L'Opera - Italian Restaurant and Wine Boutique at Sukhumvit 39, Bangkok
โลเปร่า - ร้านอาหารอิตาเลียน ไวน์บาร์ สุขุมวิท 39 BTS พร้อมพงษ์
Overall Score 8/10
Taste 3.5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 3/5
L'Opera - Italian Restaurant on BuMRes.com (For more pictures and menu)
เมื่อสัก 2 อาทิตย์ก่อนผมมีโอกาสได้ไปกินร้านอาหารอิตาเลียนเก่าแก่ร้านนึงนามว่า Rossano's บริเวณถนนอโศกมนตรีมาแล้วแบบติดอกติดใจมาก ทั้งในแง่การบริการ, บรรยากาศร้าน หรือรสชาติอาหาร พอดีนึกถึงอีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนเก่าแก่ออกขึ้นมาพอดี ก็เลยชวนเพื่อนไปกินกันสักหน่อยกับร้านที่มีนามว่า L'Opera นั่นเอง
ร้าน L'Opera แห่งนี้เห็นบอกว่าทางร้านเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1983 หรือ ณ ตอนนี้ก็ 30 ปีดีดักเข้าไปแล้ว (เท่ากันกับร้าน Rossano's เลย คิดไม่ออกเหมือนกันว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว อาหารอิตาเลียนในบ้านเราจะมีร้านอื่นอีกมั้ย? แล้วมันจะเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าเหมือนหลุดมาจากดาวอื่นขนาดไหนยังไง อืม) (เมื่อก่อนตอนผมเรียนอยู่สาธิต ประสานมิตร จะต้องขับผ่านร้านนี้ทุกเช้า บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร คิดว่าเป็นโรงหนังเล็ก ๆ อะไรประมาณนั้น ได้แต่ขับผ่าน ๆ ไม่เคยได้แวะมากินสักครั้งเดียว) ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (พร้อมพงษ์) บริเวณสามแยกที่จะเลี้ยวซ้ายไปโผล่ซอยสุขุมวท 31 ครับ หาไม่ยาก และมีที่จอดรถด้านหลังร้านสะดวกสบาย จอดเองก็ได้ หรือว่าถ้าที่จอดเต็มก็จะมีพนักงาน valet ให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถเลย
พูดกันถึงเรื่องปัจจัยอื่น ๆ ก่อนเข้าเรื่องร้านอาหารก่อนละกันสำหรับร้าน L'Opera แห่งนี้ อืม จะว่ายังไงดี ร้านนี้มันแบบช่างเหมือนกับร้าน Rossano's จริงอะไรจริง ทั้งในแง่ service ที่แบบพนักงานเยี่ยมสุด ๆ บริการได้ดีมาก ๆ แนะนำอาหารได้ดี รู้จักอาหารของร้านตัวเองเป็นอย่างดี (แม้ว่าจะมีร่วม ๆ 100 รายการก็ตาม) , ดูแลปูเสื่อเราเป็นอย่างดี การบริการเอาไป 5 ดาวเต็มเลยละกัน ส่วนบรรยากาศร้านก็จะออกแนว อิตาเลียน คลาสสิค ๆ สวย ๆ สลัว ๆ ขรึม ๆ ประมาณนั้น อืม และก็เหมือนจะมีที่นั่ง 2 ส่วน ทั้ง indoor dining, al fresco dining ด้วย อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่เหมือนมองออกไปนอกกระจกจะเป็นแบบนั้น และก็ทางร้านก็น่าจะมีห้องส่วนตัวอีกเช่นกัน ซึ่งอันนี้ก็ไม่แน่ใจอีกแล้วเพราะไม่ได้ถามและก็ไม่ได้เดินขึ้นไปดู ก็รวม ๆ แล้วก็เป็นร้านที่มีที่นั่งครบครัน บรรยากาศเลิศหรู ไม่มีอะไรให้ต้องติอีกเช่นกัน อืม
เข้าเรื่องอาหารกันบ้าง อาหารของร้าน L'Opera แห่งนี้ก็จะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ พอ ๆ กับร้านฝาแฝด Rossano's เลยก็ว่าได้ (ทำไมผมต้องเปรียบกับร้าน Rossano's บ่อย ๆ ก็ไม่ทราบเหมือนกันเนอะ) จะมีเมนู Chef Suggestion ให้เลือกร่วม ๆ 20 รายการ และก็รายการอาหารปกติอื่น ๆ อีก 102 รายการ และก็มีให้เลือกครบครัน appetizer, soup, main course (lamb, seafood, meat), pasta, pizza คือแบบมีครบทุกหมวดหมู่ของอาหารอิตาเลียนจริง ๆ สมกับที่เป็นร้านเก่าแก่เป็น Italian Ristorante ขนานแท้ อะไรประมาณนั้น และก็แน่นอนครับ ทุกอย่างเลิศหรู perfect ขนาดนี้ ราคาอาหารของร้านนี้ก็ต้องแพเป็นเงาตามตัว ราคาอาหารส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณจานละ 400 - 500 บาท ส่วนพวกที่มีเนื้อเยอะ ๆ ราคาก็จะกระโดดขึ้นไปอยู่ที่ หลายร้อยจนเป็นพันบาท ราคามาตรฐาน (อ่านว่า แพง ทำไมต้องตั้งราคาแพง ๆ แบบนี้ให้เป็นมาตรฐานสำหรับอาหารอิตาเลียนในเมืองไทยกันด้วย?) สำหรับภัตตาคารอิตาเลียนทั่ว ๆ ไปครับ กินกันเต็มที่ ไปสองคนไวน์ขวดนึงก็น่าจะคนละ 2,000 - 3,000 บาทโดยประมาณ ตามนั้น
มื้อนี้ผมไปกัน 2 คน แอบจัดหนักนิดหน่อยคือสั่งอาหารไปทั้งหมด 6 อย่างเป็นของคาว 2 อย่างของหวาน 3 อย่าง กินเสร็จมีแอบจุกไปเหมือนกัน อืม portion อาหารของร้านนี้ให้ค่อนข้างเยอะครับ ถ้าคุณผู้หญิงไปกินอาจจะสั่งแค่จานเดียวก็น่าจะอิ่มได้ ส่วนผู้ชายก็สัก 2 อย่างก็กำลังดี แต่พอดีผมกินเยอะไปหน่อยก็ 3 อย่างก็เลยกำลังดี (ฮา)
จานแรกเริ่มต้นด้วย Italian buffalo's milk mozzarella on tomato and lettuce (Caprese di bufala - 430 บาท) หรือ Caprese salad สลัดสไตล์อิตาเลียนแบบขนานแท้ที่ถ้าผมเจอทีไรก็จะสั่ง(แม่ง)ทุกที (เจ้าสลัดจานนี้ผมรู้จักครั้งแรกสุดตอนอ่านการ์ตูนเรื่อง JoJo ล่าข้ามศตวรรษภาค 4 ตอนที่เจอกับนักวาดการ์ตูนที่มีพลังแสตนด์ ตอนนั้นบอกตรง ๆ ว่าไม่คิดจะกินเจ้าอาหารจานนี้เลยในชีวิต อะไรอ่ะ ชีสกับมะเขือเทศ แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นอาหารอิตาเลียนที่กินบ่อยที่สุดไปแทน -*-) Caprese Salad นี่ผมกินมาก็หลายต่อหลายร้าน ไม่ค่อยจะเจอการนำเสนอที่เหมือนกันสักเท่าไร ดูเหมือนมันจะเป็นอะไรที่หลาย ๆ ร้านพยายามทำให้ออกมาเด่น แตกต่างจากร้านอื่นกันพอสมควร บางร้านถึงกับแบบทำออกมาได้สวยงาม จนไม่อยากกินก็มี (เช่น Biscotti - Four Seasons) สำหรับของร้าน L'Opera แห่งนี้ เค้าก็ทำมาได้น่ากินดีครับ ให้มอสซาเรลล่าชีสมาก้อนใหญ่ อวบอูม ตูม ๆ น่ากินมาก ตัวมะเขือเทศก็แผ่นใหญ่ แล้วก็มีให้ lettuce เพิ่มเติมมาด้วย จานนี้บอกตรง ๆ ว่าอร่อยมากครับ ชีสเนื้อแน่น แต่ก็นุ่มอร่อย , มะเขือเทศฉ่ำน้ำ และหวานอร่อยมาก ๆ ทั้ง 2 อย่างผสมผสานกันออกมาเป็น Caprese Salad ที่ไร้ที่ติจริง ๆ เป็น one of the best ในช่วงปีนึงถึงสองปีที่ผมกินมาเลยจานนี้
จานที่ 2 เป็น Ravioli filled with Jerusalem artichokes, tossed in light anchovies and garlic sauce with tiger prawns medallions - 380 บาท - จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเห็นแว่บแรกมันก็ดูน่ากินดีนะครับ แต่เอาจริง ๆ คือแบบมัน..แพงไปมั้ยอ่ะ 380 บาทให้ ravioli มาตั้ง 4 แผ่นแน่ะ! แถมไส้ในของ ravioli ก็ไม่ใช่เนื้อกุ้ง, เนื้อปู หรือว่าเนื้ออะไรแพง ๆ เลยเป็นแค่ผัก หรือเพราะว่ามันเป็น Jerusalem artichoke มันก็เลยแพง? อืม ตัดเรื่องความแพงออกไปจานนี้ก็เป็นอะไรที่อร่อยดีครับ ravioli แม้ว่าเนื้อจะไม่ได้อัดมาแน่นเต็มเปี่ยม แต่ว่าแป้งเนื้อดีมาก และก็ต้มมาดี แบบกินแล้วเพลินสุด ๆ ตัวเนื้อกุ้งที่ให้มาก็สด เด้ง อร่อย และก็เพิ่มความเข้มข้นของรสชาติโดยรวมด้วย anchovies อีก อืม เป็นอะไรที่อร่อยดีครับ
จานที่ 3 เป็น Breaded and seared snow fish steak served on red cabbage and fried vegetable - 560 บาท จานนี้หน้าตาตามที่อ่านในเมนูกับหน้าตาจริง ๆ ของมันนั้นเป็นคนละเรื่องจากที่ผมคิดเอาไว้เลย คือทางร้าน L'Opera ทำออกมาเป็นประมาณ ปอเปี๊ยะ อารมณ์ประมาณนั้น (ตอนแรกนึกว่าจะเป็น fillet ของปลา) (พออ่านไปอ่านมา เหมือนตัวเมนูจะไม่ใช่เลยนะครับเนี่ย คือตัว chef suggestion 2 เล่มที่ผมได้ รายการมันไม่เหมือนกัน ทางห้องครัวกับเด็กเสิร์ฟอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน -*-) เป็นปอเปี๊ยะที่น่ากินดี ดูสวยงาม หลากหลายไปด้วยวัตถุดิบในแต่ละชิ้น รสชาติของมัน.. บอกตรง ๆ ว่ากินแล้วก็อร่อยดี แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยจนประทับใจ อยากสั่งใหม่อีกรอบ แต่ออกแนว สั่งรอบเดียว กินจนจบแล้ว พอดีกว่า อะไรงี้ คือรสชาติมันดูไม่ค่อยมีอะไรเด่นเลย ตัวปลาหิมะที่ควรจะเด่นก็ไม่ค่อยเด่น (ไม่ค่อยมีเนื้อปลา) ตัวขนมปัง กับผัก ก็ผสมผสานกันจนกลมกลืนกันเกินไป คือแบบกินแล้วมันเหมือนกินก้อนอะไรก็ไม่รู้อ่ะครับ อืม ประมาณนั้น
จานที่ 4 คือจริง ๆ ผมสั่งไป Imported veal escallops stuffed with ham, fontina cheese, spinach, sauteed in a white wine sauce and sage - 540 บาท แต่พอเห็นหน้าตาอาหารแล้วเหมือนกับว่ามันจะไม่ใช่ที่ผมสั่งไปนะ? เอาเป็นว่าจานนี้ก็เป็นประมาณเนื้อลูกวัว (ส่วนไหนก็ไม่รู้) แล่มาเป็นชิ้นเล็ก ๆ กินพอดีคำ ๆ แล้วก็ราดน้ำซอสมา รสชาติรวม ๆ จานนี้ก็กลาง ๆ อีกแล้ว ตัวผมเองก็กินได้เรื่อย ๆ กินง่ายกินเพลิน เนื้อลูกวัวก็เด้ง ๆ กรุบ ๆ ดี แต่เหมือนกับซอสแอบจะเค็มไปหน่อย แล้วก็ซอสไม่ค่อยหอม หรือว่าเนื้อลูกวัวมันเหม็นก็ไม่รู้ เหมือนจานนี้จะขาดสัมผัสด้านกลิ่นไป (เพื่อนผมที่ไปด้วยกันไม่ค่อยชอบเนื้อลูกวัวบอกว่ากลิ่นแปลก ๆ ) แต่จานนี้ทีเด็ดกลับไม่ใช่ตัวเนื้อลูกวัวแต่เป็นตัว mashed potato ที่แบบทำมาได้อร่อยมาก เนื้อเนียน นุ่ม หวาน อร่อย ประหนึ่งว่าเป็น mash potato ที่น่าจะหาคนทำได้ดีกว่านี้ อร่อยกว่านี้ ยากมาก ๆ ล่ะ
ของหวานของร้าน L'Opera นี้ก็จะทำมาคล้าย ๆ ร้าน Limoncello คือมียกมาให้เลือกเป็นถาด ๆ เลย (หรือว่านี่คือทำเนของร้านอิตาเลียนแท้ ๆ ?) คือบอกตรง ๆ ว่าครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเจออะไรแบบนี้ ซึ่งการทำแบบนี้ผมรู้สึกว่ามันช่วยให้อยากสั่งขนมมากขึ้น, อยากกินมากขึ้น อยากกินมากกว่าสั่งผ่านเมนูเยอะเลย ซึ่งแบบตอนแรกว่าจะสั่งอย่างเดียวก็กลายเป็นสั่ง 2 อย่างไปแทน อืม เป็นกลยุทธ์ที่ดูมีประสิทธิภาพดีนะครับเนี่ย
Tiramisu - 220 บาท - เป็น Tiramisu ที่หน้าตาอาจจะธรรมดาไปหน่อย แต่รสชาตินั้นยอดเยี่ยมครับ อร่อย รสละมุน เนื้อนุ่ม ตัว mascarpone cheese ด้านล่างเหมือนแอบจะเละไปหน่อย แต่โดยรวมก็เป็น tiramisu ที่ยอดเยี่ยม หากินไม่ค่อยได้สักเท่าไรจานนึงเลยล่ะครับ
ของหวานอีกอย่างเป็น Swan bread with vanilla ice cream - 180 บาท อันนี้ออกแนวเหมือนจะมีดีแค่การนำเสนอเท่านั้น รสชาตินั้นค่อนข้างธรรมดามาก ๆ ไม่ว่าจะตัว chux ที่แบบไม่ค่อยกรอบนอกนุ่มในสักเท่าไร ตัวไอศครีมวานิลลาที่ให้มาก็งั้น ๆ รวม ๆ ก้เป็นอะไรที่ธรรมดา ๆ จานนึงจริง ๆ แต่ถ้าให้คน 10 คนมาเลือกของหวานจากถาดของหวานแบบที่ผมโดน ผมว่าอย่างน้อยก็สักครึ่งนึงจะต้องเลือกเจ้าหงส์นี้แหละ เพราะว่ามันน่ากินมาก
สรุป ร้าน L'Opera แห่งนี้ผมก็ค่อนข้างประทับใจในหลาย ๆ อย่างของเค้านะครับ การบริการ, บรรยากาศร้าน ความเป็นมืออาชีพของทางร้านก็สมกับเป็นร้านที่เปิดมา 30 ปี รสชาติอาหารนั้นอาจจะลางเนื้อชอบลางยา แต่มื้อนี้ผมยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไร ชอบของร้าน Rossano's กว่าค่อนข้างชัดเจน แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก อยากมีค่ำคืนดี ๆ สวีท ๆ กับคนรู้ใจ กินอาหารอิตาเลียนรสชาติดี เคล้าไวน์ที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมได้รับการบริการดี ๆ จากพนักงาน และฟังเสียงเพลง Opera เพราะ ๆ ไปด้วย ร้าน L'Opera แห่งนี้ มอบทั้งหมดนี้ให้กับคุณได้ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment