Tong Lai Shun - Beijing Chinese Restaurant at Sukhumvit 41, Bangkok
Overall Score /10
Taste /5
Ambiance /5
Service /5
Value /5
Tong Lai Shun - Beijing Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ถ้าพูดถึงร้านอาหารจีนในบ้านเราแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารอาหารสไตล์แต้จิ๋ว หรือไม่ก็กวางตุ้ง (Cantonese) ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาหารจีนนั้นมีแบ่งออกเป็นอีกหลายประเภท เช่น ปักกิ่ง, เสฉวน, ยูนาน หรือ ฟูเจี้ยน ซึ่งความนิยมของอาหารแต้จิ๋วในบ้านเรานั้น ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะคนไทย-จีนในบ้านเรานั้นเป็นคนแต้จิ๋ว อาหารแต้จิ๋วก็เลยได้รับความนิยมเป็นหลัก ส่วนตัวอาหารกวางตุ้งนั้นก็เนื่องจากเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเพราะต้นกำเนิด หรือภูมิภาคที่ทำอาหารประเภทนี้ก็คือย่านฮ่องกง, กวางเจา ที่แบบเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเอเชียมาหลายร้อยปี รีวิวฉบับนี้ก็จะพาไปกินร้านอาหารจีนสไตล์ลูกเมียน้อยกันบ้างกับอาหารจีสไตล์ปักกิ่งที่ร้าน ตงไหลชุ่น สุขุมวิท 41!
ร้านนี้ตั้งอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ด้านหลัง Tops Supermarket ปากซอย ตรอกซึ่งเอาจริง ๆ แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นตรอกของคนญี่ปุ่นอีกหนึ่งตรอก (ตรอกอื่น ๆ ก็เช่นตรงซอยสุขุมวิท 26 หรือว่าตรงซอยธนิยะนั่นก็ใช่ เรียกได้ว่าญี่ปุ่นนี่ครองเมืองจริง ๆ ครับช่วงนี้) เพราะว่านอกจากร้าน ตงไหลชุ่นร้านนี้แล้ว ร้านอื่น ๆ ในซอยนี้จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแทบทั้งหมด ถ้าใครขับรถไปก็จอดรถได้ที่ Tops ปากซอยเลยครับ กินเสร็จก็เอาบัตรจอดรถไปปั๊มที่เคาน์เตอร์ได้เลยไม่ต้องซื้ออะไร เพราะผมทำแบบนี้มาหลายทีล่ะ พนักงานไม่เคยสนใจอะไรผมเล้ย!
ผมไปถึงร้านนี้ตอนวันอาทิตย์เย็น ๆ พอเข้าไปในร้านก็ถึงกับตกใจในความหนาแน่นของลูกค้า คือแบบลูกค้านั่งกันเต็มทุกโต๊ะ ทุกโต๊ะจริง ๆ จนผมไม่มีโต๊ะนั่งต้องรอคิวสักพักให้มีคนเช็คบิลผมถึงจะได้นั่ง และที่น่าประหลาดอีกอย่างนึงก็คือลูกค้าเป็นคนญี่ปุ่นสัก 80% คือแบบ เฮ้ย ร้านนี้มันก็ออกจะจีนจ๋าขนาดนี้ ไม่ว่าจะตัวอาหาร, ตัวเด็กเสิร์ฟนำเข้ามาจากแผ่นดินใหญ่, ตัวเจ้าของร้านที่เป็นอาซิ้มที่สุดแสนจะจีน (ตอนได้ใบเสร็จเขียนเป็นตัวอักษรจีนหมดเลย) ก็เลยงงว่าไฉนคนญี่ปุ่นถึงได้เยอะขนาดนี้ในร้านนี้ (หรือว่าจริง ๆ แล้วในย่านนี้คนญี่ปุ่นจะยึดทุกร้านไปแล้ว -*-) ร้านนี้ก็เป็นร้านห้องแถวขนาด 2 คูหา ตกแต่งสไตล์บ้าน ๆ เหมือนร้านอาหารจีนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ใช่ร้านเหลา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ และการตกแต่งก็เรียบง่าย ๆ แค่เอาโต๊ะมาวาง ๆให้ชิดผนัง แล้วก็ติดรูปจีน ๆ นิดหน่อยแค่นั้นก็จบล่ะครับ
อาหารของร้านนี้บอกตรง ๆ ว่าผมไม่รู้หรอกว่าอาหารปักกิ่งแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร แต่หลังจากที่ดูเมนูอาหารของร้านนี้แล้ว อาหารมันช่างเหมือนกับร้าน เกี๊ยวเหลียวหนิง, เกี๊ยวจีน อะไรพวกนั้นเหลือเกิน คือมันเป็นอาหารจีนแบบที่ไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไร และก็เป็นอาหารจีนแบบง่าย ๆ เอามาคลุก ๆ , ผัด ๆ ยำ ๆ เข้าด้วยกันก็จบอะไรแบบนั้น สนนราคาอาหารของร้านนี้ก็จัดได้ว่าค่อนข้างถูกมากครับ อาหารหลาย ๆ อย่างอยู่ที่ประมาณ 100 บาท จะมีพวกที่มีเนื้อเยอะ ๆ หน่อยก็จะเขยิบไป 200 บาท และก็ทางร้านไม่มี vat + service charge อีกต่างหากเลยยิ่งทำให้ถูกเข้าไปใหญ่ อ้อ รายการอาหารของร้านนี้เค้าเยอะมากครับ หรืออาจจะไม่เยอะก็ไม่รู้ แต่คือทุกเมนูจะมีรูปหมด หน้าคู่หน้านึงก็มีแค่ 4 รายการ ผมถ่ายไปได้สัก 10 หน้าก็เริ่มขี้เกียจถ่ายเพราะว่ามันเยอะเกิน เอาเป็นว่ารวม ๆ แล้วราคาอาหาร, รายการอาหารก็ไม่หนีจากที่ถ่าย ๆ รูปมาสักเท่าไรล่ะครับ
จานแรกในมื้อนี้เริ่มต้นด้วย ยำฟองเต้าหู้ 80 บาท (Bean milk cream in onion oil - 80 บาท) เป็นครั้งแรกที่ได้กินอาหารจานนี้ก็ว่าได้สำหรับผม ก็เป็นอะไรที่เรียกน้ำย่อยดีครับ ฟองเต้าหู้มาแบบบาง ๆ เย็น ๆ คลุกมากับหัวหอม และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเรียกว่ายำ เพราะว่ามันไม่เผ็ดเลย มีแต่ความจืดและความมัน หรือเพราะว่าแค่การเอาอะไรมาผสม ๆ เข้าด้วยกัน พี่แกก็เรียกมันว่ายำแล้ว? จานนี้กินเพลิน ๆ รสชาติไม่ได้ดีเด่อะไร เป็นประมาณเหมือน ผักดอง, ของดองที่เสิร์ฟให้กินฟรี ๆ ตามร้านอาหารจีนทั่วไปครับ (แค่อันนี้เสียตังค์)
จานต่อมาเป็น เกี๊ยวนึ่ง (Steamed minced pork in paste - 80 บาท) หรือเกี๊ยวทอด ผมไม่แน่ใจ คือดูแล้วเหมือนมันทอด แต่พอกินแล้วก็เหมือนมันนึ่ง หรือมันคือเกี๊ยวทอดนึ่งก็ไม่รู้ครับ จานนี้ก็ธรรมดา ๆ เหมือนกินเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่นกับเกี๊ยวจีนผสม ๆ กันครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น อาจจะมีที่โดดเด่นก็คือเรื่องราคาที่แบบคุ้มค่าเหลือเกิน คือตกแล้วชิ้นละแค่ 9 บาทเท่านั้น!
จานต่อมาเป็น เนื้อเส้นผัดพริก (Stir-fried chilli beef - 220 บาท) จานนี้หน้าตาตอนแรกให้อารมณ์คล้าย ๆ เนื้อเก้งผัดพริกที่ผมเคยกินบ่อย ๆ แต่เปลี่ยนจากเนื้อเก้งเป็นเนื้อวัวแทน จานนี้ก็ทำมาได้ดีครับ กลิ่นกระเทียมกับพริกไทยแรงดี กินไปแต่ละคำนี่ขึ้นจมูก ๆ ตลอด และก็มีความเผ็ดจากพริกชี้ฟ้าที่ใส่มาลงด้วยเพิ่มความเผ็ดขึ้นไปอีกนิด ตัวเนื้อก็แบบกินแล้วต่างจากกินเนื้อเป็นชิ้น ๆ ดีครับ อร่อยไปอีกแบบ จานนี้ผมค่อนข้างชอบเลยล่ะ
จานต่อมาเป็น ยำไข่เยี่ยวม้า (Preserved egg in ginger sauce - 120 บาท) ได้ไข่เยี่ยวม้ามาทั้งหมด 12 ซีก กับราคาแค่นี้ผมว่าค่อนข้างถูกเลยนะ เพราะแบบถ้าไปกินร้านอาหารโจ๊กข้างทางส่วนใหญ่แล้วสั่งไข่เยี่ยวม้าเพิ่ม ก็จะได้ไข่เยี่ยวม้ามาประมาณ 2 ซีกแล้วก็จ่ายเงินเพิ่มไป 15 - 20 บาท ก็เหมือนกับไข่ของร้าน ตงไหลชุ่น นี่ราคาเท่าร้านข้างทางเลยก็ว่าได้! รสอันนี้ก็โอเคเลยครับ ไข่มาแบบเย็นเกือบ ๆ เย็นเฉียบ แล้วก็น้ำยำก็แบบเปรี้ยว ๆ ดี ไปตัดกับความมันของไข่เยี่ยวม้า จานนี้ตอนแรกก็กลัว calories, cholesterol อยู่หรอกครับ แต่แบบกินแล้วมันอร่อย กินแล้วมันเพลินเหลือเกิน ผมก็เลยซัดไปคนเดียวซักครึ่งจานได้
จานที่ 5 นั้นเป็น หมูสามชั้นนึ่งใส่ผัก (Steamed pork with preserved vegetable - 220 บาท) จานนี้ก็เป็นอะไรที่มีให้กินในร้านข้าวต้มกุ๊ย หรือร้านอาหารจีนแต่จิ๋วทั่ว ๆ ไป จานนี้น่าจะเป็นจานที่อร่อยที่สุดในมื้อจากเสียงโหวตของคนบนโต๊ะครับ หมูเนื้อนุ่ม มัน เค็มอร่อย แต่หมูที่ว่าอร่อยแล้วก็แพ้ผักอะไรไม่รู้จีน ๆ ที่ถูกหมูทับอยู่ด้านล่าง ผักอร่อยมากครับ อร่อยจนอยากจะบอกทางร้านว่าขอแค่ผักไม่เอาหมูจานละเท่าไรเลยก็ว่าได้ ชอบจริง ๆ จานนี้ อยากไปกินอีก
ส่วนจานสุดท้ายนั้นก็เป็น ยำผักปวยเล้ง (Spinach salad in sesame oil - 120 บาท) จานนี้ก็ไม่อะไรมากครับ แพงเกินราคาด้วย (เมื่อเทียบกับจานอื่น) เพราะมีแต่ผักปวยเล้ง, แครอท และถั่วงอกเท่านั้น (ต้นทุนน่าจะสัก 20 บาทเต็มที่) ก็เป็นผักยำ ๆ มาคล้าย ๆ ผักยำเกาหลีครับ เย็น ๆ มัน ๆ กินได้เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้กินแล้วติดใจอะไร
สรุป ร้าน ตงไหลชุ่น นี่ผมก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกค้าถึงเยอะ แน่นเต็มร้าน เพราะว่าอาหารของเค้านั้นแต่ละจานถือว่าทำมาได้รสชาติค่อนข้างดีเลย แต่เอาจริง ๆ แล้วรสชาตินั้นยังไม่สุดเท่าไร ยังไม่โดนใจผมและครอบครัวมากนัก แต่กับราคาที่จ่ายไป จานละ 100 บาทโดยเฉลี่ยแค่นี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่อร่อยเกินราคาครับ ร้านนี้ผมว่าผมคงจะมาซ้ำเวลาเบื่ออาหารจีนแบบที่มีเกลื่อนกลาดอยู่ในกรุงเทพ เพราะเท่าที่กินอาหารจีนแนวที่ไม่ใช่ cantonese หรือ แต้จิ๋ว มาหลายร้าน ร้านนี้โดนใจผมที่สุดล่ะ!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment