Thursday, November 29, 2012

La Mie Bakery - Des Moines, Iowa Review

La Mie Bakery - Des Moines, Iowa Review



Overall Score 6/10
Taste   2.5/5 (4 for dessert)
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5



ร้าน La Mie Bakery ซึ่งไม่รู้ว่าเวลาอ่านออกเสียงจะอ่านว่า ลาเมีย หรือ ลาแมร์ เบเกอรี่ แห่งนี้ ก็เป็นร้านที่เราย้ายฐานการผลิตรีวิวจาก Iowa City มายังเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Iowa นามว่า Des Moines กันครับ ร้านเป็นร้านที่อยู่ในระหว่างทางการเดินทางไป Omaha, Nebraska ของผม สาเหตุที่เลือกร้านนี้ก็เพราะว่าร้านได้คะแนนรีวิวสูงมาก และแบบอยู่ใกล้ ๆ Interstate พอดีเดินทางไปได้ง่าย ๆ ร้านนี้ถึงแม้ว่าชื่อจะฟังดูว่าจะขายแต่ Bakery แต่จริง ๆ แล้วทางร้านขาย Bakery กับอาหารเช้าอย่างละครึ่ง ๆ ก็ว่าได้ครับ ซึ่งร้านแบบนี้ผมนึกไม่ค่อยออกเหมือนกันว่ามีที่ไทยรึเปล่า ถ้าแบบให้นึกแบบคร่าว ๆ ตอนนี้ก็คงนึกถึงร้าน Dean & Deluca แค่ร้านเดียวที่เข้าข่าย

ร้านนี้ไม่รู้ว่าเพราะผมไปตอนประมาณเกือบ ๆ เที่ยงวันเสาร์ หรือเพราะว่าร้านนี้เป็นร้านดังประจำเมือง Des Moines อยู่แล้วก็เลยแบบตอนไปนี่ลูกค้าล้นทะลักมากครับ ล้นทะลักขนาดต้องต่อคิวเป็นรูปตัว U อ้อมถาด Bakery อบสด ๆ ใหม่ ๆ หน้ากินกลางร้านกันประมาณนั้นแหละ (ร้านนี้เป็นร้านแรกก็ว่าได้ที่ผมต้องต่อคิวสั่งอาหารที่อเมริกา!) แต่ก็โชคดีครับที่แต่ละคิวสั่งกันไม่นาน รอประมาณสัก 10 นาทีก็ได้กินล่ะ แต่แบบระหว่างยืนต่อคิวอยู่ 10 นาทีก็เป็ฯอะไรที่ทรมานเหมือนกันครับ เพราะเบเกอรี่, มาการอง น่ากิน ๆ มันจ่ออยู่ตรงหน้าตลอดเวลาเลย!





มื้อนี้เนื่องจากผมกับแฟนกะจะไปกินอาหารจริงจังกัน ก็เลยสั่งอาหารเช้ากันไปคนละอย่าง แล้วก็สั่งของหวานกับซุปมาแชร์กัน ตัวของคาวของผมเป็น Albacore Tuna Sandwiches with carrots, almonds and currants 6$ คือสาเหตุที่สั่งเจ้าแซนด์วิชไส้นี้เพราะว่าเจ้าปลา Albacore Tuna หรือ ทูน่าขาว นี่บ้านเราไม่ค่อยมีขายกัน ผมเคยไปกิน Sushi หน้าปลา Albacore นี่ที่ร้าน Miyatake, Isetan จำได้คำละ 200 บาท! แล้วแบบก็อร่อยดี แต่ราคาก็แพงไปหน่อย ซึ่งเอาจริง ๆ Sushi หน้า White Tuna นี่ที่อเมริกามีเสิร์ฟแทบจะทุกร้านครับและราคาไม่ค่อยแพงด้วย เจ้าแซนด์วิชของผม หน้าตาก็ดูน่ากินดีไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากแซนด์วิชแบบที่ควรจะเป็นครับ แต่สิ่งนึงที่ผิดเพี้ยนไปคือรสชาติครับ มันเป็นแซนด์วิชที่.. ไม่อร่อยเลยครับ คือกินไปแต่ละคำเหมือนจะกินเอาแต่ของเย็นชืด, ของค้างคืน, ของไร้รสชาติเข้าปากไปอะไรแบบนั้นเลย เป็นแซนด์วิชที่.. ผมทำกินเองอร่อยกว่าสบาย ๆ คือบอกตรง ๆ ว่าก่อนจะกินนี่ผมหิวมาก แต่แบบพอกินเจ้าแซนด์วิชนี่ไปทีละคำ ๆ แล้วความหิวก็ลดลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายหายหิว และเบื่ออาหารไปแทน!






ส่วนของคาวของแฟนผมเป็นอาหารเช้าสไตล์อเมริกันจ๋า ๆ กับ Two eggs served with toast, bacon and spinach 5.95$ แฟนผมเลิกแบบ sunny side-up egg หรือที่บ้านเราเรียกว่าไข่ดาวไม่สุกนั่นเอง เท่าที่ถาม ๆ แฟนผมเรื่องรสชาติกับที่ผมแอบ ๆ ขโมยกิน มันก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษนะครับ เป็น American Breakfast แบบหากินได้ทั่วไปจริง ๆ เลย ส่วนซุปที่สั่งมาแชร์กันนั้นมีชื่อว่า Soupe Du Jour 3.5$ หรือแปลว่า soup of the day นั่นเอง เจ้าซุปนี่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกว่าซุปอะไรเป็นประมาณใส่แครอทแล้วก็หัวหอมมาในซุปอ่ะครับ ตัวซุปรสชาติ หมาไม่แดกมากครับ ผมกับแฟนชิมกันไปคนละไม่กี่คำก็เป็นอันต้องถอนตัว วางช้อนนาบไว้ข้าง ๆ จานรองถ้วยซุปอย่างเรียบร้อย สรุปคือ ของคาว 3 อย่างของร้านนึง เฮงซวยไป 2 ธรรมดาไป 1 แล้วมันได้คะแนนรีวิวโคตรดีจากอะไร? ทำไมลูกค้าถึงมากันมืดฟ้ามัวดินแบบนี้? คำตอบคือ ของหวานของเค้าครับ!





ของหวานในมื้อนี้ผมสั่งไป 2 อย่าง อย่างแรกเป็น Fresh Fruit Tarts 3$ ซึ่งดูยังไง ๆ มันก็เรียกได้ว่าถูกมา ๆ คือที่บ้านเรา ถ้าเค้กหน้าตาแบบนี้ส่วนใหญ่ก็ราคา 100 กว่าบาทป่าวครับ? แต่ที่ร้าน La Mie Bakery นี่แบบ 3$ แล้วยิ่งเทียบเป็นค่าครองชีพอเมริกาอีก ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ และรสชาติก็ดีมากครับ ตัว tart แบบ texture ดี ๆ แป้งร่วน ๆ กำลังดี และก็รสชาติแบบสากล ๆ (พูดไม่ถูกเหมือนกัน) ส่วนตัวผลไม้ที่วางโปะมาก็มีทั้ง เปรี้ยวและหวานตัดกันไปตัดกันมา กินแต่ละคำก็เลยได้ความสมดุลของรสชาติไป เยี่ยมมาก ส่วนของหวานอีกอย่างเป็น French Macarons 1.25$ อันนี้คือดูในรูปอาจจะคิดว่าเค้กมันก้อนเล็กเท่า Macaron แต่จริง ๆ แล้วเจ้า Macaron ต่างหากครับที่มันใหญ่ผิดมนุษย์มนา คือ Macaron ของร้าน La Mie Bakery นี่ใหญ่ประมาณสัก 3 เท่าของ Macaron ตามบ้านเราและที่ญี่ปุ่นก็ซ่าได้ครับ เหมือนเป็นคุกกี้ซะมากกว่า ผมเองก็สั่งมาแบบไม่ได้คาดหวังอะไร เห็นมันก้อนใหญ่ดี และร้านนี้มีให้เลือกหลายรสดี แต่ที่ไหนได้ กัดเข้าไปคำแรกนี่แทบจะร้องตะโกนออกมาว่า "อร่อยเหี้ย" คือแบบมันอร่อยมาก ๆ ครับ อร่อยกว่า macaron ที่เคยกินมาในไทยแทบทุกเจ้า (เช่นเคย แม้จะเคยกินมาไม่เยอะ) รสชาติมันแบบ โอ้วว้าว ไร้ที่ติครับ คือหลังจากกินเจ้า macaron นี่ผมก็ได้ไปลอง macaron ที่น่าจะเทพที่สุดในสามโลกที่ร้าน Pierre Hermes ที่ Tokyo มา ถ้าเทียบร้านปิแอร์กับร้านนี้ เอาเป็นว่าร้านปิแอร์เฉือนชนะไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแค่นั้นล่ะครับ!

สรุป มาร้าน La Mie Bakery นี่ผมคงจะผิดพลาดที่ไปสั่งอาหารคาวของทางร้านเค้า เพราะหลังจากที่สั่งอาหารเสร็จ ผมเห็นลูกค้าที่นั่งแน่นเต็มร้าน มีแต่คนหยิบ bakery ไม่ก็สั่งของหวานมากินกัน ก็นะ ชื่อร้านเค้าก็บอกอยู่แล้วว่าขาย Bakery ผมนี่ก็ดันโง่ไปสั่งของคาวซะอย่างนั้น เฮ้อออออออออออออ (เสียดายยย อยากกิน Macaron อีกกกก)


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment