Monday, December 10, 2012

คั่วกลิ้ง ผักสด รีวิว ทองหล่อ

คั่วกลิ้ง ผักสด ร้านอาหารไทย อาหารใต้ ทองหล่อ ซอย 5 

Kuakling Puksod - Southern Thai Restaurant, Thonglor soi 5, Bangkok




Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5

Kuakling + Puksod - Southern Thai Restaurant on BumRes.com (for more pictures and menu)



ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตกมากมายในย่านทองหล่อ ย่านที่มีร้านอาหารไทยแบบนับร้านได้ (ลองนั่งนับคร่าว ๆ ในใจน่าจะมีไม่ถึง 10 ร้าน) ก็ยังมีร้านอาหารไทยดี ๆ ที่เปิดมาได้ 2 ปีแล้ว และเป็นร้านที่ผมขับรถผ่านบ่อยเหลือเกินแต่ไม่ได้กินสักทีเพราะไม่ค่อยมีที่จอดรถนามว่า คั่วกลิ้ง + ผักสด อยู่ ร้านนี้ถ้าขับผ่านแบบไม่สนใจอะไรมาก (แบบผม) ก็คงคิดว่าเป็นร้านอาหารแบบขายอาหารตามสั่ง, ร้านบ้าน ๆ ขายอาหารจานเดียวจานละไม่ถึง 100 บาทอะไรประมาณนั้นเพราะหน้าร้านและชื่อร้านช่างแสดงความเป็นอาหารแบบบ้าน ๆ เหลือเกิน แต่จริง ๆ แล้วร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านระดับภัตตาคารเลยก็ไม่ผิดนักเพราะว่าภายในร้านตกแต่งสวยงามมาก, พนักงานก็บริการได้มาตรฐานร้านอาหารดี ๆ และอาหารของทางร้านก็ไม่ใช่อาหารแบบบ้าน ๆ ตามสั่ง, จานเดียวแบบที่ผมเข้าใจตอนแรกแต่อย่างใด

ตามที่เขียนไว้ข้างต้นว่าปัญหาอย่างนึงที่ชัดเจนและโดดเด่นของร้านนี้คือ "ที่จอดรถ" ตัวผมเคยคิดจะแวะกินร้านนี้อย่างต่ำ ๆ ก็ 3-4 ทีครั้งตอนขับรถหาร้านกินในทองหล่อ แต่ก็เป็นอันต้องข้ามไปเพราะไม่มีที่จอดรถ จากการถาม ๆ เจ้าของร้านก็ได้ความว่า .. ไม่ได้ความว่าอะไรทั้งนั้นครับ ทางร้านไม่มีที่จอดรถของตัวเองต้องจอดแบบตามมีตามเกิดริมถนนเอาเท่านั้น อ้อจริง ๆ ทางร้านมี solution อยู่อย่างนึงนั่นคือทางร้านมีบริการ Delivery ส่งทั่วกรุงเทพครับซึ่งจากที่สอบถามมาก็ได้ความว่า.. สัดส่วนของคนมากินที่ร้าน : คนสั่ง Delivery นั้นเป็นสัดส่วน 70 : 30 เลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขคงไม่สูงขนาดนี้ถ้าร้านมีที่จอดรถสะดวก ๆ ละมั้ง (ฮา)







บรรยากาศของร้านคั่วกลิ้ง + ผักสด นั้นตามที่เขียนไว้ข้างต้นว่ารูปลักษณ์ภายนอกอาจจะหลอกตาได้ คือพอเราเดินผ่านหน้าร้านที่ดัดแปลงเป็นครัว ก็จะเข้าไปในส่วนห้องแอร์ที่ตกแต่งค่อนข้างอบอุ่นและสวยงาม เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นห้องเล็ก ๆ กึ่ง ๆ ห้องส่วนตัว และถ้าออกไปอีกหน่อยก็จะเป็นโต๊ะอาหารแบบ Outdoor หรือ Al fresco dining คือเรียกได้ว่าร้านเล็ก ๆ แบบนี้แต่มีบรรยากาศให้เลือกครบครันเหมือนร้านใหญ่ ๆ เลยก็ว่าได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้พบเจอกับร้านบ้าน ๆ แบบนี้คือ การบริการของทางร้านจัดได้ว่าค่อนข้างดีเลย พนักงานมารยาทเรียบร้อย พูดจาดี และมีพนักงานค่อนข้างเพียงพอ (ค่อนไปทางเหลือเฟือ) ต่อปริมาณลูกค้า และอาหารของทางร้านนี้ก็ถือได้ว่ารวดเร็วดีด้วย ตอนผมไป เป็นเที่ยงวันธรรมดามีลูกค้า Occupy อยู่สัก 70% ของร้าน แต่ว่าอาหารที่สั่งไป 6 อย่างก็รอไม่นานเลย เรียกได้ว่าเจ้าของร้านจัดระบบ, อบรมพนักงานได้ดีทีเดียว

มาเข้ากันที่เรื่องอาหาร อาหารของร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด นี้จากชื่อก็น่าจะพอเดาได้ว่าเป็นอาหารไทยใช่มั้ยครับ ก็ถูกสักครึ่งนึง เพราะอาหารจริง ๆ ของร้านนี้นั้นเป็นอาหารใต้ กับอาหารกลางอย่างละครึ่ง ๆ โดยสูตรอาหารของร้านนี้ได้รับมาจากคุณย่าของเจ้าของร้านคนปัจจุบัน หรือเป็นสูตรที่ผ่านการกลั่นกรอง ผ่านการทำและชิมกันมา 3 ชั่วรุ่นแล้ว อาหารของร้านนี้มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะตามประสาร้านดี ๆ ที่เน้นเมนูน้อยแต่คับคั่งด้วยคุณภาพดีกว่ามีเมนูเยอะแยะมากมายแต่ทำอะไรมาก็ห่วยแตกไปหมด (ร้านเมนูเยอะ ๆ ครับ เมื่อไรจะตระหนักกันสักทีครับ -*-) ราคาอาหารนั้นผมเห็นในเมนูแอบแพงกว่าที่คิดเอาไว้ (เล็กน้อย) คืออยู่ในช่วง 100 - 200 บาท และทางร้านจะมีเมนูพิเศษที่แบบเอาเนื้อปูมาทำโน่นทำนี่ (คนใต้น่าจะใช้เนื้อปูทำอาหารเยอะนะจริง ๆ แล้ว) ที่ทุกอย่าง 350 บาทเข้าไปอีก โอ้ว เห็นราคาตอนแรกแอบแปลกใจ แต่ก็ลอง ๆ สั่งไปครับ และความแปลกใจก็มลายหายไปในภายหลังเมื่อผมได้เห็นอาหารแต่ละจาน

อาหารอย่างแรกที่ได้เป็นอาหารโปรดของผมกับ เนื้อปูผัดดอกขจร (Fried crab meat with dok-ka-john) - 350 บาท คือผัดดอกขจรกับอะไรก็ตามนี่ผมเพิ่งมีโอกาสได้กินสัก 2-3 ปีมานี้เองที่ร้านครัวอัปษร - สามเสน เป็นที่แรก พอหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ชอบเจ้าเมนูนี้ตลอดและสั่งทีไรก็ไม่ค่อยจะผิดหวังเท่าไร แต่กับดอกขจรที่เอามาผัดกับไข่และเนื้อปูนี่เพิ่งเคยกินที่ร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด แห่งนี้เป็นครั้งแรกนี่แหละครับ และเป็นครั้งแรกที่ทำให้ประทับใจสุด ๆ ด้วยเพราะว่ารสชาติมันกลมกล่อมอร่อยมาก ๆ ทำมาดีจริง ๆ น่าจะดีพอ ๆ กับร้านครัวอัปษรเลยในเรื่องรสชาติซอสและการผัด แต่ร้านนี้ชนะไปด้วยเนื้อปูครับ เพราะแบบเนื้อปูมาก้อนใหญ่มาก เป็นดุ้น ๆ ตัน ๆ เลยและไม่ได้ให้มาเป็นวิญญาณ ให้มาเป็นกองทัพเนื้อปูเลยก็ไม่ผิดนัก และผมก็เพิ่งรู้ว่าเนื้อปู + ดอกขจร + ไข่ มันคืออะไรที่ลงตัวจริง ๆ







อาหารอย่างที่ 2 เป็นอาหารชื่อร้าน คั่วกลิ้งหมูสับ (Khua-kling with minced pork) - 120 บาท ซึ่งตามหลักมันควรจะอร่อยแบบโดดเด่นไม่งั้นคงไม่เอาไปตั้งเป็นชื่อร้านให้มัวหมองโดยเปล่าประโยชน์ว่ามั้ยครับ ซึ่งรสชาติ ผมกับเพื่อนก็ลงความเห็นว่าทำได้ดี เผ็ด ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ กำลังดี แต่ไม่รู้ทำไม มันรู้สึกว่าน่าจะโดนได้มากกว่านี้ มันอาจจะแห้งไปนิด, หมูยังไม่ค่อยมันพอล่ะมั้งถ้าให้ผมเดา แต่เอาจริง ๆ ก็เป็นอาหารที่กินตัดกับอาหารอย่างอื่นที่เป็นน้ำ ๆ ดีเหมือนกันนะครับ (หรือทางร้านจงใจทำให้แห้ง ๆ หน่อยเพราะเหตุนี้?)

อาหารอย่างที่ 3 เป็น ขนมจีนน้ำยาปู (Thai vermicelli with crab soup) - 350 บาท เป็นอาหารอีกจานที่เกิดมาก็เพิ่งเคยกินอีกเช่นกัน ใครจะไปคิดว่าจะมีคนทำน้ำยาปูแบบใส่เนื้อปูมาเป็นดุ้น หลายดุ้น แบบนี้ จานนี้รสชาติดีครับ เส้นขนมจีนกับผักทุกอย่างสดไปหมด น่าจะทำกันใหม่ ๆ วันต่อวันเลย ส่วนตัวน้ำยาก็ไม่มีอะไรจะต้องติรสชาติแบบไทยมาก ใต้มาก ชอบครับ







อาหารอย่างที่ 4 เป็น แกงเหลืองปลา (Yellow curry with fish) - 180 บาท อีกหนึ่งจานที่ทางร้านแนะนำมาว่าเป็นอาหารขายดี (จานนี้เพื่อนผมที่แนะนำร้านนี้มาก็บอกให้สั่งเช่นกัน) ซึ่งจานนี้รสชาติก็ดีครับ แต่ผมกลับคิดว่าน้ำยาปูมันอร่อยกว่านะ คือ 2 อย่างนี้จริง ๆ ก็เทียบกันไม่ค่อยได้ อันนึงน้ำข้น ๆ อีกอันน้ำใส อันนึงเผ็ด ๆ เค็ม ๆ อีกอัน เปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแกงนี้ก็เป็นแกงที่กินแล้วสะใจดีแท้ สะใจจากเนื้อปลาที่มาเป็นก้อนใหญ่ ๆ (น่าจะเป็นพุงปลา) มีเนื้อมีหนังสุด ๆ และกินกับข้าวกล้องชั้นดีของทางร้านลงตัวมาก ๆ

อาหารอย่างที่ 5 เป็น ไข่พะโล้ขาหมู (Pork leg with tofu and eggs) - 180 บาท จานนี้เจ้าของร้านบอกว่าทำไว้วันต่อวันหมดก็หมดเลยเพราะว่าจะต้องตุ๋นไว้, ต้มเอาไว้ ซึ่งพะโล้นี่ผมเห็นหน้าตาตอนแรกน่ากินมากครับ แต่กลายเป็นว่าจานนี้เป็นจานที่ชอบน้อยที่สุดในมื้อเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ส่วนนึงน่าจะเพราะน้ำพะโล้รสชาติยังไม่ค่อยโดนเท่าไร, ขาหมูก็มาแบบเป็นส่วนเนื้อ ไม่ค่อยมีส่วนเนื้อติดมัน และก็ไข่ก็มาแบบสุก ๆ และเหมือนน้ำซุป, ซอส จะยังไม่ค่อยเข้าเนื้อไข่ขาวสักเท่าไรด้วย (หรือเพราะผมกินไข่ออนเซ็นในราเมนมากไปเนี่ย ฮ่า ๆ)






และอาหารอย่างสุดท้าย กุ้งมะขาม (Deep fried prawn with tamarind sauce) - 350 บาท ก็เป็นจานสุดท้ายที่ปิดฉากได้อย่าง Happy ending สุด ๆ แม้ว่ากระเพาะผมจะเริ่มดึงประตูปิดไม่รับอาหารตั้งแต่ก่อนจานนี้มาแล้ว แต่พอได้ชิมคำแรกเท่านั้นล่ะมันก็เปิดประตูอ้าใหม่เต็มที่เลย กุ้งมะขามนี่อร่อยมาก ๆ ครับ กุ้งสด (ร้านนี้เท่าที่กินดู ของสดหมดเลย) ตัวใหญ๋กำลังดี ทอดมาแบบใช้แป้งไม่เยอะเท่าไร เพราะกุ้งตัวใหญ่อยู่แล้ว แล้วก็กินกับซอสมะขามที่รสชาติหวาน ๆ โอย กินเปล่า ๆ เพลิน ๆ ไม่ต้องกินกับข้าวหรืออะไรเลยล่ะครับ เยี่ยมดีแท้

ร้านคั่วกลิ้ง + ผักสด นี่พอกินอาหารร้านนี้เสร็จผมก็เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมถึง...

1. รถถึงจอดเต็มหน้าร้านแทบทุกครั้งที่ผมขับผ่าน
2. ร้านชื่อบ้าน ๆ แบบนี้ทำไมถึงอยู่รอดในย่านสมรภูมิอันแสนดุเดือดของร้านอาหารแบบย่านทองหล่อมาได้นานขนาดนี้
3. ทำไมเพื่อนผมบางคนถึงมาเช็คอินร้านนี้ซ้ำกันหลายครั้ง

คำตอบทั้งหมดไขกระจ่างแล้วหลังจากกินมื้อนี้เสร็จ อืม ผมอาจจะเขียนดูเว่อร์ไป แต่ผมก็เป็นงี้ทุกทีเวลาได้กินอาหารอร่อย ๆ ทุกท่านเป็นกันมั้ยล่ะครับ?


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment