Thursday, April 25, 2013

Brio - Italian Restaurant Review

Brio Italian Restaurant at Anantara Riverside & Resort, Bangkok

บริโอ ร้านอาหารอิตาเลียน โรงแรม อนันตารา รีสอร์ท เจริญนคร




Overall Score  7.5/10
Taste   3/5
Ambiance  4.5/5
Service  4.5/5
Value   4/5

Brio Italian Restaurant on BumRes.com (For more picture, menu and info)




วันก่อนมีโอกาสได้ไปลิ้มลองพิซซ่าจากเมนูแชมป์โลกทำพิซซ่าที่โรงแรม Anantara เจริญนคร มาครับ (รายละเอียดของตัวแชมป์โลกคนนี้ก็ตามนี้เลย click) อาหารในมื้อนี้ก็เลยจะมีแต่พิซซ่า พิซซ่า และ พิซซ่าเท่านั้นครับ ก่อนจะเข้าถึงเรื่องรีวิวอาหารในมื้อนี้ก็ขอเกริ่น ๆ ถึงห้องอาหาร  Brio แห่งนี้สักหน่อยละกัน

ห้องอาหารอิตาเลียน Brio แห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นห้องอาหารอิตาเลียนหนึ่งเดียวในโรงแรมฝั่งธนบุรีแห่งนี้ก็ว่าได้ครับ ตัวห้องอาหารแห่งนี้ก็จะคล้าย ๆ ของโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ ทั้งเรื่องการตกแต่ง, อาหาร และการบริการครับ ตัวการตกแต่งร้านก็จะเป็นแนว  Modern ๆ หน่อย เรียบหรู ๆ โปร่ง ๆ โล่งสบาย โต๊ะแต่ละโตีะจะจัดวางหา ๆ กันพอสมควร ให้ความเป็นส่วนตัว ความ privacy ระหว่างแขกแต่ละโต๊ะค่อนข้างสูง (เพราะน่าจะมีหลายโต๊ะที่แบบมาคุยงานคุยธุรกิจกัน) และก็จะมีโต๊ะหลายแบบ ทั้งโต๊ะแบบนั่งธรรมดา , โต๊ะนั่งห้อยขา (stool) และห้องส่วนตัว ให้เลือกนั่งกันตามสะดวก , บรรยากาศของห้องนี้ก็จะมีทั้งการตกแต่งด้วยรูปแนว abstract หรือรูปแนวอื่น ๆ สวย ๆ และขวดไวน์เรียงรายมากมาย ให้ความเป็นห้องอาหารอิตาเลียนแบบสมบูรณ์แบบ ส่วนการบริการก็แน่นอนครับ หายห่วง อยู่ในระดับโรงแรม 5 ดาวทั่ว ๆ ไป









ส่วนอาหารของห้องนี้ตอนมื้อเที่ยงก็จะมีบริการ set lunch ราคาประหยัด เพิ่มเติมจากตัว a la carte ที่สามารถสั่งได้ทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น และตัว set lunch ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เดือนต่อเดือนบ้าง หลายเดือนทีบ้าง อย่างตอนที่ผมไป ก็จะเป็นตัว Antipasti & Tasting Plates by Michelin Star Trained Chef Patrizio Roncato ราคา 590++ บาท ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าการสั่งเมนูมื้อเย็นพอสมควร ส่วนตัวมื้อเย็นก็จะมีอาหารอิตาเลียนแบบครบหมดทั้ง appetizer, soup, pizza, pasta, main course และ dessert และราคาก็ค่อนข้างมาตรฐานเช่นกัน มากินกันแบบเต็มที่สั่งไวน์สักคู่ละขวด ก็จะอยู่ที่ 1,000 - 2,000 บาทโดยประมาณ ตามนั้น

ส่วนตัว event พิเศษ ตัว Pizza จากแชมป์โลกนี้ ก็จะมีถึงแค่วันที่ 1 พ.ค. นี้เท่านั้น ไม่รู้ว่าจะมีใครตามรอยไปทันรึเปล่า -*- ในมื้อนี้ก็ได้ลองพิซซ่าหลากหลายหน้ามากครับ ไล่เรียงกันไปเลยละกัน

อย่างแรกที่ได้ในมื้อนี้นั้นเป็น Ciabatta หรือขนมปังอิตาเลียน ชิ้นเล็ก ๆ ที่คล้าย ๆ รองเท้าแตะ (คล้ายตรงไหน? อันนี้คุณเชฟบอกมา) ก็เอามากินเล่น ๆ แทนขนมปังชิ้นใหญ่ ๆ เหมือนที่เคยกินตามร้านอิตาเลียนทั่วไป เจ้าขนมปังนี่ผมชอบมากครับ แม้จะไม่มีอะไร มีแต่แป้ง แต่ว่าแบบ มันอร่อยดีมาก แข็งกำลังดี แต่ก็มีความนุ่มอยู่บ้าง กินกับ น้ำมันมะกอก กับ balsamic ก็อร่อยดี แต่ถ้ากินกับ Parmesan cheese ที่ให้มาด้วยกันนี่ยิ่งอร่อยครับ ผมกินเพลินมาก ประมาณจานนึงได้

ส่วนตัว pizza ก็จะมี 9 หน้าทั้งหมด

- Fruit de Mare (Tomatoes, Mixed Seafood, Lemon Peel, Garlic - 620 บาท) : ถาดนี้ก็เป็นพิซซ่าที่แพงที่สุดในเมนูเลย ที่แพงก็น่าจะเพราะเป็น seafood ซะเยอะ มีทั้งหอยแมลงภู่นวซีแลนด์, กุ้ง, ปู และก็ปลาหมึก หน้านี้อร่อยดีครับ ไม่ได้ใส่ชีสเยอะเท่าไร ตั้งใจให้รับรส seafood กับมะเขือเทศเป็นหลัก อร่อยดี




- Pizza Pazza (Tomatoes, Capers, Onion, Anchovies - 380 บาท) : เชฟบอกว่า Pazza แปลว่าบ้า ซึ่งทำไมถึงตั้งชื่อหน้านี้ว่า พิซซ่าบ้าก็ไม่รู้ อาจจะเพราะเพราะใส่อะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรก็ได้ ทั้งปลาเค็ม, หัวหอม และ เม็ดเคเปอร์แบบนี้ อันนี้ธรรมดา ๆ ครับ ผมชอบแค่ความอร่อยจากเม็ดเคเปอร์อย่างเดียว อย่างอื่นธรรมดามาก ๆ อ้อ anchovies แอบไม่ค่อยเหม็นเท่าไร
- Monello (Tomatoes, Mozzarella, Mushroom, Cooked Ham, Spinach, Gorgonzola, Egg, Cream - 430 บาท) : อันนี้อร่อยดีครับ ชีสมาเยิ้ม ๆ ดี และก็ตัวหน้าแต่ละอันก็มาแบบสไตล์ตะวันตกหมด ก็เลยผสมผสานกันลงตัวดี




- Margherita (Tomatoes, Buffalo Mozzarella, Fresh Basil, Cherry Tomatoes - 350 บาท) : พิซซ่าหน้าสุดแสนจะเบสิค ซึ่งเชฟก็ทำมาได้มาตรฐานดี อร่อยได้มาตรฐาน แอบรู้สึกว่าน่าจะใส่ใบ basil มาเยอะกว่านี้ก็น่าจะอร่อยกว่านี้นะ
- Parmiggiana (Tomatoes, Mozzarella, Eggplant, Parmesan Cheese - 380 บาท) : อันนี้เหมือนจะเคยกินที่อื่นมาก่อน แต่ก็ไม่ค่อยจะเห็นสักเท่าไรที่เอาตัวมะเขือม่วงลูกใหญ่ ๆ มาเป็นหน้าหลักของพิซซ่าแบบนี้ ตัวมะเขือม่วงนี่อันใหญ่มากครับ และก็แบบโดนอบมาผสานเป็นเนื้อเดียวกับชีส อร่อยอีกเช่นกัน (ส่วนตัวชอบมะเขือม่วงอยู่แล้ว) อันนี้ก็เหมือนคนที่จะไปกินด้วยกันก็จะชอบกันเยอะนะครับ





- Cece (Tomatoes, Buffalo Mozzarella, Feta Cheese, Spicy Salami, Rocket Leaves, Black Olives - 450 บาท) : พิซซ่าหน้าชื่อเล่นเชฟ อันนี้ไม่อะไรมากครับ แปลกตรงที่โรยใบ rocket มาจนเต็มหน้าพิซซ่า กินไปแล้วก็ไม่ค่อยเจอรสชาติอะไรโดดเด่นออกมาสักเท่าไร ออกแนวเหมือนกินสลัดมากกว่า -*-
- Anantara (Tomatoes, Mozzarella, Veal, Herb Butter, Garlic, Chilli - 550 บาท) : อันนี้เป็นหน้า highlight ของทางโรงแรมเลย เพราะถึงกับเอาชื่อโรงแรมมาตั้ง ก็เป็นหน้าที่แปลกดีครับ จุดเด่นนั้นคือตัวเนื้อลูกวัวที่ผมยังไม่เคยเห็นในหน้าพิซซ่าที่อื่นมาเลย หน้านี้อร่อยดีครับ เนื้อลูกวัวมาแบบบาง ๆ หน่อย สไลด์มาแบบคล้าย ๆ ชาบู และก็ตัวชีสก็ให้มาเยอะมาก ๆ เยิ้ม ๆ เลย และเพิ่มความอร่อยด้วย เนยและกระเทียมและพริก เพิ่มกลิ่นและความฉุน และดับกลิ่นตัวเนื้อลูกวัวลงเล็กน้อย หน้านี้สมกับเป็นหน้า signature ครับ อร่อยดีมาก






- Al Curry (Tomatoes, Buffalo Mozzarella, Chicken cream, Madras Curry, Pineapple, Chilli - 460 บาท) : หน้านี้จริง ๆ ก็จะคล้ายตัวหน้า Hawaiian มาตรฐานที่พบเจอได้ทั่วไป ตัววัตถุดิบหลักจะเป็นตัวสับปะรด แต่จะเพิ่มความเป็นเอเชียขึ้นมาด้วยตัวผงกะหรี่ กับพริก แค่นั้น หน้านี้ก็โอเคครับ คล้าย ๆ ฮาวายเอี้ยนเผ็ด ๆ นั่นเอง
- Porcini (Tomatoes, Mozzarella, Porcini Mushrooms, Cream - 480 บาท) : หน้านี้เหมือนจะเป็นหน้าที่ธรรมดาที่สุดในมื้อนี้เลย คือใส่เห็ด Porcini อันใหญ่ ๆ มาแค่นั้นเอง ธรรมดา ๆ ตามหน้าตาครับ



สรุป มื้อเทศกาลพิซซ่ากับ พิซซ่าจากฝีมือแชมป์โลกพิซซ่า ในมื้อนี้ก็ เรียกได้ว่าอิ่มและจุกไปด้วยพิซซ่ากันไปเลย พิซซ่าหลาย ๆ หน้าในมื้อนี้ก็ธรรมดา ๆ แต่บางหน้าก็แปลก และก็อร่อยดี ก็ใครอยากจะกินพิซซ่า พร้อมดีลีลาการทำพิซซ๋าของเชฟท่านนี้ ที่ได้รางวัลแชมป์โลกการันตีมา ก็รีบ ๆ ไปกินหน่อยก็ดีนะครับ เพราะเหลืออีกไม่กี่วันเท่านั้น!



--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment