L'ulivo Italian Restaurant at Narathiwas soi 7, Bangkok ลูลิโว ร้านอาหารอิตาเลียน นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 7 Pasta, Seafood, Wine
Overall Score 8/10
Taste 3.5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 4.5/5
L'ulivo - Italian Restaurant on BumRes.com
ร้านที่ชื่ออ่านแว่บแรกอาจจะอ่านไม่ค่อยถูกนามว่า L'ulivo หรือ Lulivo (แปลว่าต้นมะกอก) แห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนระดับ Hi-end ที่ตั้งอยู่บริเวณ สาทร-นราธิวาส-สีลม ร้านนี้ผมเพิ่งอ่านเจอข้อมูลในนิตยสารสักเล่มนึง (จำไม่ได้ว่าเล่มอะไร) และเห็นเขาเขียนบรรยายถึงสรรพคุณของตัวเชฟใหญ่ของทางร้านไว้ค่อนข้างเลิศหรูดี ก็เลยชวนเพื่อนคู่กินมาลองโดนกันหน่อย ร้าน Lulivo หรือ ลูลิโว แห่งนี้ก็เปิดทำการมาได้ประมาณปีนิด ๆ แล้ว ตัวร้านตั้งอยู่ที่ปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 7 แบบ ปากซอยจริง ๆ ครับ ผมขับรถมาตอนแรกมีแอบเลย เข้าซอยไป 10 เมตรจะเจอร้านเลย เป็นบ้านหลังสีเหลือง ๆ มาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ส่วนที่จอดรถก็สามารถจอดที่ลานจอดรถของทางร้านซึ่งอยู่ติดกันด้านหลังร้าน หรือไม่ก็ใช้บริการ Valet Parking ได้ตามสะดวก
ร้าน L'ulivo แห่งนี้ก็เป็นดังเช่นร้านอิตาเลียนแทบจะทุกร้านในบ้านเราที่จะมี Set Lunch ไว้คอยให้บริการแขกผู้เร่งรีบ หรือแขกผู้ต้องการความประหยัด (ผมเป็นแบบหลัง แต่หลัง ๆ ไปกิน set lunch ร้านอิตาเลียนมาไม่เคยเจออร่อยเลย ก็เลยคิดว่าเลิกดีกว่าไปกินมื้อเย็นดีกว่า) set lunch ของร้านลูลิโวนี่จะมีให้บริการ 3 แบบ 1, 2 และ 3 Course ราคาก็ 310, 360, 430 บาทตามลำดับ เนื่องจากผมไปมื้อเย็น ก็เลยได้แต่มอง ๆ ดูเมนู set lunch ไปแบบพอเป็นพิธี แอบเห็นว่าเมนูของร้านนี้เค้ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะดีทีเดียว เยอะกว่าหลาย ๆ ร้านที่เคยเจอมาครับ ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ทำงานแถว ๆ นี้และอยากแวะมากินอาหารอิตาเลียนเก๋ ๆ นะครับ ส่วนเมนูมื้อเย็น ก็จะคล้าย ๆ กับร้านอิตาเลียนอื่น ๆ มีให้เลือกอย่างละนิดอย่างละหน่อย มีครบทุกรูปแบบ จะยกเว้นก็ตัว Pizza ที่ทางร้านไม่มีให้บริการครับ ราคาอาหารมื้อเย็นก็ตามมาตรฐาน (อ่านว่าแพง) อยู่ที่ 300 - 500 บาทโดยเฉลี่ย
ที่ผมเขียนไว้ตอนต้นว่า สนใจร้าน L'ulivo @ Bangkok แห่งนี้เพราะตัวเชฟดูรัศมีเปล่งประกายดี ก็เพราะว่าตัวเชฟนั้นเคยเป็น Head-chef อยู่ที่ห้องอาหาร Biscotti @ Four Seasons Hotel Bangkok ห้องอาหารอิตาเลียนที่ผมไปมา 2 ทีแล้วก็ค่อนข้างชอบ และก่อนหน้านั้นก็เคยทำงานอยู่ที่อิตาลีกับร้านที่ได้ดาวมิชลิน 3 ดาว, 2 ดาว อย่างละร้าน ที่ฝรั่งเศส ร้าน 3 ดาวอีก 1 ร้าน และแบบอยู่ในครัวมาตั้งแต่เด็ก ได้เป็น head-chef ที่ Biscotti ตั้งแต่ตอนอายุเพียงแค่ 30 ปีเ เรียกได้ว่าเป็นเชฟที่ดูมีพรสวรรค์มาก ๆ และที่ผมเสียดายหนักคือ ก่อนหน้าผมไปแค่ไม่กี่วัน เพื่อนสนิทของเชฟ Danilo Aiassa ที่เคยฝึกงานอยู่ที่ร้านอิตาเลียน 3 ดาว และตอนนี้มีร้าน 1 ดาวของตัวเองแล้ว บินมาช่วยเชฟทำอาหาร Course พิเศษให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน ที่เสียดายคือราคาไม่แพง 5 Course และมี Wine paring ให้ 3 แก้ว และลูกค้าให้การตอบรับกันดีมาก (เต็มทุกวัน) แต่ก็เห็นพนักงานบอกว่าจะมีเชิญมาอีกซึ่งคราวหน้า ผมคิดว่าจะไม่ให้พลาดแน่นอน
อาหารของทางร้านลูลิโวนี่จะเป็นอาหารแบบ Traditional Italian (ตามที่เชฟมาคุย ๆ ด้วย) ซึ่งผมก็ไม่รู้สักเท่าไรหรอกครับว่า Modern, Traditional หรือ Contemporary มันแตกต่างกันยังไงบ้าง อาจจะเป็นเรื่องหน้าตาของอาหาร ซึ่งผมว่าอาหารในมื้อนี้ มันก็ดูหน้าตาสวยงาม เจิดจรัสดี ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าตาแล้วผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเค้าเอาอะไรมาแบ่งเรื่องยุคสมัยของอาหาร
ของเรียกน้ำย่อยแบบฟรี ๆ ของร้านนี้มีมาให้ถึง 2 อย่าง อย่างแรกเป็นขนมปังที่หน้าตาดูดี รสชาติดีกว่าหลาย ๆ ร้านที่กินมา และให้มาเยอะมาก พอดีว่าผมอยากจะเก็บท้องไว้กินอาหารคาวอย่างอื่น ๆ ก็เลยกินไป 3-4 ชิ้น แต่ก็ 3-4 แบบก็อร่อยดีครับ ส่วนของกินเล่นอีกอย่างเป็นประมาณซุปเห็ด, แฮมเบอเกอร์จิ๋ว และก็แป้งอบอะไรสักอย่าง จานนี้ก็อร่อยอีกเช่นกัน โดยเฉพาะตัวคล้าย ๆ ซุปเห็ด เป็น 2 จานเรียกน้ำย่อยที่ดีทีเดียว
อาหารจริง ๆ จานแรกในมื้อนี้เริ่มต้นด้วยซุปเบา ๆ กับซุปฟักทอง ที่เสิร์ฟมาแบบอุ่น ๆ และมีกุ้งกับแผ้นแป้งและคล้าย ๆ เมนูพิเศษที่อยู่นอกเหนือจากในเมนูหลัก ผมก็เลยไม่ค่อยรู้รายละเอียดเป๊ะ ๆ ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ก็เป็นซุปที่รสชาติธรรมดา ๆ ครับ เบา ๆ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ชอบแบบเข้มข้น ๆ กินแล้วแบบสะใจ ๆ ในรสชาติแบบนั้นมากกว่า และที่สำคัญคือผมชอบซุปร้อน จานนี้มาเป็นซุปอุ่น ๆ ก็เลยเหมือนลดความอร่อยลงไปอีก
Main Course อย่างแรกเป็น อาหารทะเลหลากชนิดและปลาทะเลสด ๆ นำไปย่างจนหอม เสิร์ฟกับผักรวมย่าง (Assorted grilled crustaceans and fish with mixed vegetables - tiger prawns, river prawns, red snapper, sea bass, squid, rock lobster - 950 บาท) คือเป็นประมาณจานกินกันกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูงน่ะครับ เพราะมาจานใหญ่มาก จานนี้เป็นอาหารพิเศษที่มีขายเฉพาะตอนเที่ยงวันเสาร์ ซึ่งทางร้าน L'ulivo นี่วันเสาร์ของทางร้านจะเหมือนวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์จะหยุด วันเสาร์เที่ยงก็เลยจะมี Long Lunch ไว้รองรับลูกค้าแทน จานนี้พนักงานบอกว่าเป็นจานที่คุ้มมาก ลูกค้าสั่งเยอะมากเพราะว่าให้ของมาคุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ซึ่งจากที่ผมได้กินแล้วมันก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ครับ เพราะแค่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ 2 ตัว กับกุ้งลายเสือ ตัวเบิ้ม 2 ตัวแค่นี้ ถ้าเอาจริง ๆ บางร้านก็ขายกัน 900 บาทล่ะ แต่นี้มีปลากระพงแดง, ปลากระพง, ปลาหมึก และกั้งมาอีก จานนี้ดีครับ อาหารทะเลทุกอย่างสดหมดและย่างมากำลังดีมาก ตัวผักทอดที่ให้มาด้วยก็ดีครับ แปลกดี ผมเพิ่งเคยกินผักย่างแบบฝรั่งกับอาหารทะเลที่ให้ความรู้สึกคล้ายกินอาหารทะเลเผาแบบไทย ๆ แบบนี้
Main Course อีกจานเป็น เนื้อนานาชนิด (เนื้อริบอายส์, เนื้อแทนเดอร์ลอย, ไก่อ่อน, อิตาเลียนซอสเสจ, เบคอน) นำไปย่างบนเตาถ่านหินจากภูเขาไฟเสิร์ฟกับผักรวมย่าง (Assorted grilled meat with mixed vegetables - grass fed rib eye, beef tenderloin, baby chicken, fresh sausages and bacon - 950 บาท) จานนี้จะคล้าย ๆ จานแรกที่มีขายเฉพาะ Long Lunch วันเสาร์ และมาแบบจัดเต็ม ครบครันความเป็นเนื้อ รสชาติโดยรวมถือว่าดีครับ แต่ยังไม่ได้แบบอร่อยแบบโดดเด่น จะมีดีที่สุดก็คงเป็นตัวไส้กรอก Homemade ที่อร่อยมาก ส่วนตัวเนื้อ 2 แบบกับหมูสามชั้น ผมว่ายังค่อนข้างเฉย ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะไม่ได้ใช้เนื้อเกรดดี เพราะราคาเท่านี้คงเอาเนื้อชั้นดีมาขายไม่ค่อยได้ แต่ก็ถือว่ายังโอเคครับ กินกับ Red Wine ได้เพลิน ๆ
อาหารคาวอีกอย่างเป็นพาสต้า สปาเก็ตตี้ชิทาร่าโฮมเมด ผัดกับเนื้อปูราชันย์ ปลาคิงฟิชหางเหลือง จากทะเลอเดรียติกที่อยู่ติดกับอิตาลีและผักอาติโช้คผัด (Homemade spaghetti chitarra with king crab, yellowtails and sauteed articokes - 450 บาท) จานนี้ความโดดเด่นคงเป็นที่เส้นสปาเก็ตตี้แบบโฮมเมด ที่ทางร้านทำเองที่ร้านเลย เส้นก็เลยจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ ๆ และให้ texture ที่โดดเด่นกว่ากินสปาเก็ตตี้ร้านอื่น คือมันจะมีความหนึบไม่เท่ากันในทุก ๆ จุดที่กัด แปลกดี แต่ว่าตัวรสชาติมันยังไม่ค่อยโดนเท่าไร คือเค็มไปสำหรับผม มีรสชาติเค็มอยู่รสเดียว ไม่ได้เป็นรสแบบ complex ๆ แบบพาสต้าเทพ ๆ ที่ผมกินมา ตัวปูกับปลาที่ให้มาก็ดีครับ สดอร่อยดี แต่ชิ้นเล็กไปนิด
ของหวานในมื้อนี้ก็จะมี แผ่นแป้งทอดสไตล์ซิซิเลี่ยน สอดไส้ด้วยดาร์คช็อตโกแลต ผลไม้รวมในน้ำเชื่อม ถั่วอบแห้ง และน้ำผึ้ง (Sicilian cannoli with dark chocolate and ricotta cheese, candit and dry fruit - 270 บาท) จานนี้เป็นของหวานที่แปลกมาก ไม่เคยได้ยิน หรือได้กินมาก่อน รสชาติจะแปลก ๆ ประหนึ่งเป็นของคาวผสมของหวานครับ บรรยายไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นยังไง ผมตื่นตาตื่นใจกับรสชาติประหลาด ๆ ตอนแรก แต่กินไปกินมาก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร เพื่อนผมที่ไปด้วยกันบอกว่าแปลกดี และก็กิน ๆ จนหมด -*-
ของหวานอีกอย่างเป็น Chocolate Lava แบบหรูหรา ไฮโซ ดูดีน่ากิน และแน่นอนครับ ทำมาดูดีขนาดนี้ รสชาตินั้นก็เลยยอดเยี่ยมตามไปติด ๆ เป็น Chocolate Lava ที่ผมว่าอร่อยอันดับต้น ๆ หรืออร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลย ตัวช็อคโกแลตอร่อยอยู่แล้ว เสริมรสชาติด้วยกล้วยหอมอร่อย ๆ และไอศครีมวานิลลาชั้นดี สุดยอดของหวานเลยครับจานนี้
สรุป ร้าน L'ulivo Italian Restaurant @ นราธิวาสซอย 7 Bangkok แห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารอิตาเลียนชั้นดีร้านนึงประจำเมืองกรุงเราเลยล่ะครับ การบริการนั้นเข้าขั้นไร้ที่ติ บรรยากาศร้านก็ยอดเยี่ยม (ผมชอบรูป paint ผนังสวย ๆ ที่กระจายอยู่ทั่ว ๆ ร้านมาก) และความคุ้มค่านั้นผมก็ว่าคุ้มจริง โดยเฉพาะพวกจานรวมมิตรจานใหญ่ 2 จานที่ผมสั่งไป รสชาติ อาหารแม้ว่าผมว่าจะยังไม่ค่อยโดนผมนัก เพราะมันเป็นรสชาติแบบอิตาเลียนแท้ ๆ ซึ่งจะเป็นแบบรสไม่ค่อยจัดเท่าไร ซึ่งผมก็เป็นแบบนี้กับทุกร้านที่ทำอาหารมารสชาติประมาณนี้ แต่ว่า ผมเห็นลูกค้าหลาย ๆ คนที่ค่อนข้างแน่นร้านในวันที่ไป ก็ดู enjoy อาหารดี อืม ก็คงจะมีคนที่ชอบอาหารรสชาติแท้ ๆ แบบนี้อยู่เยอะเหมือนกันนะครับ แล้วคุณเป็นหนึ่งในนั้นรึเปล่า?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment