Thursday, February 7, 2013

Wy97 - Asiatique Review

Why 97 - Pub & Restaurant with European and Thai Fusion Food at Asiatique, Bangkok

วาย 97 - ผับ แอนด์ เรสเตอรอนท์ ร้านอาหารยุโรป อาหารไทย ฟิวชั่น ไวน์บาร์ เบียร์สด Asiatique





Overall Score  7/10
Taste   3.5/5
Ambiance  4/5
Service  2/5
Value   3/5

Why 97 - European Pub & Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)



ร้านนามว่า Why 97 (ซึ่งผมก็ลืมถามเหมือนกันว่าทำไมต้อง 97 แห่งนี้) ก็เป็นอีกหนึ่งร้านแนว Pub & Restaurant ที่มีอยู่ค่อนข้างจะหลายร้านในห้าง Asiatique - The Riverfront ห้างที่ concept เก๋ไก๋ และประสบความสำเร็จมากมายบนถนนเจริญกรุง (อีกหนึ่งร้านที่คล้ายกันมากและผมเพิ่งจะมารีวิวไปเมื่อไม่นานมานี้ก็เช่นร้าน Fire & Dine เป็นต้น)

ร้าน Why 97 แห่งนี้ก็เป็นร้านขนาดค่อนข้างใหญ่เหมือนกับร้านอื่น ๆ ใน Asiatique ซึ่งดูเหมือน concept ของร้านอาหารที่จะมาเปิดใน Asiatique แห่งนี้ได้คือจะต้องเป็นร้านใหญ่หน่อย เพราะว่าแต่ละ Unit ของเค้าก็เหมือนกินพื้นที่อดีตโกดังเก็บของไปโกดังนึงนั่นเอง ตัวร้านตั้งอยู่ที่โกดัง 8 มีทั้งส่วนนั่งด้านในแบบ Air Conditioning ที่กินพื้นที่ไปประมาณ 2 ใน 3 ของร้านและส่วน Al Fresco Dining ที่กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของที่เหลือจากที่นั่งประมาณสัก 200 - 300 ที่นั่งของทางร้าน | ร้านตกแต่งแนวยุโรป ๆ แบบ modern ๆ สวยงามพอประมาณ และก็มีวงดนตรีสด และ DJ คอยบรรเลงเพลงทั้งแนวรื่นรมย์ต่อประสาทหูและเพลงตึ๊ด ๆ เล็กน้อยเพื่อกระตุ้นต่อมโยกย้ายส่ายสะโพกของลูกค้าของร้านบ้างสลับ ๆ กันไป วันที่ผมไปเป็นช่วงที่เย็น ๆ ยังไม่ค่ำ ซึ่งร้านเพิ่งจะเปิดทำการพอดี ก็เลยลูกค้ายังไม่เยอะและเพลงที่เปิดก็เลยเป็นเพลงชิล ๆ ทั่วไปแทน ซึ่งถ้าให้เดา ร้านนี้ ณ วันศุกร์ และวันเสาร์ ก็คงจะคนแน่นเต็มทะลักเป็นแน่แท้เพราะแค่วันธรรมดาลูกค้าก็ค่อนข้างจะไม่เบาบางเอาแล้วสำหรับร้าน Why 97 แห่งนี้






อาหารของทางร้าน Why 97 นั้นจะเป็นอาหารแนว European สอดคล้องกับบรรยากาศการตกแต่งของร้าน เคียงคู่ไปกับอาหารไทย อาหารทั้งหลายในเมนูนั้นก็จะมีการ fusion ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกกันพอสมควร ตามประสานร้านแนวใหม่ในยุคปัจจุบันที่จะเน้นอาหารแนว ๆ นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ราคาอาหารของทางร้านก็เป็นราคาค่อนข้างมาตรฐาน 200 - 300 บาทสำหรับอาหารทั่วไป ส่วนพวก Main Course ก็ 500 - 700 บาทโดยประมาณ ไม่ได้มีความโดดเด่นทางด้านราคาอะไรนัก ซึ่งหลัง ๆ มานี้ผมก็ไม่ค่อยจะเจอร้านที่ทำราคาโดน ๆ สักเท่าไร นาน ๆ ทีถึงจะเจอร้านที่เห็นราคาแล้วตกใจในความคุ้ม ซึ่งแน่นอนครับ ไม่ใช่กับร้านช่วงหลัง ๆ นี้เลย เพราะนึกไม่ออกเลยว่าร้านช่วงหลัง ๆ ที่กินมามีร้านไหนบ้างที่ราคามันถูกแบบโดดเด่นจากร้านอื่น

อาหารจานแรกในมื้อนี้เริ่มต้นด้วย ผัดซีฟู้ดสองสหายกับน้ำพริกลงเรือ (Stir-fried Duo-seafood with special Thai shrimp paste (ka-pi) - 260 บาท) ก็เป็นอาหารไทย ๆ ที่มีการเอาเนื้อปลาหมึกและเนื้อไป ไปผัดกับซอสที่รสชาติคล้าย ๆ กะปิ จนออกมาเป็นผัดเผ็ดทะเลอะไรประมาณนั้น รสชาติก็จะไม่เผ็ดร้อนมากนักเมื่อเทียบกับหน้าตาที่เห็น ส่วนตัวรสชาตินั้นก็กลาง ๆ เป็นผัดเผ็ดที่หากินได้ทั่ว ๆ ไปทั้งจากร้านข้างถนน หรือว่าภัตตาคารอาหารไทยทั่ว ๆ ไป






อาหารจานที่ 2 เป็น เส้นแองเจิลแฮร์กุ้งแม่น้ำเสิร์ฟสไตล์ Why97 (Angel hair with river prawns, olive oil, garlic, chillies, white wine : Why97 Style - 490 บาท) จานนี้น่าจะเป็น Flagship menu หรือ Flagship Pasta ของทางร้านไม่มากก็น้อย เพราะมีการเอาชื่อร้านไปใส่ไว้ในเมนู ซึ่งจากหน้าตาที่เห็น ก็น่าจะสมราคาที่เอาชื่อร้านไปใส่จริง ๆ เพราะว่าทำมาได้สวยงามอลังการมาก ๆ โดยเป็นการนำเอากุ้งแม่น้ำตัวขนาดกลาง ๆ ค่อนไปทางใหญ่ ไปควักไส้ออกแล้วเอาเส้น angel hair และเครื่องต่าง ๆ โปะลงไปแทนที่ในตำแหน่งนี้ หน้าตาตอนเห็นแว่บแรกแล้วน่ากินดีมากครับ ส่วนรสชาติพอหลังจากได้ชิมแล้วก็แอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะรสชาติมันเหมือนกับเป็นพาสต้าซอสมะเขือเทศแบบบ้าน ๆ ไม่ได้มีรสชาติอะไรอย่างอื่นเลย แต่ก็เป็นพาสต้าซอสมะเขือเทศที่ทำมาได้ค่อนข้างดี แต่แค่คาดหวังเอาไว้ว่ารสชาติมันควรจะต้องมีอะไรมากกว่ามะเขือเทศแค่นี้สิอะไรแบบนั้น

อาหารจานที่ 3 เป็น สลัดปูนิ่ม (Soft Shell Crab Salad - 320 บาท) จานนี้ค่อนข้างประทับใจในแว่บแรกอีกแล้ว เพราะปูนิ่มที่ถูกทอดและห่อแป้งมาและนำมาวางบนจานและเสิร์ฟพร้อมสลัดผักจานใหญ่จานนี้นั้นเป็นปูนิ่มที่ตัวใหญ่มาก น่าจะเป็นปูนิ่มแบบทั้งตัวที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยก็ว่าได้ ใหญ่จนเกือบ ๆ จะเป็นปูม้าขนาดตัวไม่ใหญ่มากอะไรประมาณนั้นเลย ซึ่งพอปูมันตัวใหญ่ เนื้อหนังมังสาของมันก็เลยค่อนข้างเยอะ บวกกับการทอดมาจนกรอบกำลังดี ปรุงรสมาด้วยซอสเล็กน้อยให้พอเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ จานนี้ก็เลยเป็นจานที่จัดได้ว่าอร่อยมากทีเดียว และก็ค่อนข้างคุ้มค่าดีด้วย เพราะช่วงหลัง ๆ ที่กินมา เมนูอะไรก็ตามที่มีคำว่าปูนิ่มประกอบอยู่ ก็มักจะราคาประมาณนี้กันทั้งนั้น แต่จะได้ปูนิ่มที่ตัวเล็กกว่านี้สัก 1 ใน 3 เป็นอย่างน้อยแทน จานนี้เจ๋งดีครับ






อาหารจานที่ 4 เป็น ขาแกะอบซอสพะโล้ (Roasted lamb shank in Thai "Paloe" Sauce - 350 บาท) จานนี้เหมือนถูกหลอกจากหน้าตาในเมนูที่หน้าตาน่ากินมาก ๆ ครับ พวกผมสั่งเมนูนี้ไปเพราะว่าเห็นหน้าตาในเมนูที่แสนจะน่ากินและอลังการจริง ๆ แต่พอเห็นของจริงแล้ว มันก็คือสตูว์ขาแกะแบบบ้าน ๆ แค่นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ส่วนรสชาตินั้นก็ไม่รู้ทำไมทางร้านถึงตั้งชื่อว่าซอสพะโล้ เพราะพอกินแล้ว มันไม่เห็นจะมีความเป็นพะโล้สักเท่าไรเลย ออกแนวเป็นซอสสตูว์ ซอสแบบฝรั่ง ๆ ธรรมดามากกว่า รสชาติของเนื้อแกะก็เหมือนกับว่าจะยังตุ๋นมาซอสไม่เข้าเนื้อมาก เนื้อด้านนอก ๆ กับเนื้อด้านในคนละรสชาติกัน แต่โดยรวมแล้วถ้าไม่คิดมากอะไร คิดว่าสั่งขาแกะไปขานึงในราคา 350 บาท เอามากินเล่น ๆ ก็ถือว่าคุ้มอยู่อะไรอยู่นะครับ (หลาย ๆ ร้านที่กินมาถ้าเป็นขาแกะทั้งขาแบบนี้ก็จะราคา 600++ บาทกันขึ้นไปแทบทั้งนั้น)

อาหารจานที่ 5 และจานสุดท้ายเป็น ฉู่ฉี่ปลาแซลมอน (Salmon fillet in Thai red curry sauce - 320 บาท) จานนี้ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะบ้าน ๆ หน่อย คือเป็นแค่ Fillet ปลาแซลมอนที่หน้าตาและรูปร่างกำลังดี เอาไปทอดมาจนพอสุก และหนังด้านนอกเกรียม ๆ พอสมควรแล้วก็ราดมาด้วยซอสฉู่ฉี่ให้ออกมาเป็นอาหารสไตล์ไทย ๆ ขึ้นมา จานนี้ทำมาได้ดีเกือบดีมากเลยครับ ซอสฉู่ฉี่รสชาติยอด บวกกับเนื้อปลาแซลมอนที่ค่อนข้างสดและทอดมาเกรียม ๆ กำลังดี เป็นจานตบท้ายที่ค่อนข้างประทับใจเลย









จริง ๆ แล้วร้านแนว Pub & Restaurant หรือ Wine Bar ในยุคนี้ ก็มักจะมีเครื่องดื่มเก๋ ๆ ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นเองไว้คอยบริการลูกค้าอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ร้านไหนที่ไม่มีจะกลายเป็นเรื่องแปลกไปแทน ซึ่งของร้าน Wh 97 แห่งนี้ผมก็ได้ลองไปสองอย่าง อย่างแรกเป็น Cocktail เรือธงของทางร้านนามว่า K&B "Two for the road" - 590 บาท ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรมาก แต่ก็น่าจะมี มะนาว, vodka อะไรประมาณนี้เป็นหลัก cocktail ชุดนี้ (ต้องเรียกว่าชุด) เรียกได้ว่าเจ๋งมากครับ ทั้งรูปแบบการนำเสนอที่ใส่มาในกล่องน้ำแข็ง และกินแต่ละแก้วก็เทใส่จอกกินเอา และรสชาติของมันที่แบบอร่อยอ่ะ อร่อยจนแบบสมแล้วที่ทางร้านตั้ง cocktail นี้เป็น flagship ของทางร้าน ส่วนเครื่องดื่มอีกแก้วนั้นเป็น Pink Panther's - 160 บาท เป็น Mocktail ที่ทั้งหน้าตาและรสชาติคล้าย ๆ น้ำพันช์ที่มีขายกันอยู่ทั่วไปตามร้านต่าง ๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมาก เหมือนกินเอาความสวย กินเอาความเบา ๆ หวาน ๆ เล็กน้อย ให้ไม่เหมือนกับกินน้ำหวานทั่วไปตามท้องตลาดก็แค่นั้น

สรุป ร้าน Why 97 นี่ก็เป็นร้านที่ถือว่าเป็นร้านที่ค่อนข้างจะโอเคล่ะครับ ทั้งบรรยากาศร้าน (โดยเฉพาะการนั่งด้านนอกชิลมาก) , อาหารของร้าน และราคาอาหารที่ไม่ค่อยแพงสักเท่าไร แต่ว่าสิ่งนี้ที่ผมคิดว่าควรต้องปรับปรุงก็คือเรื่องการบริการครับ เพราะการบริการมั่วมาก ๆ ไม่เป็นระเบียบและขาดตกบกพร่องเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าปรับปรุงตรงจุดนี้ได้ร้านนี้ก็จะกลายเป็นร้านที่ดีร้านนึงเลยทีเดียว ใครที่มา Asiatique นี่ตอนนี้ก็คงจะปวดหัวในการเลือกร้านแนวนั่งชิลกันหน่อยละครับ เพราะว่าร้านมันเยอะเหลือเกิน และหลาย ๆ ร้านก็คล้าย ๆ กันไปหมด เป็นแนวอาหารฝรั่ง ๆ กันไปซะหมด ส่วนตัวผมก็จะค่อย ๆ ทยอยไล่กินไปเรื่อย ๆ จนครบล่ะครับ แต่เห็นจำนวนร้านแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรจะครบ เฮ้อ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment