Wednesday, October 24, 2012

Sunday Brunch at Four Seasons Hotel Bangkok Review

Sunday Brunch at Four Seasons Hotel Bangkok - International Buffet and Free Flow of Wine and Alcohol Drink ซันเดย์ บรันช์ โรงแรม โฟร์ ซีซัน ราชดำริ บุฟเฟ่ต์ นานาชาติ เบียร์สด




Overall Score  9/10
Taste   4/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   4/5

Sunday Brunch at Four Seasons on BumRes.com



ถ้าให้ทุก ๆ ท่านนึกถึง Sunday Brunch ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในดวงใจ ประทับใจสุด ๆ ประหนึ่งว่าอีชั้นยอมเสียตังค์สองพันกว่าบาทเพื่อไปเพิ่มความอ้วนให้ตัวเองได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว นึกถึง Sunday Brunch ของโรงแรมไหนกันบ้างครับ? ส่วนตัวผม แม้ว่าผมจะยังไปได้ไม่ครบทุกโรงแรมในกรุงเทพที่ผมอยากจะไป แต่ก็เรียกได้ว่าไปมาค่อนข้างจะครบล่ะครับ และจนถึงวันนี้ ที่ ๆ ชอบและอยากไปอีกก็มีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือ Utage Sunday Brunch ณ โรงแรม Plaza Athenee กับ Jazzy Sunday Brunch โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ครับ แต่หลังจากที่ได้ไปกิน Sunday Brunch ของโรงแรม Four Seasons มา ผมก็ต้องบรรจุที่นี่เข้าไปในที่โปรดของผมเพิ่มอีกที่ล่ะครับ เพราะว่าแบบ โอ้โห เด็ดจริงอะไรจริง!

จริง ๆ ตัว Sunday Brunch ของโรงแรม Four Seasons นี่ผมก็ได้ยินกิตติศัพท์มาสักพักแล้วว่าของเค้าดี ของเค้าแรง เพราะว่าแม้ว่าจะมีบัตรสมาชิกโรงแรม ก็ไม่สามารถมาใช้เป็นส่วนลดของเจ้า Food Feast อันแสนจะอลังการของโรงแรมนี้ได้เลยสักกะบาท ใช่ครับ ลดไม่ได้เลยแม้แต่ % เดียว ตอนจะทำบัตรของโรงแรม ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ ก็ไม่ลดก็ไม่ลด ไม่ลดกูก็ไม่ไปกิน แต่เนื่องด้วย หลังจากที่ตระเวณ ๆ กินห้องอาหารของโรงแรมนี้มาจนครบ ทั้งแบบ มื้อเที่ยง และ มื้อเย็น ก็เริ่มตระหนักว่า อืม โรงแรมนี้คุณภาพเค้าดีครบถ้วนทุกห้องอาหารเลยนะเนี่ย ก็เลยคิดว่า เอาวะ ยอมจ่ายแพง ๆ ไปโดน  Sunday Brunch ที่ขึ้นชื่อลือชานี่กันสักหน่อย (สนนราคาจัดไป 3159 บาทโดยประมาณครับ!)







ผมไปถึงที่บริเวณจัด Sunday Brunch ก็ต้องพบกับคลื่นฝูงชนที่เรียกได้ว่ามากันแบบเข้าขั้น เบียดเสียดเลยก็ว่าได้ ทางโรงแรม Four Seasons จะใช้พื้นที่ของห้องอาหาร Madisons, Spice Market และ Aqua 3 ห้องอาหารเป็นที่รองรับลูกค้า ซึ่งผมนับคร่าว ๆ แล้วน่าจะรองรับได้สัก 200 คน (โดยประมาณ) ส่วนตัวผมนั้นนั่งที่ห้อง Madisons ห้องที่ผมชอบที่สุด ฝรั่งส่วนใหญ่ก็จะเลือกนั่งกันแบบ al fresco ที่ห้อง Aqua ไม่ก็นั่งตากแอร์กันที่ห้อง Spice Market ส่วนคนไทย และคนจีน (ที่เป็นลูกค้าสัก 30% ของ Sunday Brunch ในมื้อที่ผมไป) นั้นก็จะนั่งกันที่ห้อง Madisons และใช่ครับ ที่นั่ง  occupy สัก 90% แน่นขนัด ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม โรงแรมถึงไม่นำเจ้า Sunday Brunch นี่ไปรวมอยู่ในส่วนลดของบัตรโรงแรมแม้จะแพงแต่ยังขายดีขนาดนี้จะลดราคาไปทำไมล่ะโว้ย เจ้านายย

มาว่ากันต่อที่ตัวไลน์อาหารกันครับ ห้อง Madison ที่ผมนั่ง แน่นอน มีพระเอกเป็นตัวเนื้อ Steak จะมีให้เลือก ประมาณสัก 3-4 แบบ prime rib, tenderloin, sirloin อะไรประมาณนี้ ซึ่งเนื้ออร่อยไม่ผิดหวังที่ตัวร้านเป็น  Steakhouse ชื่อดังครับ (เผลอ ๆ ใครกะมากินเนื้อ มากินแบบ Sunday Brunch นี่น่าจะคุ้มกว่าด้วย เพราะแบบ a la carte มื้อเย็นจานนึงก็  3000 บาทโดยประมาณแล้ว) และก็จะมีพวก cold seafood วางอยู่ใกล้ ๆ กันกับ ซุ้ม Steak ครับ คือประทับใจจาก Steak มาแล้ว มันยังไม่พอครับ ผมรู้สึกซาบซึ้งมากเมื่อเจอกับก้ามปูทะเลนึ่งสีส้ม ๆ วางอยู่บนน้ำแข็งแบบละลานตา! คือกินมาก็หลายที่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นก้ามปูอลาสก้ากัน ซึ่งบอกตรง ๆ ผมกินปูมาแทบจะทุกปูในโลกล่ะ ผมว่าปูทะเล หรือปูดำบ้านเรานี่ล่ะ เนื้ออร่อยสุดแล้ว ซึ่งเจ้าก้ามแบบนี้ ถ้าไปกินร้านอาหารจีนทั่ว ๆ ไปก็คงสักก้ามละ 200 - 300 บาทได้ครับ แต่นี่.. มีให้หยิบแบบไม่อั้น และรสชาตินั้นสดดีอีกด้วย โอย .. ผมจัดไปร่วม ๆ 10 ก้ามได้ครับ ส่วน cold seafood อย่างอื่นก็โอเคเลยครับ สดหมด ที่ห้อง Madison นี่ก็จะมีซุ้มอีก 2 ซุ้มคือซุ้ม Cheese นานาชนิด ซึ่งผมไม่ได้แตะเลย เนื่องจากไม่ค่อยชอบเท่าไร และก็จะมีซุ้ม Crepes กับของหวานสไตล์ฝรั่งเศส สั่งเครปมาจานนึงกินแล้วไม่ค่อยผ่านเท่าไรครับ ประหนึ่งว่า 2 ซุ้มนี้มาตั้ง ๆ ไว้ให้เต็มพื้นที่ให้อาหารครบมากกว่าที่จะเป็น highlight ของงาน








ที่บริเวณ open-air ของห้องอาหาร Aqua นั้นก็เรียกได้ว่าน่าจะเป็นส่วนหลักของตัว Sunday Brunch เลย ไล่เรียงกันไปทีละซุ้ม อย่างแรกซุ้มเครื่องดื่ม เท่าที่กิน ๆ มา ผมพูดได้ว่าซุ้มเครื่องดื่มของ Four Seasons นี่อลังการสุดแล้ว แชมเปญและไวน์มีให้เลือกหลากหลายแบบ, แชมเปญเปิดขวดต่อขวดทำให้รสชาติดีสุด ๆ , Cocktail นั้นแน่นอนอะไรที่มาตรฐาน ๆ ก็มีหมด และสามารถ customize หรือให้ bartender แนะนำก็ได้ และค็อคเทลรสชาติดีครับ ไม่ได้กะโหลกกะลา สักแต่ว่า shake ๆ ๆ ๆ เข้าไปให้มันหลุดโลก แต่รสชาติเน่า ๆ แบบบางโรงแรม (ขอสงวนไม่เอ่ยนาม) และก็เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือจะไม่แอลกอฮอล์, เบียร์สด (สิงห์) เบียร์ไม่สด มีหมดครับ เรียกได้ว่า เป็นซุ้มเสบียงน้ำที่ครบครัน สุด ๆ จริง ๆ (ผมจัดไปร่วม ๆ 10 อย่างได้ครับ)

นอกจากซุ้มน้ำก็จะมีซุ้มอาหารญี่ปุ่น อันนี้แอบผิดหวังครับ เพราะเป็นซุ้มเล็ก ๆ มีให้หยิบเองเล็กน้อย แล้วก็จะมีแบบสั่งทำเป็น Sashimi ซึ่งปลาที่ให้เลือกมีน้อยมาก ไม่สมกับราคาเต็มของ Sunday Brunch ที่จ่ายไป และไม่เคียงบ่าเคียงไหล่กับซุ้มอื่น ๆ สักเท่าไร ผมสั่ง Sashimi รวมมาจานนึง หน้าตาจัดมาได้ดูดี แต่ความสดของปลายังไม่ค่อยผ่านสักเท่าไร อีกหนึ่งซุ้มที่ Fail ครับกับซุ้มอาหารญี่ปุ่น ใกล้ ๆ กันนั้นก็จะมีซุ้มพาสต้า กับ รีซอตโต้ และมีแม่ครัวยืนประจำทำให้สด ๆ จานต่อจานอยู่  1 คน ผมสั่ง spaghetti meat sauce  จานที่แบบโคตร basic มาจานนึงเพราะทางแม่ครัวแน่นำครับ รสชาติดีสมกับที่แนะนำ แต่แบบ มันก็สปาเก็ตตี้บ้าน ๆ อ่ะนะ ผมก็เลยกินไม่หมดเพราะอยากแบ่งกระเพาะไว้กินอย่างอื่น เห็นหลาย ๆ คนสั่ง Risotto กันครับ ซึ่งดู ๆ หน้าตาตอนที่เดิน ๆ สวนกับคนอื่นแล้วก็น่าจะอร่อยอยู่นะ








ใกล้ ๆ กับซุ้มพาสต้า ก็จะเป็นซุ้ม Foie Gras อีกหนึ่งซุ้มที่ฮอทฮิท ต้องมีคนประจำกันอยู่ 2 คนเลยทีเดียว ผมก็สั่ง ๆ มา 3-4 ชิ้นครับ เจ้าอาหารเพิ่มความอ้วนชั้นดีราคาแพงนี้ของ Sunday Brunch - Four Seasons ยังไม่ค่อยประทับใจผมเท่าไร หลาย ๆ ที่ในแบบซันเดย์ บรันช์ทำได้ดีกว่า แต่ตัวตับห่านก็ยังไม่ถึงกับแย่ ไม่ได้เน่า ไม่ได้ทำมาเละ ๆ แต่ละจานดูผ่านความตั้งใจทำมาในระดับนึง แต่คงเป็นพวก Foie Gras อาจจะเลือกใช้ตัวคุณภาพไม่ดีมันก็เลยไม่ดีก็เป็นได้ ใกล้ ๆ กันกับซุ้ม Foie Gras ก็จะมี ซุ้มอาหารจีน ซึ่งมี เป็ดย่าง, หมูกรอบ, เป็ดปักกิ่ง และโน่นนี่ ซึ่งก็รสชาติโอเคครับ ไม่เทพเท่าร้านจีนเทพ ๆ แต่ก็ดีเมื่อคิดว่าอยู่ในไลน์บุฟเฟ่ต์ ใกล้ ๆ กันอีกก็จะมีซุ้มของอาหาร Mediterranean  พวก Pita, Kebab อะไรพวกนี้ ผมไม่ได้กิน แต่เพื่อนผมที่ไปด้วยกันสั่งมาหลายอย่าง และบอกว่าอร่อยมาก เป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนชั้นดีเลย เอาไปขายเป็น a la carte ได้เลย (ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะเห็น มีลูกค้าหลายคนเดิน ๆ ถือจานนี้กัน)

ใกล้ ๆ กันอีกก็จะเป็นซุ้มอาหารไทยอีก 2 ซุ้มครับ ผมไม่ได้สั่งอาหารของซุ้มอาหารไทยเลย เลยไม่รู้จะวิจารณ์อย่างไร ไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่ามีอะไรให้สั่งบ้าง (รู้สึกว่าจะเป็นส้มตำ กับหมูปิ้ง, ลูกชิ้นปิ้ง?) อันนี้ก็ต้องขอผ่านไปจริง ๆ ครับ ใครพอมีข้อมูลก็ช่วยบอกผมหน่อยนะครับ ซุ้มตรงบริเวณด้านนอก open air ของห้องอาหาร Aqua ก็จะหมดแค่นี้แล้วล่ะครับ อ้อ ด้านนอกนี่จะมีวง Classic เล็ก ๆ 3 คนเล่นเพลงขับกล่อมไปตลอดมื้อด้วยครับ คนนั่งข้างนอกก็จะได้ยินกัน แต่ผมนั่งด้านในก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากคนจีน โช้งเช้ง ๆ กัน สนั่นห้อง -*- อ้อ เกือบลืม ซุ้มของหวานของ Sunday Brunch - Four Seasons นี่จะตั้งอยู่ในห้องอาหาร Madison เช่นเดียวกัน แต่จะอยู่ริม ๆ ด้านนอกหน่อย เท่าที่เดินดู แล้ว เรียกได้ว่าเป็นซุ้มของหวานที่อลังการงานสร้างอีกเช่นกัน ทางโรงแรมเอาเค้กชื่อดัง หน้าตางดงาม ที่ขายอยู่ใน Bakery Shop ของทางโรงแรมก้อนละ 800 บาทมาให้ตักกินกันแบบไม่อั้น รวมถึงพวก chocolate อะไรโน่นนี่อีกมากมาย แต่เนื่องจากผมไม่ใช่คอของหวานเท่าไร และก็อิ่ม ๆ จากอาหารอย่างอื่นแล้วก็เลยตักมาไม่กี่ชิ้นครับ อร่อยดีครับ คุณภาพระดับเดียวกันแบบก้อนละ 800 บาทที่เคยสั่งมาจริง ๆ







อีกสิ่งนึงที่ผมประทับใจ คือ การบริการของห้องนี้ครับ คือ ส่วนใหญ่ กับ Sunday Brunch คือเราก็จะเอาเลขโต๊ะเราไปให้ตามซุ้มต่าง ๆ ไปสั่งแล้วเค้าก็จะยกมาให้ใช่มั้ยครับ? แต่ของที่นี่จะพิเศษหน่อยคือ เราจะได้เป็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ มีเบอร์โต๊ะเราอยู่ เราจะเขียน ๆ อะไรที่เราอยากได้ แล้วไปยื่นให้พนักงานคนไหนก็ได้ในร้าน หรือไปยื่นที่ซุ้มเองก็ได้ รวมถึง ถ้าเราลืมเอาบัตรไป ก็จะมีพนักงานประมาณตัว libero ตัว  free มาคอยจด ๆ ให้เราแทน เจ๋งดีครับ

สรุป กับราคาอาหาร 3159 บาทโดยประมาณแล้ว เมื่อนึกถึงเงินที่เสียไปก็อาจคิดว่า "แพงว่ะ" อะไรแบบนั้น แต่เมื่อได้มาสัมผัส ได้มาเห็นไลน์อาหาร, ความอลังการและครบครันของไลน์อาหาร, การบริการอันยอดเยี่ยมของพนักงานแล้ว บางที 3159 บาทนี่อาจจะถูกไปก็ว่าได้ และผมว่า ฝรั่ง หรือคนจีนส่วนใหญ่ก็คงคิดกันแบบนั้นเพราะพวกพี่แกมากันมืดฟ้ามัวดินขนาดนี้ อืม แล้วคนไทยแบบเราล่ะครับ มีของดี ๆ แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ ตัว แล้วทำไมจะไม่ไปลองกันหน่อยล่ะ ว่ามั้ย?
































--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment