Sunday, September 23, 2012

Tables Grand Hyatt Bangkok Review

The Tables "Signature Dinner" - Grand Hyatt Erawan Bangkok - Traiditional European Cuisine ห้องอาหาร เทเบิลส์ แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บุฟเฟ่ต์ สเต็ก ไวน์ 



Overall Score  10/10
Taste   5/5
Ambiance  4.5/5
Service  5/5
Value   4/5

Tables - Traditional European Restaurant on BumRes.com



ห้องอาหาร The Tables @ Grand Hyatt Erawan นี่โดยส่วนตัว ผมไม่เคยรู้จักห้องนี้มาก่อนเลย หรือถ้าเอาจริง ๆ ก็คือไม่ค่อยได้รู้เรื่องห้องอาหารทั้งหมดของโรงแรม Grand Hyatt Erawan นี่สักเท่าไรด้วยซ้ำ เพราะไม่ค่อยเห็นรีวิว และแบบห้องอาหารในโรงแรมใกล้ ๆ กันนั้นมันดูดังกว่า ดูน่าดึงดูดกว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่หลังจากที่ได้มากินมื้อเย็นอันแสนวิเศษที่ห้องอาหาร Tables นี่แล้ว ผมรู้สึกว่าไม่น่าเพิ่งมารู้จักห้องอาหาร Traditional European อันแสนจะเท่ concept เก๋ บริการเลิศแห่งนี้เลย

ห้องอาหาร Tables นี่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานเปิดตัวครั้งแรกช่วงปลาย ๆ ปี 2552 ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อเทียบกับตัวโรงแรมที่เปิดมาตั้งแต่ตอนก่อนผมเกิดอีก ก็เรียกได้ว่าห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารน้องใหม่จริง ๆ ตัว concept ของห้องอาหารนี้ก็จะเป็นไปตามชื่อของห้องคือจะมีโต๊ะปรุงอาหารวางกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในร้าน และอาหารจานไหนที่เป็นจานเด่น จานดัง ตัวเชฟก็จะมาปรุงอาหารให้ข้าง ๆ โต๊ะเรา โชว์ลีลาการปรุงแบบเท่ ๆ อลังการ เรียกน้ำย่อยของเราให้หลั่งออกมามากขึ้นอะไรประมาณนั้น

มื้อเที่ยงของ Tables นี้ก็จะเป็น Set Lunch แบบ 3 Course ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าราคาเท่าไรหรือมีอะไรให้เลือกบ้าง จำได้คลับคล้ายคลับคลาเพราะอ่านผ่าน ๆ แค่นั้น ส่วนมื้อเย็นนั้นก็จะเป็นอาหารยุโรปแบบ a la carte มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายหมวดหมู่ และแต่ละหมวดหมู่ก็มีอาหารค่อนข้างเยอะดีทีเดียว สนนราคาของอาหารแต่ละจานก็ระดับห้องอาหารในโรงแรม หรือร้านอาหารตะวันตกหรู ๆ ทั่วไปแหล่ะครับ (อ่านว่า "แพง")







แต่กับมื้อที่ผมกำลังรีวิวนี้จะแตกต่างไปจากมื้อเย็นปกติเนื่องจาก ทางห้องอาหาร Tables @ Grand Hyatt Erawan Bangkok เพิ่งคิด concept ที่ชื่อว่า Tables Signature Diner ขึ้นมาคือจะเป็นการรวบรวมเอาตัว appetizer เด่น ๆ ดัง ๆ ที่ลูกค้าสั่งกันเยอะ มาประจำตามโต๊ะ - Tables ต่าง ๆ 5 โต๊ะ โชว์การทำกันสด ๆ รวมถึงเราสามารถเดินไปสั่งตัว appetizer ทั้ง 5 แบบนี้ได้เองหรือจะให้พนักงานไปสั่งให้ก็ได้ อ้อ ตัว appetizer นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะครับ สั่งเท่าไรก็ได้ ซึ่งอันนี้ล่ะที่ผมว่าเป็นจุดขายอย่างนึงและทำให้ผมติดใจในมื้อนี้เลยเนื่องจากตัว appetizer 5 อย่างนี้เป้นการคัดสรรมาแล้ว แต่ละอย่างเลยแบบอร่อยจริง ๆ และแต่ละจานจะมีตัวพ่อครัว แม่ครัว ปรุงกันสด ๆ จานต่อจานก็เลยยิ่งทำให้เพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีก

ตัว Appetizer ที่ให้เลือกจะมี 5 อย่าง คือ ปลาแซลมอนรมควันจากสก็อตแลนด์ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง (Scottish Smoked Salmon - Horseradish, Chives, Sour Cream, Capers - 470 บาท) , แฮม "เซอราโน" จากประเทศสเปนเสิร์ฟพร้อมเมล่อน (Serrano Ham - Melon) , ซีซาร์สลัด (Caesar Salad - Croutons, Reggiano Parmesan, Bacon - 420 บาท) , ซุปกุ้งบอสตันล็อบสเตอร์ปรุงในตำรับซุปขั้น (Boston Lobster Bisque - Cognac, Chives - 850 บาท), ริซอตโต้ปรุงรสด้วยแชมเปญ เสิร์ฟพร้อมเห็ดทรัฟเฟิลและพาเมซานชีส (Champagne Risotto - Black Turffle, Reggiano Parmesan - 650 บาท)







อาหารเรียกน้ำย่อยทั้ง 5 อย่างนี้ อร่อยล้ำสมกับคำว่า Signature Dish หมดเลยครับ ที่ผมชอบที่สุดคือตัว Boston Lobster Bisque ซุปเป็นซุปที่อร่อยมาก รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมลงตัว น่าจะเป็น Lobster Bisque ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลยก็ว่าได้ และยิ่งเสริมรสชาติซุปเข้าไปด้วยเนื้อ Lobster ชิ้นโต ๆ ที่แกะออกมาสด ๆ จาก Maine Lobster ที่วางสุม ๆ กันอยู่ที่โต๊ะปรุงเจ้าซุปถ้วยนี้แล้วก็ยิ่งสุดยอดเข้าไปใหญ่ครับ ส่วนเพื่อนผมที่ไปด้วย 2 คนชอบ Champagne Risotto กัน ชอบกันแบบชอบมากด้วย เติมกันคนละ 3-4 จานเลยล่ะ ส่วนตัวผมก็โอเคนะ แต่ยังไม่ชอบเท่าตัวซุป และนอกจาก Appetizer 5 อย่างนี้แล้ว แต่ละโต๊ะก็จะมีสิทธิ์ได้รับ Seafood on Ice ที่เป็นหอยนางรม, กุ้งลายเสือ และหอยแมลงภู่สด ๆ มากินเล่นอีกด้วย ตอนแรกผมไม่รู้ครับว่าเจ้าจานนี้จำกัดโต๊ะละ 1 ที่ก็เลยซัดไปคนเดียวเกือบหมดไม่ได้แบ่งเพื่อนเลย เพราะว่ามันสด หวาน อร่อยมาก ๆ เลยกินเพลินไปหน่อย ฮ่า ๆ






ส่วนตัว Main Course นั้นลูกค้าแต่ละคนสามารถเลือกได้คนละอย่าง จากทั้งหมด 8 อย่างที่มีให้เลือก เช่นเดียวกันกับ Appetizer แต่ละอย่างจะคัดที่เด่น ๆ มาแล้วทั้งหมด โดย Main Course ของผมจะเป็น สเต็กเนื้อสันในพร้อมซอสพริกไทยสดตามตำรับฝรั่งเศส (Steak au Poivre - Tenderloin, Green Peppercorn Sauce - 1,100 บาท) จานนี้บอกตรง ๆ ว่าประทับใจมากครับ เนื้อไม่ได้ไป grill หรือไปทอด แต่ผ่านกรรมวิธีแบบ Sous-vide เลยทำให้ได้เนื้อนุ่ม อร่อยแบบไม่รู้จะนุ่มยังไงแล้ว เนื้อมาแบบ medium rare พอดีและเข้าคู่เป็นอย่างดีกับซอสรสชาติเค็ม ๆ เผ็ด ๆ จากพริกไทย ตัว side dish ที่เป็นแครอทชิ้นเล็ก ๆ ก็หวานฉ่ำอร่อย และ Mash Potato ก็เนียนนุ่มละมุนละไม จานนี้ เป็นสุดยอด Steak ของผมในช่วง 3-4 เดือนมานี่เลย ช่วงหลัง ๆ ที่กินแล้วประทับใจก่อนหน้านี้ก็มีที่ Madison - Four Seasons แค่ที่เดียวเท่านั้นครับ





ส่วน Main Course ของเพื่อนผมเป็น  เนื้อแกะจากออสเตรเลียย่าง เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งผัดเนยและถั่วแขก (Grilled Australian Lamb Chops - Sauteed Potatoes, Green Beans - 1,180 บาท ) กับ ปลากะพงย่างซอสพิเศษปรุงจากมะเขือเทศ มะกอกและแคปเปอร์ (Pan-fried Sea Bass - fried rice, tomatoes, olives, capers - 750 บาท) ทั้ง 2 จานนี้ผมแอบกินไปอย่างละไม่กี่คำเนื่องจากไม่อยากแลกเนื้อเทพของผมสักเท่าไร ผมชอบตัวปลากะพงมากกว่าตัวเนื้อแกะ ปลารสชาติดี ทอดมาได้ perfect ดีมาก แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ารสชาติยังไม่สุดพอ น่าจะอร่อยกว่านี้ ส่วนตัว Lamp Chop นี่ค่อนข้างธรรมดา ๆ ครับ เหมือนตัวคุณภาพเนื้อแกะจะยังไม่ค่อยดี แต่ว่าการ grill นี่สมบูรณ์ล่ะ เพื่อนผม 2 คนก็เห็นด้วยกับผมเช่นเดียวกันครับ






พอจบจากอาหารคาว ตัว Tables Signature Diner @ Grand Hyatt Erawan Bangkok ก็จะมี ชีสนานาชนิดจากยุโรป (European Cheese Selection - 350 บาท) และ ขนมหวานสไตล์เทเบิลส์ (Tables Dessert Platter) มาให้กินตบท้ายอีก ตัวขนมหวานนั้นพวกผมค่อนข้างเฉย ๆ กัน ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นในด้านรสชาติ จะมีที่โดดเด่นก็คงเป็นความหลากหลายของขนมที่ยกมาให้ ส่วนตัว Cheese นั้นเจ๋งดีครับ อร่อย ไม่เหม็น และเป็นชีสจานแรกที่ผมกินเป็นของหวานได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลย เยี่ยมเลยครับชีสของร้านนี้





สรุป มื้อที่แบบจัดหนักมาก ๆ ของพวกผมที่ห้องอาหาร Tables - Grand Hyatt Erawan Bangkok นี่ก็เรียกได้ว่าประทับใจสุด ๆ ครับ โอเคตัวของหวานอาจจะยังไม่เด่นแต่แบบ ของคาวกับของเรียกน้ำย่อยนี่ทำคะแนนไว้สูงลิ่วจนผมต้องยอมมอบคะแนน 10 เต็มที่นาน ๆ ทีจะมอบให้ร้าน ๆ นึงให้กับร้าน Tables แห่งนี้ซึ่งจริง ๆ ผมก็ประทับใจกับการบริการของพนักงานที่แบบไม่รู้จะติอะไร บริการดีสุด ๆ มารยาทดี สุภาพเรียบร้อย ดูแลเราแบบไม่ต้องให้บอก และบรรยากาศร้านที่แบบเรียบหรู เหมือนหลุดไปในฝรั่งเศสอะไรแบบนั้น ประทับใจ 2 อย่างนี้ด้วยก็เลยแบบทำให้มื้อนี้เป็นมื้อที่พิเศษสุดไปจริง ๆ กับราคา 2,200++ บาทนั้นมันอาจจะแพงสำหรับหลาย ๆ คน(ตัวผมเองด้วย) แต่เมื่อพิจารณาถึงบุฟเฟ่ต์ชั้นอ๋องในบ้านเราส่วนใหญ่ ราคาก็ประมาณนี้กันอยู่แล้ว และกับบุฟเฟ่ต์ลูกผสมแบบ Tables Signature Dinner นี้ที่ผมว่ามันดีกว่า Buffet แบบเต็มยศซะอีกเพราะเราจะได้อาหารแต่ละจานที่พิถีพิถันแทน ผมว่า.. นาน ๆ ทีมาเสียเงินก็อาจจะคุ้มดีเหมือนกันนะครับ อ้อ เจ้า Campaign นี้มีแค่เดือน ต.ค. - พ.ย. นะครับ อย่าลังเลนาน เดี๋ยวจะอดเอา

ปล. ราคาอาหารในวงเล็บคือราคาที่เขียนอยู่ในเมนูแบบ a la carte ของทางร้านครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment