Saturday, September 8, 2012

Magokoro Ramen Thonglor Bangkok Review

Magokoro Ramen - Japanese Ramen Restaurant at Thonglor Soi 3, Bangkok มาโงโคโระ ราเมน ร้านราเมน ทองหล่อ ซอย 3 เบียร์สด แกล้มเหล้า



Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4.5/5
Value   4/5

Magokoro Ramen - Japanese Ramen Shop on BumRes.com



ร้าน Magokoro Ramen หรือ มาโงโคโระ ราเมน ณ ทองหล่อ ซอย 3 แห่งนี้ผมเคยรีวิวเอาไว้เมื่อสัก ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา จำได้ว่าครั้งนั้นค่อนข้างประทับใจในรสชาติของราเมน และปริมาณความคุ้มค่าต่อราคาที่เสียไป พอดีวันนี้ เริ่มหมดมุขกับการตามหาร้านอาหารก็เลยชวนแม่กับพี่ผมไปกินซ้ำร้านนี้กันอีกรอบหลังจากไม่ได้ไปมานาน บรรยากาศ และการบริการของร้าน Magokoro Ramen ยังคงเหมือนเดิม พนักงานบริการขยันขันแข็งเสียงดังฟังชัดตามมาตรฐานคนญี่ปุ่น บรรยากาศก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน เป็นโต๊ะกับ Counter Bar อย่างละครึ่ง และมีครัวกึ่ง ๆ เปิดให้เรามองเห็นพ่อครัวทำอาหารได้ไปด้วยในตัว

อาหารของทางร้าน Magokoro Ramen นี่แน่นอน หลัก ๆ ก็คือราเมน โดยราเมนของร้านนี้จะเป็นราเมนน้ำซุปกระดูกหมู (Tonkotsu) เป็นหลัก และก็เพิ่รสชาติน้ำซุปให้เป็นรสต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่นใส่เกลือก็กลายเป็น Shio Tonkotsu อะไรแบบนี้ นอกจากตัว Tonkotsu แล้วก็จะมีราเมนเต้าเจี้ยว หรือ มิโซะ และอื่น ๆ เช่น ซุปงา (Tan Tan Men) หรือ ซุปกระเทียม (Mayu) ด้วย เรียกได้ว่าราเมนร้านนี้ เค้าน้ำซุปเยอะจริงอะไรจริงและมีราเมนหลายแบบให้เลือกจริง ๆ ไม่เหมือนกับราเมนของบางร้าน ที่แค่เพิ่มหมูชาชูเยอะหน่อยก็ตั้งเป็นราเมนแบบนึง, ใส่หัวหอมเยอะหน่อยก็ตั้งเป็นราเมนอีกแบบนึง อะไรแบบนั้น (Fail มากผมว่า ถ้าแค่นั้น ทำเป็น topping เอาก็ได้ ไม่เห็นต้องมาตั้งเป็นราเมนพิเศษอะไร)

ส่วนอาหารอย่างอื่นนอกจากราเมนก็จะเป็นอาหารสไตล์จีน ๆ เป็นประมาณจีนกินเล่น ๆ ไม่เน้นหน้าตาและรูปลักษณ์ คล้าย ๆ ของร้าน Ramen Tei อะไรประมาณนั้น ตัวเมนูอาหารกินเล่น หรืออาหารจีนนี่มีให้เลือกเยอะครับ เยอะระดับเดียวกันกับ Ramen Tei เลย หรือเยอะกว่าร้านราเมนทั่วไปมากเลยล่ะครับ






เข้ากันที่ตัวราเมนก่อนเลย ราเมนในมื้อนี้ของผมเป็น Karamiso Ramen (ราเมนซุปเต้าเจี้ยวเผ็ด - 195 บาท) ราเมนที่ตัวน้ำซุปดูเผ้ด เผ็ด น่ากิ๊น น่ากิน รสชาติน้ำซุปดีครับ เผ็ดไม่มาก ออกแนวกลมกล่อมมากกว่า ไม่เข้มข้นจ๋า แต่ก็ไม่เบาบางไป ลงตัวดีมากครับ ตัวเส้นก็เป็นเส้นราเมนไซส์มาตรฐาน ไม่มีอะไรให้ต้องติ ส่วนหมูชาชูก็เป็นหมูชาชูเนื้อฉ่ำ ๆ แผ่นใหญ่ ๆ เนื้อติดมัน อร่อยครับ อาจจะยังไม่เทพเท่าหมูชาชูเทพ ๆ บางร้านในกรุงเทพ แต่ดีกว่าหลาย ๆ ร้านในกรุงเทพนะผมว่า ตัวไข่ก็เป็นไข่ที่เกือบ ๆ จะออนเซ็นมากำลังดี จริง ๆ ถ้าตั้งใจทำน่าจะได้ออนเซ็นกว่านี้ และก็ปรุงรสมากำลังดีครับ รวม ๆ แล้วเป็นราเมนที่ยังคงรสชาติดีเยี่ยมเหมือนเดิม แต่หลัง ๆ ผมได้ไปกินร้านที่อร่อยกว่านี้เช่น Fujiyama Go Go @ Sukhumvit 39 หรือ Ton Chin Kan Ramen @ Sukhumvit 22 ความประทับใจแบบที่กินตอนแรกกับร้าน Magokoro Ramen แห่งนี้ก็เลยแอบลดลงไปเล็กน้อย แต่ก็ยังจัดเป็นร้านที่รสชาติยอดเยี่ยมอยู่นะครับ อยู่เหนือค่ามาตรฐานในกรุงเทพหลาย ๆ ร้านเลยล่ะ





ราเมนของพี่ผมเป็น Shio Tonkotsu Ramen (ราเมนซุปกระดูกหมู + ซุปเกลือ - 190 บาท) ซึ่งผมชิมแค่น้ำซุป เพราะอย่างอื่นเหมือนกับตัว Karamiso Ramen ของผมหมด น้ำซุปจะออกแนว นุ่ม ๆ เบา ๆ มีกลิ่นเกลือจาง ๆ อร่อยดีครับ พี่ผมชอบพอตัวเลย ส่วนของแม่ผมเป็น Ramen Komori (ราเมนโคโมริ ถ้วยเล็ก - 150 บาท) อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำซุปอะไร ไม่ได้ถามพนักงานด้วย แต่ดูจากสีและรสชาติแล้ว น่าจะเป็น Tonkotsu ผสมกับ Miso ครับ รสชาติก็อร่อย กลมกล่อมอีกเช่นกัน อร่อยจนแม่ผมกินเกลี้ยงไม่เหลือสักหยดเลยล่ะครับเจ้าราเมนอันนี้







ส่วนของกินเล่นในมื้อนี้มี 3 อย่าง อย่างแรก Shu-mai (ขนมจีบ - 100 บาท) เป็นขนมจีบที่แพงพอตัวเฉลี่ยลูกละ 20 บาท (แต่ก็ยังถูกกว่าตามโรงแรม 3 ลูก 100 บาท) รสชาติก็โอเคครับ พอไหว ๆ แต่ยังไม่เข้าขั้นขนมจีบตามร้านอาหารจีนเทพ ๆ // อย่างที่ 2 เป็น เกี๊ยวซ่า (Gyoza - 100 บาท) เกี๊ยวซ่าของร้าน Magokoro Ramen นี่จะทำทอดมาแบบไม่ค่อยเกรียมมากเหมือนหลาย ๆ ร้านที่เคยกินมา จะมีความนุ่ม ปนความแข็งอยู่ อร่อยดีครับ แต่แอบแพงไปหน่อย 100 บาทแหน่ะ ส่วนอย่างสุดท้าย ไก่แช่เหล้าราดซอส (Banbanji - 130 บาท) อันนี้กินแล้วไม่รู้สึกถึงรสเหล้าเท่าไร ได้แต่รสชาติของซอสที่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ส่วนตัวไก่ก็เป็นไก่แบบที่ฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ มา ไม่ได้มาเป็นชิ้นใหญ่ ๆ เนื้อแน่น ๆ ฉ่ำ ๆ จานนี้ก็กินแบบแกล้มเหล้าก็คงโอเลล่ะครับ

สรุป ครั้งที่ 2 กับร้าน Magokoro Ramen @ ทองหล่อ ซอย 3 ของผม ก็ยังเป็นอีก 1 มื้อที่ประทับใจเช่นเคยครับ ราเมนรสชาติเยี่ยม โดยเฉพาะตัวน้ำซุปและหมูชาชูที่โดดเด่นมาก พนักงานก็บริการดี ราคาอาหารก็ไม่แพง แต่ที่โดดเด่นสุดเหนืออื่นใดคือ ร้านนี้ไม่มีพักตอนบ่ายครับ สำหรับผมที่บางวันจะปาร์ตี้จนดึกดื่นและตื่นมาไม่ทันมื้อเที่ยงแล้ว การมีร้านที่ไม่มีพักตอนบ่ายไว้ให้ไปฝากท้องนี่เป็นอะไรที่สวรรค์รำไรชัด ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมว่าหลาย ๆ ร้านสมัยนี้ต้องชอบพักตอนบ่ายกันด้วย โดยเฉพาะ เสา-อา เปิด ๆ มันไปเหอะครับทั้งวัน เพื่อน ๆ ผมแทบจะทุกคน วันหยุดก็เห็นตื่นกันเที่ยง ตื่นกันบ่ายงี้ประจำ ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น ดีกว่าได้ไปพักผ่อนสั้น ๆ แต่ไม่มีลูกค้านะผมว่า!

ปล. ราคาอาหาร ดูที่ tab menu ได้เลยนะครับ แต่แอบมีราคาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 15 บาทต่อ 1 รายการครับ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment