Tuesday, April 9, 2013

Akiyoshi & Yakiniku Bar Review

Akiyoshi & Yakiniku Bar - Japanese Yakiniku Restaurant and Buffet Shabu Shabu - Sukiyaki Restaurant at Sukhumvit 53, Bangkok

อะกิโยชิ & ยากินิกุ บาร์ - ร้านเนื้อย่างญี่ปุ่น บุฟเฟ่ต์ ชาบู ชาบู สุกี้ยากี้ อาหารญี่ปุ่นตามสั่ง สุขุมวิท 53, BTS ทองหล่อ




Overall Score  8.5/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4.5/5

Akiyoshi & Yakiniku Bar on BumRes.com (For more picures and menu)



ร้าน Akiyoshi เป็นร้าน Shabu ที่กำเนิดขึ้นมากว่า 18 ปี โดยที่เริ่มต้นจากการทำอาหารไต้หวันแต่ไม่ได้รับความนิยมเลยมีการปรับเปลี่ยนเมนูและสไตล์ของอาหารอย่างล้างบางโดยเปลี่ยนมาเป็นร้านอาหารที่ทำ Shabu จำหน่ายโดยเป็นร้านแรก ๆ ของประเทศที่นำเนื้อวากิวจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเป็นวัตถุดิบของชาบูหม้อดินเผา ซึ่งภายหลังได้มีการคัดสรรเนื้อวากิวที่เหมาะกับองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ทางร้านคิดค้นขึ้น โดยทางเจ้าของร้านได้ไปเพียรเฝ้าติดตามกระบวนการผลิตเนื้อวากิวของแต่ละเมืองในประเทศญี่ปุ่น จนไปเจอวากิวที่เมือง Fukuoka ที่ให้เนื้อสัมผัสและความนุ่นเป็นพิเศษเทียบเท่า Kobe และ Matsuzaka แต่อยู่ในสนนราคาที่คนไทยคิดว่าคุ้มค่ากว่า ซึ่งเราจะเรียกเนื้อชนิดนี้ว่า “Hakata Wagyu”

วันนี้ผมได้มีโอกาสมากิน Akiyoshi สาขาสุขุมวิท 53 ซึ่งเปิดทุกวันโดย วันจันทร์ – วันพฤหัส เปิดให้บริการตั้งแต่ 16.00 – 23.30 น. และสำหรับวันศุกร์ – วันอาทิตย์ เปิดตลอดเวลา 12.00 – 23.30 น. โดยสาขานี้ทั้ง Shabu และ Yakiniku สาขานี้บรรยากาศโล่งๆสบายๆ มีที่นั่งกว่า 70 ที่นั่ง เตา Shabu ที่นี่จะเป็นเตาแก๊สปิกนิก และเตาย่างเป็นเตาถ่าน (ในขณะที่สาขาต้นตำรับที่พระโขนงก็จมีทั้ง Shabu & Yakiniku เหมือนกัน ส่วนสาขาล่าสุด ที่ Asiatique จะเป็นแค่ Shabu อย่างเดียวแต่จะเน้นพวกเมนู a la carte ที่มากกว่าสาขาอื่น ๆ)








เมนูที่ร้าน Akiyoshi สาขาสุขุมวิท 53 แบ่งได้ง่ายๆ เป็นแบบ Shabu และ Yakiniku ซึ่งสาขานี้มี

- Buffet Shabu @ 390++ บาท
- Buffet Sukiyaki @ 390++ บาท
- A la carte Yakiniku & เมนูอื่นๆ

และเมนูที่มากินวันนี้ขอแบ่งเป็นตามประเภทอาหารเลยนะครับ

เมนูที่ 1 ชุด Beef Sukiyaki (สุกี้ยากี้เนื้อ) @ 530++ บาท

สำหรับเมนูนี้ ทานที่ไหนมาก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เพราะรสชาติของเมนูนี้หลาย ๆ ร้านจะทำรสชาติหวานนำโดดออกมา แต่สำหรับร้านนี้เค้าจะมีกระบวนการปรุงที่โต๊ะเลยโดยการผัดหอมใหญ่ก่อนแล้วค่อยบรรจงเรียงผักลงใส่หม้อเพิ่มน้ำซุปเล็กน้อยรอให้ผักอ่อนตัวลงสักพักเมื่อคีบผักขึ้นมากินจะยังได้รสชาติของซุปที่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เพราะผักค่อนข้างชิ้นใหญ่ แต่เมื่อคีบเนื้อชาบูที่จัดเรียงมาที่มีลวดลายของชั้นไขมันแทรกอยู่บ้างจุ่มแล้วแกว่งในน้ำซุปสุกี่ยากี้ให้พอสุก แล้วหม่ำเข้าปากทำให้ได้รสของเนื้อที่มีคุณภาพได้อย่างชัดเจน และมีมีกลิ่นที่เฉพาะตัวจริง ๆ ส่วนน้ำซุปเมื่อมีทั้งเนื้อและผักใส่เข้าไปก็ทำให้มีรสกลมกล่อมเลย เลยอยากทำให้ลองซดน้ำซุปเปล่าๆดู เลยลองตักซุปมาซดเล่น ไม่น่าเชื่อว่าที่ Akiyoshi เค้าปรุงมาได้สมดุลมากๆ มีรสหวานและเค็มที่ไม่โดดเกินไปปรุงแต่งให้รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัว













 เมนูที่ 2 Shabu (ชาบู) เป็นแบบ Buffet @ 390++

เมนูนี้ทางร้านก็ทำได้น่าสนใจ น้ำชาบูจะออกจืด ๆ เพื่อให้ได้รสชาติของเนื้อเข้าไปเต็ม ๆ ไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดบรรเลงผักลงหม้อ แล้วแกว่งชิว ๆ ต่อด้วยเนื้อ Hakata Wagyu ที่มีลวดลายของชั้นไขมันที่แทรกอยู่อย่างสลับซับซ้อน จุ่มแล้วแกว่ง แกว่งแล้วจิ้ม ลิ้มรสชาติ นุ่มละลายในปากแทบไม่ต้องเคี้ยว เนื้อ Hakata Wagyu จะมีกลิ่นที่เฉพาะตัวอย่างชัดเจนคนที่ชอบเนื้อผมว่ามาโดนกันสักถาดสองถาดก็ไม่เสียดายตัง แต่ทีเด็ดที่ไม่แพ้กันของเมนูนี้คือน้ำจิ้มคือมี 2 แบบให้เลือกคือ น้ำจิ้มงาขาว และ พอนซึ ที่ทางร้านปรุงมาอย่างพิถีพิถัน อร่อยมากครับทั้ง 2 อย่างเลยผมชิมมาแล้ว งาขาวก็หอมมันมากรสชาติหวานๆเค็มๆแบบละมุน ๆ ส่วนพอนซึก็กลิ่นชัดเจนมากรสชาติออกเปรี้ยวนำเล็กน้อย แต่สำหรับใครที่ชอบรสจัดจ้านหน่อยทางร้านเค้าก็มีพริกชี้ฟ้ากับใช้เท้าปั่นมาให้ใส่เพิ่มเพื่อความจัดจ้านและตัดเลี่ยน แต่ที่สุดของเมนูนี้ต้อง Hakata Wagyu อยู่ดีไม่ต้องจิ้มก็พริ้มได้

คำบรรยายเนื้อ Hakata Wagyu จากทางร้าน "Hakata Wagyu - เนื้อ Wagyu ชั้นเยี่ยมจากญี่ปุ่น ถูกส่งตรงมายัง Akiyoshi ให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติที่มากกว่าความอร่อย ทั้งซุปและซอสสูตรลับเฉพาะที่ได้รับการรังสรรค์อย่างใส่ใจ จนออกมาเป็นต้นตำรับแห่ง Shabu Shabu และ Sukiyaki ญี่ปุ่น

เมนูที่ 3 Yakiniku (ปิ้งย่าง)

- เนื้อวากิวคารุบิพิเศษ (Wagyu Tokujyo Karubi 120g - 1,300 บาท)(Marble Score : A4) เมนูนี้เป็น Highlight ของมื้อนี้เลยผมว่า เพราะเมื่อนำน้อง Jou Karubi Wagyu ที่มีความเซ็กซ์อึ๊มระดับ A4 ลงไปสะดุ้งไฟแรงจากเตาถ่านพิเศษแล้วได้ผิวที่เกรียมหน่อยแต่ข้างในยังฉ่ำแบบ Mediem ๆ จริง ๆ ที่ร้านเค้ามีน้ำจิ้มสูตรพิเศษให้ แต่ผมเป็นคนที่ชอบกลิ่นรสของเนื้อโดยแท้เลยเลือกที่จะโรยเกลือและพริกไทยแทน เมื่อเอาเข้าปากแล้วมันของเนื้อแตกอยู่ในปากให้กลิ่นที่หอมแบบ Mr. Team มาก ๆ (ไม่ต้องมีคำบรรยาย)
- ลิ้นวัวพิเศษ (Jyo Tongue Shio - 280 บาท) ตอนอยู่ในจานดูน่ากินมากเพราะเป็นลิ้นที่ชิ้นใหญ่กว่า Yakiniku หลาย ๆ ที่ เมื่อใส่ลงตะแกรงโลกันต์ให้พอสุก เอาขึ้นจานโรยเกลือและบีบมะนาวเล็กน้อย สอยเข้าปาก ขอสามคำสำหรับเมนูนี้ “หอม กรุบ ฟิน”
- ชุดเนื้อรวม (Assorted beef set 200g - 450 บาท) - มีส่วนที่ติดซี่โครง, ติดหน้าท้อง และติด สำหรับคนที่มาใช้บริการร้านนี้ ส่วนใหญ่จะสั่งจานนี้เพราะมีเนื้อให้ท่านแบบ 3 ส่วนเลย ล้วนต่างเป็นเนื้อที่คุณภาพดี รสชาติดีหอมนุ่มไม่แพ้ Jou Karubi Wagyu แต่จะให้ความรู้สึกที่หลากหลายเพราะเนื้อแต่ละส่วนจะให้เนื้อสัมผัสและกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ห้ามพลาดเลยนะเมนูนี้ อร่อยและคุ้มค่าดี
- ชุดหมูรวม (Assorted pork set 150g - 380 บาท) : สันคอ, สันนอก, สะโพก จานนี้ก็เป็นอีกจานที่คุ้มค่าเพราะเค้าได้เลือกเนื้อหมูส่วนต่าง ๆ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาจัดไว้ในจานเดียวกัน หมูเมื่อย่างให้เกรียมหน่อยจะได้ความดึ๊งดั๊งเล็ก ๆ ด้านนอกมีความนุ่มอนู่ภานในเมนูนี้จะราดน้ำหมักเล็กน้อยพอสุกก็ได้ลองน้ำจิ้มของทางร้าน ก็เป็นน้ำจิ้มที่อร่อยดีครับจะมีรสหวานนำเล็ก ๆ แต่เราก็สามารถเลือกปรุงได้ตามความชอบเพราะทางร้านมีเครื่องปรุงให้เราเลือกใส่เยอะดี ใครที่ไม่ทานเนื้อวัว แต่รักในการปิ้งย่าง ผมว่าจานนี้เหมาะมากครับ

















เมนูนี้ Yakiniku นี้จะเสริฟพร้อมผักเคียงกลุ่มผักกาดหอม เรดโอ๊ค แตงกว่าญี่ปุ่น และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเลิสเลย กินกับพวกเนื้อย่างเพลินกันไปครับทุกท่าน

เมนูที่ 4 Ishiyaki Bibimbab (ข้าวยำเกาหลี)
มีผักหลากหลายชนิดเลย และมีเครื่องปรุงและโคชูจัง(ซอสแดงเกาหลี)ให้เราใส่เอง ได้ตามใจชอบ ผมใส่ไปประมาณ 3 ช้อน ได้รสชาติที่เข้มข้นดี ข้าวมีความกรุบเล็กๆสำหรับส่วนที่โดนชามหินเผาไฟ เคี้ยวแล้วได้อารมณ์เพลินๆดีครับ ไข่ก็สามารถเลือกให้ทางร้านทำสุกหรือไม่สุกได้ รวมๆแล้วจานนี้เป็นตัวอย่างของเมนู A la carte ที่อร่อยดีครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment