Wednesday, December 5, 2012

Zuma St. Regis Bangkok Review

Zuma at St. Regis Bangkok Hotel, Contemporary Japanese Izakaya Restaurant




Overall Score  9.5/10
Taste   5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   4/5

Zuma - Izakaya Restaurant on BumRes.com (menu with price and more photos)



ร้าน Zuma นี้ก็เป็นการมาครั้งที่ 2 ของผมล่ะ คราวที่แล้วที่มานั้นมาตอนร้านเพิ่งเปิดใหม่ ๆ และมากิน Set lunch ของทางร้าน มื้อนั้นจำได้ว่าประทับใจในทุกอย่างของทางร้านนี้ ไม่ว่าจะบรรยากาศที่แบบใหญ่โต อลังการ และสวยงาม, การบริการที่ยอดเยี่ยมสมกับที่เป็นร้านอยู่ในโรงแรมระดับ 6 ดาว รวมถึงรสชาติอาหารที่แบบเป็น set lunch ที่ดีเกินกว่า set lunch มาก ๆ น่าจะดีที่สุดที่ผมเคยกินมาใน set lunch ของห้องอาหารญี่ปุ่น หรืออาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ และหลังจากจบมื้อนั้นก็ได้ตั้งใจว่าจะมาลองจัดเมนูมื้อเย็นของร้านนี้เค้าสักหน่อย อยากรู้ว่ามันจะเทพเหมือน set lunch มั้ย ซึ่งตามความน่าจะเป็นแล้วมันก็ควรจะดีกว่า ส่วนผลลัพธ์นั้นเป็นอย่างไร? ลองอ่านต่อไปอีกนิดนะครับ

ระยะห่างระหว่างการมาครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ของผมกับร้าน Zuma - St. Regis นี่ก็น่าจะประมาณสักเกือบ ๆ ปีได้ครับ ผ่านมาเกือบ ๆ ปีร้านไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก สิ่งที่สังเกตเห็นชัดเจนอย่างนึงคือ โต๊ะแต่ละโต๊ะตอนนี้มีฉากกั้นแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมมา มันก็แบบ แอบรู้สึกว่าโต๊ะมันติดกันเกินไปไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไร ซึ่งอาจจะมีลูกค้าบ่นทางร้านก็เอาฉากมาวางกั้นต่อ ส่วนที่นั่งด้านนอกที่ตอนแรกผมนึกว่ามันเป็นที่นั่งแบบ outdoor เฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วทางร้านมีการฝังแอร์ไว้ตามผนังหินด้วย เวลานั่งข้างนอกก็เลยไม่ได้ร้อนอะไรนัก (ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้ว่ามาติดทีหลังรึเปล่า แต่เหมือนว่ามาตอนนั้นก็ไม่ได้ถาม เพราะแบบแอร์มันซ่อนอยู่ในหินแบบเนียนมากครับ) ส่วนเรื่องการบริการมางวดนี้ก็ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม หรือเผลอ ๆ จะดีกว่าเดิมอีกก็ว่าได้ ประทับใจมาก ๆ ครับ

มาเข้าเรื่องอาหารกันเลย เมนู ณ วันที่ไปครั้งที่ 2 นี้ยังคงเหมือนเดิมเหมือนเมื่อเกือบ ๆ ปีที่มาครั้งแรกครับ เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบครบเครื่องมีครบทุกหมวดหมู่ที่อาหารญี่ปุ่นพึงมี แม้ว่าร้าน Zuma นี้จะตกแต่งร้านเป็นแนว Modern ๆ (ร้านนิยามตัวเองว่า Modern Izakaya) แต่แบบเชฟใหญ่ชาวเยอรมันบอกว่าอาหารของเค้าไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น Fusion แต่อย่างใด เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ จาก 6 จานที่ผมสั่งมาแม้ว่าหน้าตามันจะดูแบบล้ำสมัย Fusion ๆ มา แต่รสชาติมันเป็นอะไรที่ญี่ปุ่นมาก ๆ คือแบบรสชาติแบบเน้นวัตถุดิบ แบบกินแล้วมันรู้สึกได้ว่ามันคืออาหารญี่ปุ่นอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ อ้อ ทางร้านมีเมนูใหม่เพิ่มขึ้นมาหน้านึง (4-5 อย่าง) จากครั้งแรกที่ผมมาครับ เห็นเชฟบอกว่า เมนูจะมีการคิด รังสรรค์อยู่เรื่อย ๆ มีการแชร์เมนูกันระหว่างสาขาต่าง ๆ 6 สาขาของทางร้าน อันไหนขายดีที่สาขานึงก็ยกมาขายอีกที่สาขานึงด้วย อะไรประมาณนี้ อาหารของร้าน Zuma แต่ละจานเค้าก็เลยแบบค่อนข้างจะเข้มงวดเล็กน้อยกว่าที่จะเอามาใส่ในเมนูได้ แต่ว่าอาหารก็มีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบและรสชาติเล็กน้อยให้เข้ากับคนท้องถิ่นด้วยเช่นกัน







อาหารอย่างแรกในมื้อนี้คือ เนื้อทาทากิแล่บางราดด้วยซอสยูซูโคชู (Gyo no tataki - seared beef with citrus soy dressing - 550 บาท) จานนี้เห็นทางร้านบอกว่าใช้เนื้อ Wagyu ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้นเพราะว่าราคาแพงเหลือเกิน จานนี้หน้าตาสวยงามดีครับ เนื้อมาแบบสีสวยมาก ๆ ชมพูระเรื่อมาเลย แต่ว่าตัวรสชาติมันเหมือนจะไร้รสชาติไปหน่อยครับ ตัวซอสที่ราดมามันแทบจะไม่มีรสเลย ส่วนตัวเนื้อมันก็บางเกิน และเป็นส่วนที่ไม่ได้ติดมัน หรือมีมันเยอะอะไร กินไปแต่ละคำมันเลยไม่ค่อย juicy เท่าไร จานนี้ก็เป็นอาหารเบา ๆ เหมาะแก่การเปิดประเดิมมื้ออาหารที่ดีครับ

ส่วนอาหารอย่างที่ 2 ก็คล้าย ๆ กับอย่างแรกเป็น ปลาทูน่าทาทากิหมักด้วยหอมแดงและพริกพอนซู (Maguro no tataki to ponzu - seared yellowfin tuna with marinated red onions and chilli ponzu - 580 บาท) จานนี้หน้าตาคล้าย ๆ กับอย่างแรกเนื่องด้วยสีของเนื้อที่มาแบบชมพูระเรื่อคล้าย ๆ กันและ sear ที่ผิวมาเหมือน ๆ กัน แต่จานนี้อร่อยกว่าจานแรกอย่างมีนัยสำคัญครับ เพราะแบบซอสจานนี้รสชาติดีมากครับมาแบบเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ถูกปากคนไทยดีแท้ แล้วก็เนื้อปลาทูน่า (แม้ว่าจะ Yellowfin ก็ตาม) มันเป็นเนื้อที่เหมาะแก่การมาแล่บางมากกว่าเนื้อวัวนะ เพราะแบบแม้ว่ามันจะเป็นเนื้อ lean ๆ เหมือนกันแต่ว่ามันอร่อยกว่า จานนี้เยี่ยมเลย

อาหารอย่างที่ 3 เป็น ข้าวห่อสาหร่ายรวมมิตรปลาสไตล์ซูม่า (Zuma chirashi maki - salmon, hamachi and seabass with avocado - 310 บาท) ไม่รู้ว่าหลาย ๆ ท่านเป็นเหมือนผมมั้ยที่แบบหา Roll อร่อย ๆ กินยาก ในชีวิตผมนี่เคยเจอ Roll ที่แบบกินแล้วอร่อยอยากกินอีกนี่เรียกว่านับจานได้เลย (ตอนนี้น่าจะไม่ถึง 10 จาน) ซึ่งจานนี้ที่ร้าน Zuma ก็เป็นจานที่อยู่ใน 1 ใน 10 จานที่ว่านี้ครับ จานนี้แม้ว่าหน้าตา Roll จะดูธรรมด๊า  ธรรมดา ก็แค่มีไส้เป็นเนื้อปลาแล้วก็ทามาด้วยไข่กุ้ง แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ กินแต่ละคำมันอร่อยกว่าหน้าตาที่ควรจะเป็นมาก ข้าวก็ปั้นมาดี ไม่แตก ไม่เละ เยี่ยมเลย







อาหารอย่างที่ 4 เป็น เทมปุระปูอลาสก้าเสิร์ฟพร้อมดาชิซอส (Taraba gani no tempura - Alaskan king crab tempura with red chili dashi - 1,520 บาท) จานนี้เป็นเมนูใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาได้ไม่นาน หน้าตาตอนเสิร์ฟนี่แบบเท่มากครับ เป็นก้ามปูที่แบ่งมาเป็นชิ้นพอดีคำและทอดมาได้อวบอูมน่ากินสุด ๆ มาพร้อมถ้วยกาที่เป็นน้ำจิ้มร้อน ๆ ให้เรามาเทลงถ้วยน้ำจิ้มเอาเอง ซึ่งสาเหตุที่ทำมาแบบนี้เพราะต้องการให้น้ำจิ้มร้อนด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะแบบพอจิ้มชิ้นนึงน้ำจิ้มก็พร่องไปพอสมควร เราก็ต้องเติมใหม่ให้มันร้อน ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ ส่วนตัวเนื้อปูเทมปุระก็อร่อยดี ไม่รู้จะติอะไรเพราะทอดมาได้ perfect มาก ซึ่งเกิดมาก็เพิ่งเคยกินเนื้อปูเทมปุระนี่แหละครับ พอกินจานนี้เสร็จผมก็คิดได้ว่า จริง ๆ แล้วเทมปุระนี่มันก็เป็นการทำให้เนื้อทุกอย่างมันอร่อยขึ้นได้หมดเลยนะ ถ้าทอดมาไม่ใช้แป้งหนาไป และทอดมาเป็น และกินตอนร้อน ๆ พอดี

อาหารอย่างที่ 5 เป็น ปลาแบล็คค็อดหมักมิโซะเสิร์ฟพร้อมใบโฮบะ (Gindara saikyo miso yaki - saikyo miso marinated black cod wrapped in hoba leaf - 1,280 บาท) จานนี้ผมไม่แน่ใจว่ามาคราวที่แล้วได้สั่งรึเปล่า จำได้คลับคล้ายคลับคราว่าสั่งไป เอาเป็นว่าสั่งไม่สั่งไม่รู้ แต่ต่อไปนี้ถ้ามาร้านนี้ผมจะสั่งทุกครั้งล่ะครับเพราะว่ามัน.. อร่อยโคตร ๆ ทางร้านเสิร์ฟปลาหิมะมาในใบโอบะใบใหญ่ แล้วก็มีต้นหอมเป็นเหมือนหมุดกลัดไว้อยู่ พอจะกินเราก็คลี่ใบโอบะออกมา กลิ่นหอมของเนื้อปลาก็จะลอยเข้าจมูกเรา พร้อมกับเห็น fillet เนื้อปลาหิมะที่ย่างไฟอ่อน ๆ มาได้สมบูรณ์แบบมาก จานนี้อร่อยสุด ๆ จริง ๆ ครับทางร้านบอกว่าเค้าเอาปลาหิมะไปหมักใน saikyo miso 48 ชั่วโมง แล้วถึงจะเอามาย่างและเสิร์ฟให้เรา คือแบบแต่ละคำที่กินเข้าไปมันมีรสชาติอร่อย ๆ ของมิโซะผสานอยู่ในทุกคำ และเนื้อปลาก็ย่างมาได้สุกกำลังดีมาก โอย จานนี้สุดยอดจริง ๆ






อาหารอย่างที่ 6 เป็น ปลาดิบรวม 3 ชนิด (3 sashimi selection - 1,100 บาท) จานนี้ก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากครับ ดูสีของเนื้อปลา, ดูความสวยงามของลายไขมันบนเนื้อปลาแล้ว มันอร่อยตั้งแต่ยังไม่กินแล้วล่ะครับ ซึ่งมันก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ปลาสด เนื้อหวาน อร่อยมาก ๆ ส่วนอาหารคาวอย่างสุดท้ายนั้นเป็น ข้าวญี่ปุ่นหุงเสิร์ฟพร้อมเนื้อปูและไข่ปลาผสมวาซาบิ (Kani no kamameshi - rice hot pot with king crab and wasabi tobiko - 480 บาท) จานนี้บอกตรง ๆ ว่าผมไม่เคยกินในร้านอาหารญี่ปุ่น มันดูเป็นอาหารเกาหลีซะมากกว่า (ประหนึ่งเป็น บิบิมบับ) เพราะทางร้านจะยกเจ้าจานนี้มาในหม้อ แล้วก็มาคลุก ๆ ต่อหน้าเราบนโต๊ะ คือหน้าตาก่อนคลุก บอกตรง ๆ ว่ามันดูน่ากินกว่าตอนคลุกเสร็จมาก เพราะแบบพอคลุกเสร็จแล้วมันดูเละ ๆ เหมือนข้าวต้มผสมข้าวสวยยังไงไม่ทราบ แต่ไม่น่าเชื่อครับ รสชาติคนละเรื่องกับหน้าตา สั้น ๆ ง่าย ๆ เป็นข้าวสไตล์ bibimbab (ข้าวกะทะร้อน, ข้าวหม้อร้อนคลุก อะไรก็ว่าไป) ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลยล่ะ











นอกจากของคาวแล้วร้าน Zuma เค้าก็มีเครื่องดื่มที่เป็นตัวชูโรง และลูกค้าหลาย ๆ คนติดใจอีกเช่นกัน ทางร้านจะมี Signature Cocktail ของแต่ละสาขาอยู่ ซึ่งทุกสาขาสามารถสั่งได้ มื้อนี้ผมก็เลยจัดไป 2 แก้วเป็น Signature ของ Dubai อันนึง กับของ Bangkok อีกอันนึง Japnese Whisky Sour (double shot of smoked infused Black Nikka whisky, yuzu juice, egg white and a dash of bitters - 550 บาท) และ Zumanuka (basil, pineapple and pressed apple mixed with 42 below Manuka Honey vodka and finished with fresh lemon and lime - 295 บาท) ตามลำดับ ทั้ง 2 แก้วอร่อยไม่ผิดหวัง ที่ชอบก็คงเป็นของ Dubai ที่แบบเสิร์ฟมาได้เท่และหล่อสุด ๆ ใครไป Zuma - St. Regis อยากแนะนำให้ลองเจ้า Dubai Signature Cocktail นี่ดูจริง ๆ ครับ

สรุป ร้าน Zuma - Bangkok นี่ก็เป็นไปตามที่ผมคาดเอาไว้ก่อนมาครั้งที่ 2 ก็แหม set lunch ยังเทพขนาดนั้นอาหาร a la carte จะไม่เทพกว่าได้อย่างไร มื้อนี้ประทับใจมากครับ ประทับใจทุก ๆ อย่าง แต่ที่ประทับใจสุด ๆ ก็คงเป็นตัวอาหารนี่แหละ แต่แน่นอนครับร้านเทพขนาดนี้ก็ต้องมี Drawback อะไรกันบ้าง ซึ่งก็มักจะมีอยู่เรื่องเดียวอยู่แล้วสำหรับร้านระดับนี้ "ราคา" ราคาของร้านนี้อาจจะสูงไป ผมเองก็คงมากินได้ไม่บ่อย แต่แบบมานาน ๆ ครั้งทีแบบนี้ แต่มาแต่ละทีประทับใจติดตรึงไปหลายวัน หรือหลายอาทิตย์แบบนี้ มันอาจจะดีกว่าก็เป็นได้นะครับ

ปล. ผมเพิ่งรู้ว่าตอนนี้ร้าน Zuma มี Sunday Brunch ด้วย ทางร้านบอกว่าเอาอาหาร a la carte เทพ ๆ แบบนี้แหละมาเสิร์ฟให้แบบไม่อั้น แต่ว่าต้องเดินไปตักเอง อืม ผมก็อยากจะมาลองดูเหมือนกันนะครับ แต่ติดตรงที่ราคานี่แหละ รู้สึกว่าจะประมาณ 3,000 หรืออะไรนี่แหละ!




--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment