เสน่ห์ปลายจวัก ร้านอาหารไทย พระราม 9 ซอย 41
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 3/5
Service 4/5
Value 4/5
เสน่ห์ปลายจวัก - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้าน เสน่ห์ปลายจวัก ในรีวิวฉบับนี้ก็เป็นภัตตาคาร/ร้านอาหารไทย ร้านนึงบนซอยพระราม 9 ซอย 41 ซอยด้านหลังห้าง The Nine และเนื่องด้วยซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อไปยังรามคำแหงซอย 24 ด้านหลังรามด้วยรึเปล่าไม่รู้ก็เลยทำให้ในซอยนี้มีร้านอาหารตั้งตัวกันอยู่ค่อนข้างเยอะเลย คือเมื่อก่อนผมขับรถผ่านซอยนี้ค่อนข้างบ่อยจำได้ว่า ร้านอาหารมันก็ยังไม่ได้เยอะอะไรขนาดนี้ แต่อย่างวันที่ไปกินร้านนี้ ก่อนหน้าที่จะไปก็ได้ขับรถสำรวจ ๆ ร้านอาหารต่าง ๆ ในซอยนี้ไปจนเกือบจะสุดหลังราม ก็พบว่า เดี๋ยวนี้ ซอยนี้มันแบบร้านอาหารเยอะจริง ๆ ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ปากซอยที่มีห้าง The Nine, กลาง ๆ ซอย, ปลาย ๆ ซอย หรือแม้แต่ในซอยเล็ก ๆ แยกย่อย ๆ ของซอยพระราม 9 ซอย 41 ก็ยังมีร้านอาหารซ่อนตัวอยู่อีกหลายร้านเลย โอว คนที่พักอยู่ในละแวกหมู่บ้านเสรีนี่แบบ สบายไปเลยนะครับ อยากจะกินอะไรก็ไม่ต้องไปไหนกันไกลเลยเดี๋ยวนี้
ร้าน เสน่ห์ปลายจวัก ร้านนี้ ก็เป็นร้านอาหารไทยที่ไม่ได้อะไรมากล่ะครับ ทั้งเรื่องบรรยากาศและตัวอาหาร บรรยากาศของทางร้านก็จะแบ่งเป็น 2 zone โซนห้องแอร์ กับโซน open-air และก็ตกแต่งร้านแบบง่าย ๆ ไม่ได้อะไรมาก เป็นเหมือนร้านอาหารไทยระดับกลาง ๆ ที่เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปอะไรประมาณนั้น ส่วนตัวอาหารของางร้าน ก็บ้าน ๆ พบเจอได้ตามร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ทั่วไปเช่นกัน ทั้งในด้านราคา, ความหลากหลายของตัวรายการอาหาร หรืออะไรต่าง ๆ คือแบบ ทุกอย่างของร้านนี้ เป็นองค์ประกอบของร้านอาหารไทยทั่ว ๆ ไป ที่ถ้าให้เราหลับตาเดินทางเข้าไปในร้าน แบบไม่รู้ชื่อร้าน ก็คงจะเจอร้านแนว ๆ นี้อยู่เยอะแยะมาก ๆ ล่ะครับ
อาหารในมื้อนี้อย่างแรกเริ่มต้นด้วย แกงป่าไก่ (Spicy curry country style with chicken - 120 บาท) แกงสุดโปรดรสจัดจ้านของผมและเพื่อน ๆ ตัวแกงป่า ของร้าน เสน่ห์ปลายจวักนั้นทำมาแบบน้ำไม่ได้ข้นคลั่กอะไรมาก เป็นกึ่ง ๆ น้ำใส ๆ แต่ก็ยังมีการใส่ตัวเครื่องเทศ, สมุนไพรมาจนล้น ๆ จานตามประสาแกงป่าที่ควรจะเป็น ตัวรสชาติน้ำซุปนั้นโอเคเลย เผ็ด ร้อน อร่อยกำลังดี กินแล้วไม่ต้องซีดซ้าด หรือสลับระหว่างกินน้ำซุปกับน้ำเปล่ามากนัก กินเปล่า ๆ ก้อร่อยหรือจะกินกับข้าวสวยก็เยี่ยมครับถ้วยนี้
อาหารอย่างที่ 2 เป็น ปลาคังผัดคื่นช่าย (120 บาท) คือผมเองก็ไม่เคยกินนะครับ ปลาคัง เอามาผัดคื่นช่าย ส่วนใหญ่ที่กินมาก็จะเป็นแต่ปลากะพงแค่นั้น ซึ่งพอแบบเปลี่ยนเป็นปลาคังแล้วมันก็เหมือนจะอร่อยขึ้นนะครับ เพราะตัวปลาคังก็เป็นปลาที่แบบมีมันเยอะกว่า, เนื้อเด้งกว่าปลากะพงอยู่แล้ว และแบบทางร้าน เสน่ห์ปลายจวักก็ทำมาได้ไม่มีอะไรจะต้องติครับ ปลามาแบบผิวนอกกรอบ ๆ เกรียม ๆ เล็กน้อย และก็รสชาติการปรุงการผัดก็ทำมาได้ดี จานนี้เป็นอีกจานที่ค่อนข้างโอเคเลย (ตัวเมนูปลาคังของร้านนี้นั้น หน้าตารายการเมนูเหมือนกับร้าน อีสานเฮาส์ ในซอยบ้านผมเลย ผมก็เลยเดาว่า ตอนนี้มันมี distributor เจ้านึงที่แบบนอกจากจะส่งปลาคังแล้ว ยังมีบอกสูตร, บอกวิธีทำปลาคังแบบต่าง ๆ ให้ทางร้านด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นที่มาที่แบบกินเมนูปลาคังของ 2 ร้านนี้แล้วแบบเออ มันอร่อยกว่าที่คิดแฮะ เพราะน่าจะเป็นเมนูที่ผ่านการลองผิดลองถูกมาจากตัว distributor มาแล้วก็เป็นได้)
อาหารอย่างที่ 3 เป็น เนื้อปูผัดผงกะหรี่ (Stir-fried crab meat with curry powder - 150 บาท) จานนี้อย่างแรกที่โดดเด่นเลยก็น่าจะเป็นเรื่องราคา คือผมไม่แน่ใจว่าราคานี้นี่มันจะเรียกว่าถูกมาก ๆ แต่ช่วงหลัง ๆ ที่กินมา ที่เจอมาก็มักจะเจอมี 250 ขึ้นทั้งนั้น ทีนี้ก็เหลือแต่ว่ามันจะเป็นเนื้อปูจริง ๆ หรือว่าเป็นวิญญาณปูแทน ซึ่งพอทางพนักงานยกจานมาก็อืม ถึงว่ากึ่ง ๆ ครับพอมีเนื้ออยู่บ้าน (มีก้อนใหญ่ ๆ เป็นดุ้น ๆ หลุดมา 2 ก้อนด้วย) ตัวรสชาติจานนี้ก็มาตรฐานครับ ตามที่อะไรก็ตามผัดผงกะหรี่มันควรจะเป็น ไม่ได้แบบฟองอร่อย นุ่ม เว่อร์เหมือนร้านจีนเทพ ๆ บางร้าน แต่ก็ดีกว่าร้านอาหารไทย-ทะเล หลาย ๆ ร้านที่บางร้านทำมาแบบเฮงซวยกว่านี้เยอะมาก
อาหารอย่างที่ 4 เป็น ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (Stir-fried chicken with cashew nuts - 100 บาท) จานนี้ทำมาได้ดีกว่ามาตรฐานนิดนึงครับ กินแล้วรู้สึกชอบพอสมควร แต่เหมือนหลัง ๆ จากเพิ่งไปกินไก่ผัดเม็ดมะม่วงแบบเทพ ๆ มาที่ร้านนึง ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่าร้านอะไรแต่ของ เสน่ห์ปลายจวัก นี่ก็โอเคเลยล่ะครับ
จานที่ 5 เป็น ผักบุ้งเสวย (Stir-fried morning glory - 90 บาท) จานนี้ถือว่าทำได้เจ๋งมากครับ แปลกแหวกแนวดีคือมีการเอาผักบุ้งมาผ่ากลาง มาตัดให้เป็นใบเล็ก ๆ เรียว ๆ ขึ้น ทำให้แต่ละคำที่กินเข้าไปมันได้ texture ที่ไม่ค่อยเหมือนผักบุ้งเท่าไร จะไปคล้าย ๆ กับพวกกุยช่ายขาวซะมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่กุยช่ายขาวซะทีเดียว ยังคงมีความเป็นผักบุ้งอยู่บ้างอะไรบ้าง ส่วนการปรุงนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับ เอาไปผัดน้ำมันหอยมาเฉย ๆ ซึ่งโดยรวม ๆ แล้วก็เป็นรสชาติที่กลาง ๆ ขึ้นมาทางเหนือมาตรฐานเล็กน้อย หมายเหตุ เพื่อนผมบอกว่าที่อเมริกานั้นจะไม่มีการขายผักบุ้งทั้งในร้านอาหารหรือใน Grocery Store เลยเนื่องจากว่าเป็นผักที่สกปรก มีหนอน, มีแมลงอยู่ด้านในก้านเยอะ ทางอเมริกาเลยห้ามขาย ซึ่งเพื่อนผมไม่รู้ว่าการที่ทำแบบผ่าก้านออกมาแบบนี้เพื่อที่ผักบุ้งจะได้สะอาดอะไรขึ้นรึเปล่า เผื่อว่า FDA ของอเมริกามาที่ร้านพอดีจะได้เปลี่ยนใจอนุญาตให้ผักบุ้งขายที่อเมริกาได้ (ว่าไปนั่น)
จานที่ 6 และจานสุดท้ายเป็น ส้มตำทะเล (Papaya salad with seafood - 100 บาท) จานนี้ก็ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ ให้พวกเนื้อ seafood มาค่อนข้างเยอะสมกับชื่อเมนู, ตัวมะละกอ หรือผักต่าง ๆ ก็สดดี และปราณีตในการทำมาดี ส่วนฝีมือการปรุงก็ทำมาได้เผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ นัว ๆ กำลังดีตามประสาส้มตำที่ควรจะเป็นจานนึง จานนึงโอเคเลยเมื่อคิดว่าเป็นส้มตำในร้านอาหารไทย ไม่ใช่ร้านอาหารอีสาน เพราะส่วนใหญ่ สั่งส้มตำในร้านอาหาร upscale ที่ไม่ใช่ร้านอาหารอีสานทีไรก็มักจะ fail ทุกที แต่กับจานนี้นี่ไม่ fail เลยครับ
สรุป ร้าน เสน่ห์ปลายจวัก - ร้านอาหารไทยแบบเรียบง่าย ๆ บน ซอยพระราม 9 ซอย 41 นี่ก็เป็นร้านอาหารไทยที่โอเคร้านนึงเลยล่ะครับ อาหารทุกอย่างรสชาติกลาง ๆ ค่อนไปทางบวก, ราคาอาหารก็ไม่แพง และบรรยากาศร้านก็ไม่ได้คึกคักอะไรมาก ไม่ต้องมานั่งรำคาญเสียงดัง ๆ ของร้านแนว ๆ นี้ที่ลูกค้าคับคั่ง คึกคักกว่านี้ ใครที่อยู่แถวพระราม 9 แล้วเบื่อ ๆ อาหารไทยฝีมือบ้านตัวเอง ก็ลองมาแวะเวียน ลิ้มลองร้านนี้กันได้เลยนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment