Friday, December 21, 2012

Wang Sai Seafood Krabi Review

Wang Sai Seafood - Thai Seafood Restaurant at Ao Nang, Krabi, Thailand

วังทราย ซีฟู้ด ร้านอาหารไทย อาหารทะเล ติดชายหาด อ่าวนาง กระบี่




Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5

Wang Sai Seafood - Thai Seafood Restaurant on BumRes.com



ร้านวังทราย ซีฟู้ด อ่าวนาง กระบี่ แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารไทย อาหารทะเล ที่แบบถ้าไปที่เมืองติดทะเลที่ไหนก็คงจะต้องเจอกับร้านแบบนี้ คือ ร้าน open air, al fresco dining แบบใหญ่โต่ โปร่ง โล่งสบาย | ลูกค้าคนไทยกับลูกค้าฝรั่งเป็นสัดส่วนลูกค้าที่ใกล้เคียงกัน (เผลอ ๆ ส่วนใหญ่ฝรั่งจะเยอะกว่า | อาหารทะเลเป็นอาหารทะเลแบบง่าย ๆ ไทย ๆ กรรมวิธีง่าย ๆ ไม่ได้เน้นความหรูหรา, ดูดี แต่เน้นความเป็นไทย ใช่ครับ ร้านอารมณ์ประมาณนี้ที่แบบพอเข้าไปในร้าน, พอเห็นเมนู, พอเห็นพนักงานของทางร้านแล้วมันใช่เลย ร้านนี้อาจจะอยู่ไกลจากอำเภอเมืองเล็กน้อย เพราะว่าอยู่ที่อ่าวนาง อำเภอติดกันกับอำเภอเมือง ขับรถมาก็สัก 20 นาที แต่เป็นบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกระบี่เหมือนกันเพราะเป็นชายหาดเริ่มต้นของการเที่ยว 4 เกาะ(ทะเลแหวก อะไรพวกนี้ ซึ่งผมก็ได้ไปมา ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร) และ เกาะพีพี (อยากไปมากครับ แต่ว่าต้องแบบไปค้างเลย และค่าเดินทางแพงก็เลยไม่ได้ไป)

อาหารของร้านนี้ ตอนพลิกดูเมนูทั้งเล่ม แอบคิดว่า มันน้อยกว่าที่ควรจะเป็นรึเปล่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดี เพราะพวกผมจะได้ไม่ต้องชั่งใจกันมาก และอาหารก็ราคาไม่ค่อยแพง ถูกกว่าร้าน ปูดำ ที่ผมเพิ่งรีวิวมา และก็น่าจะอยู่ในระดับร้าน เขยใหญ่ ร้านอันดับ 1 ประจำทริปนี้ก็ว่าได้ คือแบบอาหารถูกเกินจะเป็นร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวอ่ะครับ แต่ว่าอาหารส่วนใหญ่ของร้านนี้ก็เป็นอาหารบ้าน ๆ ที่เข้าร้านอาหารไทยร้านไหนก็คงมี รวมถึงพวกอาหารทะเลสด ๆ ที่แค่เอาไป ปิ้ง, เผา, นึ่ง อะไรพวกนี้ก็มีไม่ค่อยเยอะ คือเป็นร้านอาหารทะเลอารมณ์ Minimalist กลาย ๆ ก็ไม่ผิดนัก



มื้อนี้เป็นมื้อรองสุดท้ายก่อนกลับ แน่นอนครับ คืนสุดท้ายก่อนจะกลับ กับทริปไหน ๆ ก็ตาม พวกผมจัดหนักกันเต็มที่อยู่แล้ว กับคืนสุดท้ายของทริปนี้ พวกผมก็จัดหนักกันซะแบบนอนกันตี 5 และกินเหล้ากันตั้งแต่ 2 ทุ่มเลย คือเรียกว่าหนักจริง ๆ กับสังขารของชายฉกรรจ์ที่อายุย่างเข้าเลข 3 แล้วแบบนี้ อาหารในมื้อนี้ก็เลยมีไม่ค่อยเยอะ และจะเป็นอาหารเบา ๆ (รึเปล่า?) ซะส่วนใหญ่ เริ่มต้นกันที่จานแรก

ข้าวผัดปูจานใหญ่ (Stir Fried rice with Crab - Big Size - 200 บาท) ร้าน วังทราย ซีฟู้ด นี่ก็แปลกดีครับ เอาข้าวผัดมาตัดกำลังลูกค้ากันตั้งแต่จานแรกเลย ไม่เหมือนกับร้านอื่น ๆ ที่มักจะมาเป็นลำดับสุดท้ายกัน ข้าวผัดของร้านนี้หน้าตาดูน่ากินดี ข้าวมาเหลือง ๆ ไข่มาสวย ๆ เหลือง ๆ ไม่เกรียม แต่สิ่งที่ขาดหายไปมันคือชื่อของเมนูนี้ครับ นั่นก็คือปู! ปูมันหายไปไหน! จานนี้แม้ว่าปริมาณจะให้เยอะเกินราคา 200 บาท แต่ร้านเค้าให้เยอะก็เพราะว่าน้องปูมันหายไปนี่แหละครับ รสชาติจานนี้ก็ประมาณสวยแต่รูปจูบไม่หอมครับ ผัดมายังไม่ค่อยเข้าขั้นเท่าไร






อย่างที่ 2 เป็น แกงกะทิปูม้า (Blue Crab in Coconut Soup - 280 บาท) จานนี้จริง ๆ น่าจะเรียกว่าแกงผงกะหรี่ปูม้ามากกว่าแกงกะทิปูม้านะ เพราะว่าน้ำมันคือน้ำแกงกะหรี่ใส่กะทิเล็กน้อยชัด ๆ จานนี้ไม่รู้ว่าทางร้านต้องการให้เรากินปูหรือว่ากินน้ำกันแน่ เพราะปูก็มาตัวเล็ก ๆ (แต่เนื้อก็สดดี) และน้ำแกงก็มาแบบประมาณน้ำขลุกขลิก มาแค่ก้นถ้วยแค่นั้น เห็นแล้วก็ไปไม่เป็นเลย ไม่รู้ว่าต้องการอะไรจากพวกผม แต่โดยรวมก็ดีครับ น้ำแกงอร่อย เผ็ด ๆ มัน ๆ กับเนื้อปูสด ๆ (ที่แม้จะตัวเล็กและแกะลำบากก็ตาม)

อย่างที่ 3 เป็น ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน (Tom Yum Goong - Spicy Shrimp Soup - 200 บาท) จานนี้ก็เป็นต้มยำกุ้งที่รสชาติค่อนข้างกลมกล่อมดีครับ คนไทยกินได้ ฝรั่งกินดี และให้มาเป็นหม้อไฟ ใหญ่อลังการดีในราคาแค่ 200 บาท แต่ก็นะ 200 บาท ที่มีแต่มะพร้าวอ่อนลอย ๆ อยู่ กุ้งแทบจะนับตัวได้ มันก็ไม่น่าแปลกใจครับ






อย่างที่ 4 เป็น ผัดผักกูดกุ้ง (Stir-Fried Spinach with Shrimp - 150 บาท) จานนี้น่าจะเป็นจานที่หากินยากที่กรุงเทพ และทางร้าน วังทราย ซีฟู้ด กระบี่ ก็ทำมาได้ไม่ผิดหวังครับ ผัดมารสชาติดีมาก มีหวาน ๆ นิด ๆ ไม่รู้จากน้ำตาลหรือตัวผัดกูดเอง แล้วก็เค็มหน่อย ๆ จากน้ำมันหอยและน้ำปลาที่ใส่มาซะจนน้ำแทบจะล้นจาน กินกับข้าวผัดที่ไม่ค่อยอร่อยนักก็ช่วยเพิ่มความอร่อยของกันและกันดีครับ

อย่างที่ 5 เป็น ทอดมันกุ้ง (Deep fried shrimp cake - 150 บาท) ก็เป็นทอดมันกุ้งมาตรฐาน ที่ size อาจจะเล็กกว่ามาตรฐานไปนิด และก็เนื้อกุ้งผสมแป้งให้มาไม่ค่อยเต็ม ๆ แน่น ๆ สักเท่าไร แต่การทอด, การปั้น, การปรุงรส ก็ลงตัวดีครับ กินเพลิน ๆ แบ่งกันกินคนละชิ้นกับเพื่อน ๆ ก็หมดไวดี






อย่างที่ 6 เป็น ยำรวมมิตรทะเล (Seafood salad with vegetable - 150 บาท) จานนี้ผมว่ามันไม่น่าเรียกว่ายำ เพราะว่ามันไม่เผ็ดเลยสักนิด ก็เข้าใจนะว่าจะขายฝรั่งด้วย แต่แบบเอาอาหารนี้มาตั้งชื่อว่ายำ, เอาไปใส่ในหมวด Spicy บางทีลูกค้ามันก็คาดหวังจะได้อะไรเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ เหมือนกันเน้อ จานนี้ถ้าตัดเรื่องนี้ออกไป แล้วคิดซะว่าเป็นยำแบบไม่เผ็ด, รวมมิตรผักกับอาหารทะเล มันก็โอเคอยู่ครับ

อย่างที่ 7 เป็น เนื้อผัดพริกไทยดำ (Stir-fried Beef in Black Pepper Sauce - 150 บาท) จานนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครอุตริสั่ง มาทะเลแต่ดันมากินเนื้อ และดันมีเพื่อนที่ไม่กินเนื้อในกลุ่มด้วย 2 คน ก็ยิ่งแปลกประหลาดเข้าไปใหญ่ สำหรับรสชาติและหน้าตาจานนี้ก็ธรรมดา ๆ ครับ เหมือนเนื้อผัดน้ำมันหอย, ผัดพริกไทยดำ ที่หากินได้ทั่วไปตามร้านอาหารตามสั่งห้องแถว หรือร้านไทยแบบบ้าน ๆ





อย่างที่ 8 เป็น หมึกผัดไข่เค็ม (Stir-fried squid in salt egg sauce - 150 บาท) จานนี้หน้าตาอาจจะไม่น่ากินเท่าไร เพราะว่าซอสไข่เค็มนั้นแทบจะเหือดแห้ง ไม่มีให้เห็นอยู่ในจานเลย ยังดีที่เหมือนกับซอสมันจะไปเคลือบเอาตัวปลาหมึกไว้อยู่แล้ว ปลาหมึกแต่ละชิ้นที่กิน ซึ่งเนื้อสด เด้งอยู่แล้ว ก็เลยยังคงความอร่อยไว้อยู่ แต่ก็นะ ผมชอบหมึกผัดไข่เค็มแบบซอสเยอะ ๆ เอาซอสไปคลุกกินกับข้าวมากกว่านะ

อย่างที่ 9 เป็น หมึกไข่นึ่งมะนาว (Steam squid with Lemon Sauce - 180 บาท)  จานนี้ก็โอเคเลยครับ มาแบบ ปลาหมึกแทบจะล้นทะลักหม้อออกมา (แปลกมากเมื่อเทียบกับจานอื่น) และน้ำซุปมะนาวก็มาแบบร้อน ๆ แซบ ๆ เปรี้ยวกำลังดี (หลัง ๆ เจอร้านเปรี้ยวจี๊ดน่าเกลียดเยอะมาก) เนื้อปลาหมึกก็สด เหมือนกับจานก่อนหน้า ก็เลยกลายเป็นจานฮอตฮิตประจำโต๊ะไป แย่งกันกินแทบไม่ทัน







อย่างที่ 10 เป็น ใบเหมียงผัดไข่ (Stir-fried Maing Leaves with Egg - 150 บาท) อาหารที่มาในทริปนี้ แทบจะสั่งทุกมื้อ กับผัดผักประจำภาคใต้จานนี้ ร้าน วังทราย ซีฟู้ด - อ่าวนาง, กระบี่ ก็ทำมาได้มาตรฐานดีครับ ยังไม่ถึงขั้นอร่อยเทพ แบบบางร้านที่เคยกินมา แต่ก็รสชาติดี กินได้ไม่เบื่อ แม้ว่าจะเป็นจานที่ 3 หรือ 4 ในช่วงไม่กี่วันนี้ก็ตาม

อาหารอย่างสุดท้ายเป็น ไข่เจียวกุ้ง (Shrimp Omelette Thai Style - 150 บาท) ที่เอาจริง ๆ น่าจะเรียกว่าไข่เจียววิญญาณกุ้ง หรือไม่ก็ไข่เจียวกุ้งสับจนละเอียดกินแล้วไม่รู้สึกถึงเนื้อกุ้ง อะไรพวกนั้นมากกว่า ยังดีครับ ที่ทอดมาได้เจ๋ง มาแบบฟู ๆ ไม่ได้แบน ๆ เละ ๆ ไม่น่ากินเหมือนร้านอาหารไทยระดับนี้บางร้านที่ไม่รู้ว่าทำมาได้ยังไงยังกะเด็กหัดทำอาหาร จานนี้ก็ปิดท้ายได้โอเคดีครับ ไข่เจียวปรุงรสมาดี มาแบบเนื้อฟู ๆ แต่ก็ตามที่ว่าไป "น้องกุ้งพี่ไปไหนอ่ะ?"





สรุปมื้อนี้ ค่าเสียหายรวม 2,270 บาท กับอาหาร 11 อย่างและเบียร์ 1 ขวด และคน 8 คน ก็เฉลี่ยแล้วก็คนละแค่ 280 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าอิ่มอร่อย กระเป๋าบวม แฟนรัก กันล่ะหลังจบมื้อนี้ ร้าน วังทราย ซีฟู้ด นี่ก็คงเป็นร้านที่เปิดมานานแล้ว และก็น่าจะเปิดอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่โดน Tsunami พัดถล่มเอาซะก่อน เพราะว่าอาหารราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้ คนไทยกินได้ ฝรั่งกินดี บรรยากาศก็ดี ร้านโปร่ง โล่ง สบาย และติดชายหาด (แม้หาดจะไม่สวยเท่าไรก็ตาม) เราคงไม่ต้องการอะไรจากร้านอาหารไทย ริมทะเล บ้าน ๆ สักร้านนึงมากกว่านี้สักเท่าไรหรอกว่ามั้ยครับ?



--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment