) , กุ้งแม่น้ำที่หวาน เนื้อนุ่ม สดอร่อย มันเยิ้ม ๆ , ไข่ต้มยางมะตูม นุ่ม ๆ ที่กินเปล่า ๆ ได้เลยไม่ต้องผสมกับอะไร และตัวเครื่องพล่าที่ใส่มาที่กินเปล่า ๆ ก็ได้ กินราดกับอย่างอื่นก็ได้ เป็นอีกหนึ่งจานที่เข้าใจคิด เข้าใจทำอย่างมากเลยครับ

มื้อนี้ยังไม่จบแค่นี้ครับ ทางร้าน Palm Cuisine ยังมีของหวานที่แสนจะโดดเด่นขายพ่วงด้วย โดยตัวของหวานที่ได้ชิมวันนี้อาจจะไม่ได้ไทยอะไรมาก แต่ก็อร่อยจนแม้ว่าจะเป็นของหวานต่างชาติก็ไม่กระดากอะไรที่จะมาอยู่ในร้านอาหารไทยร้านนี้เลยก็ว่าได้

เค้กมะตูม + ชามะตูม (Bale fruit cake - 85 บาท) : อันนี้แม่ช้อยนางรำ เขียนชมเอาไว้ว่าเป็นเค้กที่อร่อยมาก ๆ ตัวผมเองก็ค่อนข้างชอบแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เช่นเดียวกันกับเพื่อนผมและแฟนผมที่บอกว่า อร่อย เวลาทานทางร้านแนะนำให้ทานคู่กับชามะตูม รสเข้ากันดีจริงๆ แต่น่าจะเป็นเค้กที่เหมาะกับผู้สูงอายุสักนิดนึงมากกว่า ออกแนวสมุนไพร เพื่อสุขภาพอะไรทำนองนั้น





Banoffee Pie - 85 บาท : อร่อยมากครับอันนี้ น่าจะเป็นบานอฟฟี่ที่อร่อยที่สุดในชีวิตผมเลย ทุกอย่างผสมผสานกันมาแบบสุดยอดจริง ๆ ไม่ว่าจะความกรอบ crunchy ของผง orero ด้านล่าง ตัวกล้วย คาราเมล ช็อคโกแลต และครีมหอม ๆ ด้านบน อร่อยจริง ๆ

Strawberry Soft Cake : อันนี้ก็อร่อยล้ำครับ น่าจะเป็น Strawberry Soft Cake  ที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกินมาเช่นกัน (คืออาจจะฟังดูยิ่งใหญ่นะ แต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากหรอก เพราะผมไม่ค่อยได้กินเค้กนัก รวมถึงตัว Banoffee ด้วยก็ตาม ฮ่า ๆ) แต่เพื่อนตัวอ้วนของผม และแฟนผมก็บอกว่าอร่อยมาก และชอบกันมากเช่นกัน




ข้าวเหนียวมะม่วงใบเตย + ไอศครีมกะทิสด (Sticky rice with mango and coconut ice cream - 150 บาท) : ทางร้านมูนข้าวเหนียวเองเป็นกลิ่นใบเตยหอมๆ เวลาทานคู่กับมะม่วงและไอศครีมกะทิสดแล้วก็เข้ากันได้ดี จานนี้อร่อยมาตรฐาน

สรุป ร้าน Palm Cuisine ร้านอาหารไทย ในซอยทองหล่อ 16 แห่งนี้นี่ ผม, เพื่อนตัวอ้วน และแฟนผมชอบกันมาก ชอบกันจนถึงขนาดที่เพื่อนตัวอ้วนผมให้คะแนน  6 เต็ม 5 , แฟนผมเฟงแบบ ไม่ค่อยจะเห็นนางเป็นแบบนี้สักเท่าไร และตัวผมเองก็เฟง และจัดหนักจัดเต็มเหลือเกินเช่นกัน ดีใจครับที่ได้รู้จักร้านอาหารไทยดี ๆ เทพ ๆ แบบนี้เพิ่มขึ้นมาอีกร้านนึง เพราะเวลาเพื่อนชาวต่างชาติแนะนำ ผมก็จะได้มีอีกหนึ่งร้านที่สามารถแนะนำได้อย่างไม่กระดากปาก มีร้านที่สามารถไปกินได้เวลาที่อยากกินอาหารไทยดี ๆ สักมื้อ ครับ ตามนั้นเลย


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment