Friday, April 19, 2013

Seiniku Ten

Seiniku-ten Premium Yakiniku Buffet at Thonglor, Bangkok

เซนิคุ-เทน ร้านเนื้อย่าง บุฟเฟ่ต์ เนื้อนำเข้าญี่ปุ่น ทองหล่อ




Overall Score  7.5/10
Taste   3.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4.5/5

Seiniku-ten Yakiniku on BumRes.com (For more pictures and menu)



ร้านในรีวิวฉบับนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นร้านที่ทำเลอาจจะดูไม่ค่อยสอดคล้องกับอาหารและ concept ของทางร้านสักเท่าไร กับร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ ราคา ประมาณ 600 บาทที่ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อแบบนี้ ผมก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่าจะมีร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์แบบราคากลาง ๆ กล้าหาญชาญชัยมาเปิด ณ ย่านทองหล่อได้ เพราะแบบ ย่านนี้ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนมีอันจะกิน หรือไม่ก็ลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยกินเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์แบบกลาง ๆ ราคา 400 - 600 บาทแบบที่มีกันเกลื่อน ๆ อยู่ทั่วกรุงเทพอยู่แล้วล่ะ สังเกตว่าร้านเนื้อย่างบนทองหล่อนี้จะมีแต่ร้าน เนื้อย่าง a la carte premium ๆ ทั้งนั้น (ผมนึกไม่ออกเหมือนกันว่ามีร้านบุฟเฟ่ต์กลาง ๆ อยู่บนถนนทองหล่อนี้มั้ย ถ้าไม่นับ Nikuya ของเครือ Oishi?)

การที่ร้าน Seiniku - Ten นั้นแหวกแนว แหวกกระแส มาเปิด บนถนนทองหล่อแห่งนี้ได้ ก็แสดงว่าทางร้านก็น่าจะมีอะไรที่มั่นใจว่าน่าจะขายได้อยู่ ซึ่งจากที่ผมได้กิน ได้สัมผัสกับร้านนี้ก็พอจะบอกได้คร่าว ๆ คือ

1. พนักงานบริการดี บริการดีกว่าร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างราคาประมาณนี้ ส่วนใหญ่ในตลาดที่เคยเจอมาเลย ถ้าวัดเป็นคะแนน PR range ก็น่าจะสัก 80-90% ได้ (เขียนถูกป่าวหว่า คะแนนที่ใช้สมัย entrance น่ะครับ
2. บรรยากาศร้านทำได้เรียบหรู เป็นญี่ปุ่นดี มีการสร้างส่วนนั่งรอ, ส่วนดูดบุหรี่ด้านหน้าร้าน ไม่ได้แบบทำตัวพื้นที่ร้านจนเต็มไปจนถึงฟุตบาทแต่อย่างใด, โต๊ะก็จัดกันค่อนข้างห่าง, เตาก็ไม่ห่วง มา 5 คนก็ให้ 2 เตา หรือมา 3 คนผมก็เห็นลูกค้าขอ 2 เตาก็มีอยู่
3. ตัวราคาอาหารนั้นรวมครบทุกอย่างหมดแล้ว คือรวมน้ำ, รวมของหวาน และก็ยังสามารถนั่งได้ถึง 2 ชั่วโมงด้วยแน่ะ





ใช่ครับแค่ 3 ข้อนี้ ผมก็รู้สึกว่าร้าน Seiniku - Ten นี่ทำได้ดีกว่าราคาที่จ่ายไปเป็นอย่างมากแล้วล่ะ ส่วนเรื่องรายละเอียดอาหารของทางร้านนี้ก็คือจะเป็น  All you can eat 559 2 hr net (the price includes the sushi and drinks) คือราคา 559 เน็ท รวม เครื่องดื่ม, Sushi และของกินเล่นโน่นนี่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากเนื้อในบุฟเฟ่ต์แล้ว ร้านนี้เค้าก็มีเนื้อวัว wagyu premium ๆ จากหลาย ๆ เขต หลาย ๆ ย่านให้เลือกสั่งกันเพิ่มเติมด้วย เช่น Kobe, Matsuzaka, Tokusen หรือ Shimofuri (2 อันหลังนี่เป็นส่วน cut ของเนื้อวัวครับ เจ้า Shimofuri นี่แพงมาก จานละ 4,500 บาท!) คือมีเนื้อเทพ ๆ เหล่านี้ไว้รองรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่อยากกินบุฟเฟ่ต์ด้วยก็คงไม่ผิดนัก (วันที่ผมไปกินมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นอยู่หลายโต๊ะเหมือนกัน แอบแปลกใจ)

รีวิวในมื้อนี้ก็ขอแบ่งเป็นหมวดเนื้อกับหมวดไม่เนื้อละกันนะครับจะได้ดูกันง่าย ๆ

หมวดเนื้อ

- เนื้อวัวของร้านนี้ จะเป็นแนวแล่บาง ๆ และก็มีให้เลือกประมาณ 4 แบบ แต่ละแบบก็ต่างกันตรงที่ปริมาณไขมัน แค่นั้น จากที่กิน ๆ กันหลายถาด พวกผมสรุปความกันไดว่าเนื้อสันพิเศษ นั้นอร่อยที่สุดล่ะ
  • เนื้อสันนิวซีแลนด์ (New Zealand Beef) 
  • เนื้อสัน (Rosu Beef)
  • เนื้อสันพิเศษ (Jo Rousu Beef)
  • เนื้อฮารามิ (Harami Beef)






- เนื้อหมูของทางร้านนี้ก็จะมีทั้งหมด 3 แบบ บอกตรง ๆ ว่ากิน 3 แบบนี้แล้วแยกไม่ค่อยออกว่ามันต่างกันตรงไหนบาง และก็ไม่ค่อยมีความอร่อยเท่าไร สู้ตัวเนื้อวัวไม่ค่อยได้ พวกผมสั่งเนื้อหมูมากินกันถาดแรก ๆ แล้วก็ไม่ได้สั่งอีกเลยตอนหลัง อ้อ ร้าน Seiniku - Ten นี่แอบมีแปลกเล็กน้อย คือมีเนื้อเป็ดให้าอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วย (เพิ่งเคยเจอร้านแรก) ตัวเนื้อเป็ดของร้านนี้ก็อร่อยดี พวกผมเห็นตรงกันว่าอร่อยกว่าเนื้อหมู แต่ก็ไม่อร่อยเท่าเนื้อวัว ก็เลยสั่งมาแค่ 1-2 ถาดแล้วก็จบไป
  • หมูโชกน (shogun Buta)
  • หมูดำคุโรบุตะ (Kuro Buta)
  • หมูโจบูตะ (Jo Buta)
  • เป็ดอากาอิ (Akai Duck)



- เนื้อและผักอย่างอื่น ๆ นั้นก็ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ 
  • ปลาไข่ (capelin) : ปลาไข่ตัวใหญ่ใช้ได้ สดใช้ได้ แต่แบบ ถาดแรก ๆ ปิ้ง fail ไปหน่อยครับ เนื้อกับไข่หลุดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เฉยเลย หลัง ๆ พอปิ้งแบบไม่พลิก ไม่ยุ่งกับมัน และกินทีละคำใหญ่ ๆ เลยค่อยโอเคขึ้นมาหน่อย
  • หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (New Zealand Mussel) : ตัวใหญ่ สด อร่อย สั่งกันไปหลายถาดเลยพวกผม
  • เห็ดออรินจิ (Eringi Mushroom) : ซอสอร่อย เห็ดกลีบใหญ่ อร่อยดีอีกเช่นกัน
  • กระเจี๊ยบ (Okra) : อันนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว





หมวดของกินเล่น

  • หมูทงคัตสึ (Tonkatsu) : อันนี้ค่อนข้างธรรมดา ๆ ไปหน่อย สู้พวกร้าน Tonkatsu แท้ ๆ ไม่ค่อยได้
  • ไก่คาราเกะ (Karaake) : อันนี้ทำได้ดีครับ พอ ๆ กับไก่คาราเกะดี ๆ ตามร้านราเมนทั่ว ๆ ไปเลย
  • เนื้อเมนชิคัตสึ (Menchi Katsu) : อันนี้ไม่เคยกินมาก่อน เป็นประมาณเนื้อทอดนี่แหละ ก็อร่อยดีครับ
  • แซลมอนนิกิริ (Salmon Nigiri) : อันนี้เรียกว่าเป็น highlight ของร้าน Seiniku -Ten นี่ก็คงไม่ผิดนัก เพราะตัวแซลมอนที่จัดมาให้นี่ปั้นมาดีมาก และเนื้อปลาก็เป็นเกรดที่เอาไปขายตามร้าน Sushi เกรด B ได้อย่างไม่เขินอายเลย พวกผมก็เลยจัดกันหนัก สั่งกันไปหลายสิบชิ้นเลย รวม ๆ แล้ว
  • ทามาโกะนิกิริ (Tamago Nigiri) : อันนี้ก็เยี่ยมครับ เป็นไข่หวาน ที่คำโต ทำมาได้ดี ให้ข้าวมานิดเดียว อร่อย ๆ
  • ผักกวางตุ้งน้ำมันงา : อร่อยได้มาตรฐาน
  • ถั่วงอกน้ำมันงา : อร่อยได้มาตรฐาน
  • กิมจิ : อันนี้ fail ไม่อร่อยเลย
  • มิโซซุป (Miso Soup) : อันนี้ทำได้ดีกว่าร้านบุฟเฟ่ต์ทั่ว ๆ ไปมาก อร่อย ๆ และแบบให้เห็ด shimeji มาซะด้วย ทำให้ซุปดูดีขึ้นมาโดยถนัดตา







สรุป หลังจากที่กินมื้อเย็นกับร้าน Seiniku Ten ในมื้อนี้เสร็จ พวกผมก็ลงความเห็นกันว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมร้านนี้ถึงกล้าหาญชาญชัยมาเปิดร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง ณ ทองหล่อ แบบนี้ ซึ่งเหตุผลก็ตามที่พิมพ์ไปข้างบน 3 ข้อ และบวกกับอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย รสชาติพอใช้ได้ คุ้มค่าคุ้มราคา เข้าไปด้วย ก็เลยไม่น่าแปลกใจว่าวันที่ผมไปลูกค้าจะเต็มร้าน และร้านนี้ก็น่าจะอยู่ยั้งยืนยงเคียงคู่ถนนทองหล่อไปได้เรื่อย นะ ตามนั้น



--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment