Tuesday, September 25, 2012

Aston Gastro Bar CDC Bangkok Review

Aston Gastro Bar - Modern European Cuisine at CDC, Bangkok แอสตัน แกสโทร บาร์ ร้านอาหารยุโรป อาหารฝรั่ง สเต็ก พาสต้า เบียร์สด เลียบทางด่วนรามอินทรา



Overall Score  9.5/10
Taste   5/5
Ambiance  4/5
Service  4.5/5
Value   4/5

Aston Gastro Bar - European Restaurant on BumRes.com









จากที่เมื่อสัก 2 ปีที่แล้วผมได้ไปกินร้าน Ason Gastro Bar @ CDC มาและรีวิวเอาไว้ วันนี้มีโอกาสได้ไปมาอีกครั้งเนื่องจากได้ข่าวมาว่าทางร้านมีการปรับเปลี่ยนเมนูไปจากเดิมเยอะพอตัว คือผมไปตอนร้านเพิ่งเปิดใหม่ ๆ เมนูตอนนั้นก็เลยเป็นเมนูที่ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไร แต่สำหรับมื้อนี้ที่ไปนี่เรียกได้ว่าเมนูต่างไปจากเดิมเยอะครับ ถามตัวเชฟ ก็ได้ความมาว่าตอนแรก ๆ ที่ทำนั้นยังไม่ค่อยกล้าใส่ Idea ใส่ความคิดตัวเองลงไปมาก เพราะกลัวลูกค้าจะรับไม่ได้ ก็เลยค่อย ๆ ใส่ ๆ ยัด ๆ ลงไป จนผ่านมา 2 ปีก็เลยได้เป็นเมนูที่แสนจะโดดเด่นแบบในปัจจุบันตอนนี้

บรรยากาศของร้าน Aston Gastro Bar @ CDC จากเมื่อ 2 ปีก่อนเป็นอย่างไร ในวันที่ผมไปทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมครับ ร้านตกแต่งสไตล์ European ๆ ย้อนยุคเล็กน้อย ไฟสลัว ๆ หน่อยและก็มีโต๊ะด้านนอกแบบ  Open Air สำหรับลูกค้าที่อยากสูบบุหรี่หรืออยากนั่งสัมผัสลมร้อน ๆ ของเมืองไทยเรา ส่วนการบริการจำได้ว่าตอนนั้นมา การบริการดี พนักงานดูแลดี รู้เรื่องอาหารละเอียด แนะนำอะไรได้เป็นอย่างดี ณ วันที่ผมไป พนักงานผมไม่แน่ใจว่าได้เปลี่ยนคนไปรึเปล่า แต่ทุกอย่างก็ยังคงดีเหมือนเดิมเช่นเดียวกัน







เข้าถึงเรื่องอาหาร จำได้ว่าช่วง 2 ปีที่แล้วที่มานั้นเป็นช่วงที่ผมเพิ่งเริ่มจะตะลุยกินอาหารพอดี ตอนเห็นราคาของร้าน Aston Gastro Bar @ CDC เมื่อตอนนั้นเลยรู้สึกว่าราคาแอบแพงไปพอตัวเลย (ยิ่งเมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ ในละแวก CDC ด้วยกันนี่ด้วย) แต่หลังจากที่ผ่านร้านอาหารฝรั่ง ร้านอาหารยุโรปมาเยอะ และกลับมาดูเมนูอาหารของร้านนี้อีกครั้งก็ได้ความว่าจริง ๆ แล้วราคาอาหารของร้านนี้เค้าไม่แพงเลยนะเนี่ย Main Course ส่วนใหญ่ไม่ถึง 500 บาท และ Appetizer 100 กว่าบาทอะไรแบบนี้มันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลดีทีเดียว

จากคราวที่แล้วที่มาจำได้ว่าอาหารของร้านนี้นั้นค่อนข้างจะ Fusion ค่อนข้างจะ Molecular ไปพอตัวแล้ว มางวดนี้ อาหารแปลกตา และแนวกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก บางอย่างคาดไม่ถึงถึงหน้าตาและการนำเสนอ แต่เป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะครับ ได้กินได้เห็นแล้วแบบ เอ้อเว้ย เจ๋งดี คนไทยก็ทำอาหารบรรเจิด ๆ แบบนี้ได้นะเว้ย อะไรแบบนี้ อ้อ พูดถึงตัวเชฟใหญ่ประจำร้าน "เชฟต้น" กันสักหน่อย คือหลายท่านที่เคยดูรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย อาจจะเคยเห็นเชฟต้นไปแข่งมาแล้ว (แต่แพ้ -*-)  ตัวเชฟต้นนี่ถ้าเอาจริง ๆ ยังอายุไม่เยอะครับ พอ ๆ กับผมเลย  (28 ปี) แต่เป็นเชฟหนุ่มที่มากประสบการณ์เพราะหลังจากจบจากสถาบันสอนทำอาหาร Gordon Blue ก็ได้ไปฝึกปรือฝีมือตามร้านอาหารฝรั่งมาอีกหลายร้าน จนมาเปิดร้าน Ason Gastro Bar @ CDC แห่งนี้เมื่อ 2  ปีที่ผ่านมานี่เอง








เข้าเรื่องอาหารกันเลย ตัว Appetizer ในมื้อนี้นั้นมีกันค่อนข้างเยอะ (มื้อนี้สั่งเยอะครับไปกันหลายคน) เนื่องจากบางจานเป็นอาหารกินเล่นแบบ กินเล่นจริง ๆ (ประมาณกินคำเดียวหมด) ก็เลยกลายเป็นมี Appetizer ในมื้อนี้เยอะพอตัว เริ่มจานแรกเป็น Ume Bomb (Chinese plum spherified - 65 บาท) หรือบ๊วยจีนที่เอาไปหุ้มด้วยเจลาตินและเสิร์ฟใส่ช้อนมาพอดีคำ จานนี้ แปลก แหวก แนวตั้งแต่เริ่มจานแรกเลยครับ มันดูน่ากิน น่าลองมาก ๆ ตอนเห็นแว่บแรก และพอได้กินแล้วก็อืม อร่อยดี ส่วนของกินเล่นแนว ๆ อีกอย่างก็เป็น Watermelon CRU (Compressed with vodka, lime zest, Sea Salt - 135 บาท) จานนี้ก็แนวอีกแล้วคือเป็นแตงโม ไปอัดมากับวอดก้าและก็ผสมมะนาวกับเกลือหน่อย อร่อยดีครับ กินแล้วมันชุ่มฉ่ำ ๆ มีรสเหล้า ตัดกับรสเค็ม ๆ จากเกลือ กินกันเพลินเลยล่ะ อาหารกินเล่นจานสุดท้าย
Mushroom Cappuccino (Truffle foam, crouton - 165 บาท) ก็เป็นอะไรที่แนวอีกแล้วเช่นกัน (ผมว่าผมจะเลิกเขียนคำว่า "แนว" ในรีวิวนี้ถ้าจะดี เพราะทุกจานมันแนวหมด ฮ่า ๆ) จานนี้ผมกับเพื่อนชอบที่สุดในของกินเล่นแล้วเนื่องจากตัวน้ำซุปเห็ดมันอร่อยมาก และแบบทางร้าน Aston Gastro Bar @ CDC ทำมาได้เป็น Cappuccino  จริง ๆ มีโฟมทรัฟเฟิลโปะมาบนซุปเห็ด จานนี้ทางร้านเสิร์ฟมาในแก้วกาแฟ และให้ซดเป็นกาแฟด้วยก็เลยยิ่งแนวเข้าไปใหญ่ อร่อยครับ






Appetizer แบบจริงจังขึ้นมาหน่อยก็มีอีก 4 อย่าง จานแรกเป็น Cold Smoke Tuna (Spicy dressing, nashi pear, spring onion - 195 บาท) จานนี้คราวที่แล้วผมได้กินมาแล้ว และผ่านไป 2 ปีก็ยังมีอยู่ในเมนูเลยเดาว่าน่าจะเป็นจานที่ขายดี ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจครับ เพราะมันกินแล้วสดชื่นดี เนื้อปลาสด ๆ เย็น ๆ คลุกมากับซอสพริกที่เผ็ดกำลังดี และกินกับสาลี่ฝานมาบาง ๆ หวาน ๆ ลงตัวมาก , จานต่อมาเป็น Organized Caesar Salad (Bacon, crouton, anchovy, parmesan - 150 บาท) จานนี้ก็ตามชื่อจริง ๆ ทางร้านจัดระเบียบซีซาร์สลัดมาให้เรา ให้กินแบบปอเปี๊ยะสดแบบเวียดนาม ซึ่งก็ดีครับ แต่ทำไมไม่รู้ ผมกินแล้วเหมือนมันยังขาดอะไรไปเล็กน้อย อาจจะเป็นความเย็นของผัก หรือตัวปอเปี๊ยะ เอ๊ย ซีซาร์สลัดแต่ละชิ้นที่คำมันเล็กไปหน่อย กินแต่ละคำแล้วมันไม่ได้สัมผัสมากพอ






Appetizer อีก 2 จานเป็น Foie Gras Terrine 2.0 (Granoia, sorret gelee, strawberry - 475 บาท) และ Caramelized Foie Gras (Apple, umeshu, walnut, gaufrette - 495 บาท) จานแรกนั้นเป็น Foie Gras Terrine ที่น่าจะสวยที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในชีวิตเลย งดงามเหมือนเป็นเทอรีนในทุ่งดอกไม้อะไรแบบนั้น ส่วนรสชาตินั้น เทอรีนไม่เหม็นเลยเนื่องจากเป็นตับห่านที่สุกแล้วแล้วถึงเอามาทำ รสชาติดีครับ ตัวดอกไม้ ต่าง ๆ นา ๆ ในจานทำให้สร้างความหลากหลายของรสชาติดี ส่วน Foie Gras อีกจานนั้นก็เป็นอะไรที่แอบ Traditional เล็กน้อย ไม่ค่อยเหมือนกับอาหารจานอื่นที่สุดแสนจะ Modern ซึ่งหน้าตาก็สวยกว่าตับห่านร้านอื่น ๆ ครับ ก็เจ๋งดี (แต่ไม่เท่าจานแรก) ส่วนรสชาติก็ไม่รู้จะติอะไรครับ ตับ นุ่ม อร่อย มีทำ Caramelized ที่ผิวมาด้วย ทำให้กินแต่ละคำนี่จะมีรสชาติ 2 แบบ มัน ๆ กับหวาน ๆ ปนกัน และยิ่งถ้ากินกับซอส, และ garnish ที่ให้มาในจานด้วย รสชาติก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก เจ๋งดีครับ






Main Course ในมื้อนี้ก็มีถึง 6 อย่าง (จัดหนักจริง ๆ ครับมื้อนี้) อย่างแรกที่ได้เป็น Snowfish Japonaise (Miso, yuzu soba, shishito pepper, seaweed, dashi - 660 บาท) เป็นปลาหิมะที่เอาปรุงรสด้วยมิโซะแล้วเอาไปทำให้สุกด้วยวิธี Sous-vide (ร้าน Aston Gastro Bar @ CDC นี่จริง ๆ อาหาร ​Main Course หลายอย่างใช้วิธี Sous-vide หมดเลย) พอผ่านกรรมวิธีนี้ก็เลยทำให้ได้เนื้อปลาหิมะที่ไม่หด ชิ้นอวบอูม น่าหม่ำดีแท้ ส่วนรสชาตินั้น เจ๋งครับ มันเหมือนเป็นรสชาติแบบ East meet West ยังไม่ทราบ กินแล้วแบบเป็นรสชาติแปลกใหม่จริง ๆ กับรสชาติที่ได้จากปลาหิมะ , Main Course อย่างที่ 2 เป็น Chicken (Moral, barley cream, asparagus, turmeric, chicken jus - 395 บาท) จานนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าเป็น Main Course จากไก่ ในร้านอาหารยุโรปที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลย ไก่เนื้อนุ่มและฉ่ำมาก (เป็นไก่ส่วนสะโพก) คือแบบแต่ละก้อนนี่แม้จะใหญ่ขนาดที่ผู้หญิงหรือคนปากเล็กคงกินคำเดียวไม่หมด แต่ผมสวาปามเข้าไปคำเดียว แต่แบบมันเป็นคำเดียวที่เคี้ยวแล้วมีความสุขมาก ๆ ยิ่งค่อย ๆ เติมรสชาติในปากด้วย อะไรก็ไม่รู้คล้าย ๆ ข้าวเม็ดเล็ก ๆ ปรุงรสมาเข้าไปอีก ยิ่งอร่อยครับ ยอดเยี่ยมจริง ๆ จานนี้







Main Course อย่างที่ 3 เป็น Duck Breast (Cherry duck, confit nashi pear, duck fat potato fondant, cherry/juniper berry jus - 395 บาท) จานนี้รสชาติโดยรวมโอเคครับ ทั้งซอสและ garnish ทั้งหลายทั้งปวงที่ใส่มาในจาน จะมีก็แต่ตัวเนื้อเป็ดกินแล้วมันให้ความรู้สึกธรรมดามาก ๆ ไม่รู้เพราะเป็นเป็ดบ้าน ๆ ของไทยรึเปล่า คือแบบอร่อยสู้เจ้าจานไก่ไม่ได้เลยครับจานนี้ ส่วน Main Course อีกจานก็เป็น Tenderloin Wagyu (Australian wagyu A3 tenderloin, smoked potato, pearl onion, mushroom, truffle sauce - 1100 บาท) จานนี้ก็เป็นอีกจานที่ใช้วิธี Sous-vide มาเนื้อวากิวนุ่ม อร่อย ไม่รู้จะติอะไรครับ และทางร้าน Aston Gastro Bar @ CDC Bangkok ยังมีการเพิ่มความอร่อยเข้าไปด้วยไขกระดูกที่เลาะออกมาวางโปะบนตัวเนื้ออีก คือแบบกินแต่ละคำก็จะมีเนื้อนุ่ม ๆ เค็ม ๆ ผสมผสานกับไขกระดูกมัน ๆ โอย ไอเดียบรรเจิด รสชาติเลิศจริง ๆ






Main Course 2 จานสุดท้ายเป็นพวกอาหารจานเดียวสไตล์อิตาเลียนครับ จานแรก Pasta Mentaiko (Crab spicy pollock roe, onion, toasted chilli - 345 บาท) จานนี้ก็อร่อยใช้ได้ ทางร้านทำมาเจ๋งตรงที่ทำให้แต่ละอณูของเส้นมีเจ้าไข่ปลาค็อดเกาะอยู่ได้ท้งหมดได้อย่างไรก็ไม่ทราบ แต่จริง ๆ ผมแอบอยากได้เป็นซอส ๆ ให้แบบกินแต่ละคำแล้วมันชุ่มฉ่ำกว่านี้จริง แต่ถ้าคิดว่าเป็นพาสต้าแห้ง ก็เป็นพาสต้าแห้งที่อร่อยจานนึงแล้วล่ะครับ ส่วนจานสุดท้ายของอาหารคาวนั้นเป็นอาหารสุดแนว (ไหนบอกว่าจะไม่ใช้คำนี้?) กับ Risotto Sea Urchin & Wasabi (Nori, kaiware shoot - 450 บาท) คือแบบคิดได้ไง เอา รีซ็อตโต้มารวมกับไข่หอยเม่นและวาซาบิ จานนี้รสชาติเป็นเอกลักษณ์มากครับ กินไปแต่ละคำนี่ได้รสหอม ๆ หวาน ๆ ของหอยเม่น ผสมกับวาซาบิและชีส โอย เจ๋งดี (แต่เหมือนผมอยากได้รสเข้มข้นกว่านี้อีกนิด)









หมดของคาวเข้าของหวานกันต่อของหวานในมื้อนี้มี 3 อย่าง Truffle Waffle (Summer truffle, condesne milk gelaton, egg waffle - 195 บาท, Chocolate Foam (Hot chocolate foam, frozen white chocolate - 195 บาท และ Deconstructed Carrote Cake (Carrot jelly & poach, cinnamon ice-cream, vanilla cream cheese, raisin gel - 175 บาท) ทั้ง 3 อันนี้ผมกลับไม่ประทับใจเท่าของคาวและ Appetizer ที่กินมาสักเท่าไร ไม่รู้เพราะของคาวมันเทพเกินไป หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ -*- แต่ถ้าให้เลือกที่ชอบที่สุดในนี้ก็คงเป็นตัว Chocolate Foam ซึ่งแบบทางร้าน Aston Gastro Bar @ CDC Bangkok นี่เสิร์ฟได้อลังการงานสร้างมาก ๆ ครับ มาเป็น Liquid Nitrogen เลย รสชาติก็เข้มข้น ๆ Chocolate จ่าดี ส่วนจานที่ชอบรองลงมาก็คือ Decondstructed Carrote จานนี้เจ๋งตรงการนำเสนอครับ คือเอาไส้แครอทออกหมดและเสิร์ฟมาแต่ผิวแครอท รสชาติแต่เค้กแครอทก็อร่อยดีครับผมชอบ ส่วนตัวสุดท้าย Truffle Waffle นั้นผมว่าแอบธรรมดา ๆ ไปหน่อย








คือส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยเขียนถึงเครื่องดื่มของแต่ละร้านสักเท่าไร แต่กับมื้อนี้ ขอเขียนหน่อยครับ เพราะพอดีได้มีโอกาสลองเบียร์เทพ Estrella Damm - Inedit (560 บาท) ซึ่งเป็นเบียร์จาก Barcelona Spain ที่ไปชนะการประกวดอะไรมาก็ไม่รู้ เป็นเบียร์ที่แบบเจ๋งมาก มาในขวดแชมเปญ กินในแก้วไวน์ และแช่ขวดเบียร์ในถังน้ำแข็งระหว่างรอกินจนหมดขวด รสชาติมันแบบอร่อยมาก เป็นประมาณเบียร์ Lager ผสมกับเบียร์ Wheat อร่อยจริงสมราคา แต่ก็แอบคิดว่าราคามันแพงไปหน่อยเนอะ 560 บาทได้ 750 ml เอง ส่วนเบียร์สดอื่น ๆ ของร้าน Aston Gastro Bar @ CDC นี่ก็มีเยอะครับ มีครบทุกยี่ห้อตลาด ส่วนวันที่ผมไป ผมสั่งแก้วนึงเป็น Weihenstephaner Hefe (220 บาท) หรือเบียร์เยอรมันแสนอร่อยนั่นเอง ซึ่งทางร้านมี Happy Hour สั่ง 2 Pint  ในราคา 350 บาทซึ่งก็คุ้มดีครับ

สรุปมื้อจัดหนักจัดเต็มที่ร้าน Aston Gastro Bar มื้อนี้ก็เรียกได้ว่าประทับใจมากครับ อาหารแต่ละอย่างนี่แบบล้ำยุค ไอเดียบรรเจิด ซึ่งถ้าแค่ล้ำอย่างเดียวแต่ไม่อร่อย ผมก็คงไม่ได้ติดใจอะไร แต่นี่แทบทุกจาน อร่อยแบบประทับใจซะทั้งหมดและยิ่งได้กินกับเบียร์อร่อย ๆ แล้วด้วยก็เลยทำให้มื้อนี้เป็นมื้ออันแสนวิเศษไปเลย ใครอยากมาลองอาหารแนว Modern ๆ Fusion ๆ แปลก ๆ แหวกแนวไม่เหมือนใคร จัดเลยครับกับร้าน Aston Gastro Bar แห่งนี้!

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment