Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4/5
Value 2/5
Bo.lan - Essentially Thai Restaurant on BumRes.com
ก่อนหน้าที่ผมจะไปกินร้าน โบลาน @ สุขุมวิท 26 นี่ ผมไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับร้านนี้เลย แค่ได้ยินเพื่อนกล่าวถึงเมื่อไม่นานมานี้ บวกกับไปหยิบวารสาร Eating Out มาอ่านเห็นมีบทสัมภาษณ์ถึงฝรั่งเจ้าของร้านก็เลยนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้จัดสักหน่อยดีกว่า ลางจะเสียตังค์เยอะค่อย ๆ คืบคลานมาจากตอนแรกที่โทรไปถามทาง โทรไปตอนหกโมง พนักงานบอกว่าโต๊ะจะว่า 2 ทุ่มครึ่ง ผมก็เลยตะหงิด ๆ ล่ะ "ห่ะ ร้านเต็มวันธรรมดาเนี่ยนะ?" พอไปถึงร้านมีบริการ Valet Parking ก็ตะหงิดขั้น 2 และพอเห็นลูกค้าฝรั่งที่นั่งกันอยู่เต็มร้าน ก็เลยได้ข้อสรุปว่า "ชิบหาย นี่กูมากินร้านไทย ราคาแพง ขายฝรั่งนี่หว่า -*-"
ร้าน โบ.ลาน หรือ โบลาน แห่งนี้ก็เป็นร้านของคู่สามีภรรยาคู่นึง ที่ตัวภรรยาชื่อเล่นว่า โบ ส่วน lan นี่มาจาก Dylan ของสามี ร้านนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึง popular ในหมู่ฝรั่ง คือตอนที่ผมไป ไม่มีคนไทยเลยสักคน มีแต่ฝรั่ง ไม่ก็คนญี่ปุ่น ไม่ก็แขก อาหารของทางร้านนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างตอนที่ผมไปก็ขึ้นฤดูกาลใหม่ July 2012 - September 2012 พอดิบพอดี ทางร้านจะเน้นตัววัตถุดิบ ประหนึ่งว่าเป็นร้านญี่ปุ่นขั้นเทพอะไรประมาณนั้น มีเขียนบอกหมดว่าใช้เนื้อจากเขตไหน, ข้าวจากย่านไหน, ไก่จากเมืองอะไร (ให้อารมณ์เหมือนกินร้านแพง ๆ ของญี่ปุ่นมาก) และก็ตัววัตถุดิบนี่เห็นบอกว่าตัวเชฟ สามีภรรยาจะไปซื้อเองทุกวัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่เทพที่สุด ซึ่งแน่นอนครับ เชฟพิถีพิถันขนาดนี้ , ลูกค้าเป็นฝรั่งมั่งมี เอ๊ย มังค่า แบบนี้ อาหารของร้านนี้เลยสะกดนิยามพ่วงท้ายได้ว่า "โคตรแพง" ได้แค่นิยามเดียวเท่านั้น
อาหารของทางร้าน โบ.ลาน Bo.lan แห่งนี้ก็จะมีทั้งแบบ a la carte และแบบ set menu รายละเอียดอาหารดูได้ที่ tab menu เช่นเคย แต่ตามที่เขียนไว้ตอนต้นครับ ร้านนี้เค้าจะเปลี่ยนเมนูไปตามฤดูกาล ตอนที่ท่านไป รายการอาหารอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ผมว่าหลัก ๆ ก็่น่าจะยังเหมือนเดิม และที่น่าจะเหมือนเดิมที่สุดก็คงเป็นเรื่องราคา ที่เจ้า Bo.lan Balance หรือ ชุดข้าวปลาอาหาร ซึ่งเป็น ชุดที่แพงที่สุดในมื้อนั้นจะราคา net ๆ แล้วอยู่ที่เกือบ ๆ 2,000 บาท (1,680++ บาท) (บังคับสั่งทั้งโต๊ะด้วย คือถ้าจะกิน a la carte ก็ต้องกินทั้งโต๊ะ จะกิน set ก็ต้องกินทั้งโต๊ะ ผมล่ะเบื่อจริง ๆ ไอ้พวกร้านอาหารมัดมือชกเนี่ย เคยเจอมาทีนึงกับร้าน Gaggan @ หลังสวน แต่ร้านนั้นผมให้อภัยเพราะว่าอาหารอร่อย ฮ่า ๆ) และชุดเล็กลงมาหน่อย Mini Bo.lan Balance หรือ ข้าวปลาอาหารชุดเล็ก ก็จะอยู่ที่ 1380++ บาทต่อคน ส่วนพวก a la carte นี่เห็นราคาแล้วก็สั่งไม่ค่อยลงครับ ราคาจะอยู่ที่ 500++ บาทโดยประมาณ หลังจากที่นั่ง ๆ ดูเมนูกับคุณแฟน ผม พวกเราก็ตัดสินใจสั่ง Bo.lan Balance กัน เพราะแบบมาทั้งที หลุดเข้ามาในร้านอาหารแบบนี้แล้ว มีแต่ต้องจัดเต็มเท่านั้น
อาหารในชุดก็ประกอบด้วย Appetizer 2 อย่าง ยาดองกระชายดำ กับผลไม้รสเปรี้ยว (Ya dong grachai dum served with sour fruits) กับ เริ่มแรกระเริงรส (Bo.lan amuse bouche) ทั้ง 2 อย่างนี้ก็ไม่มีอะไรให้ติดใจในแง่รสชาติครับ แต่ติดใจในแง่การนำเสนอมากกว่า คือทำมาได้สวยงามมากกก ประหนึ่งเป็นอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงเลยทีเดียว แต่ละอย่างในจาน พนักงานของร้านก็แนะนำเป็นอย่างดี ว่าอะไรเป็นอะไร ทำมายังไง ควรกินแบบไหน สมกับที่ขายราคาแพงแบบนี้ แต่ก็อย่างที่พิมพ์ไปก่อนหน้านี้ครับ รสชาติค่อนข้างงั้น ๆ เน้นกินเอาความสวยงามมากกว่า
ส่วน Main Course ใน set ก็จะมี ยำไก่บ้านเลี้ยงด้วนสมุนไพรจากกาญจนบุรีน้ำยำรสจัดพร้อมไข่ไก่อินทรีย์จากสระบุรี (Salad of herbal-fed Thai chicken from "Kanjanaburi" with assorted Thai herbs and crispy organic egg) , หลนปลาอินทรีย์เค็มแนมดอกแคยัดไส้กับผักพื้นบ้านทอดกรอบ (Salted Spanish mackerel simmered in coconut cream with prawn accompanied with stuffed local flower and battered greens) , แกงขี้เหล็กเนื้อย่างโคกำแพงแสนแนมผักกาดดองย (Cassioa leaf & flower curry with slow cooked "KU" beef accompanied with pickled mustard green salad และ กุ้งทะเลผัดน้ำพริกกะปิพัทลุงใส่กระเทียมทอง (Stir-fried fresh ocean prawn with "Pattalung" style chilli relish and pickled garlic และน้ำแกงให้เลือกตามใจอีก 1 อย่าง (Bo.lan soup of your choice) ซึ่งผมเลือก ต้มขมิ้นใส่ไก่บ้านเลี้ยงด้วยสมุนไพร (Soup of red turmeric and herbal-fed Thai chicken) ไป
Main Course ทุกจาน บอกตรง ๆ ว่าเห็นแว่บแรก แอบดีใจที่มันยังคงดูเป็นอาหารไทยอยู่ ไม่ได้หลุดโลก ไปดาวนาเม็ก แบบร้าน Srabua @ Siam Kempinski (แต่ยังบอกว่าตัวเองเป้นอาหารไทย) บางจานนี่ดู ไท้ย ไทย จนแบบคิดว่าหลุดไปกินในร้านไทยโบราณรึเปล่าด้วยซ้ำ แต่ว่าครับ (แต่อีกแล้ว -*-) รสชาติแต่ละจานไม่ค่อยถูกปากผมกับคุณแฟนสักเท่าไร จะมีก็เจ้าตัวหลนปลาอินทรีย์ที่แบบทำได้อร่อย กลมกล่อม อย่างน่าตกใจ จนผมสามารถพูดได้เลยว่า นี่น่าจะเป็นหลน ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาในชีวิตเลย ส่วนอย่างอื่น แม้ว่าทางร้านจะดูภูมิใจในตัววัตถุดิบขนาดเขียนอธิบายมากมายในเมนู แต่บางร้านที่เขียนง่าย ๆ ว่า "ต้มข่าไก่" บางร้านยังทำได้อร่อยกว่า "ไก่เลี้ยงด้วยสมุนไพรกาญจนบุรี" แบบของร้าน Bo.lan นี่ด้วยซ้ำ
ตัวของหวานก็มีอีก 3 อย่างครับ เป็น หวาน หวาน เย็น เย็น (Bo.lan pre-dessert) , ขนมแบบโบ.ลาน (Bo.lan dessert dujour) และ ของหวานอย่างแห้ง (Petit fours to accompany your cup of Bo.lan blend) หลังจาก เซ็งกับของคาว ก็มาอิ่มอกอิ่มใจกับของหวานของทางร้านเค้าอีกรอบครับ ของหวานทำมาได้สวยงาม น่ากิน น่าเจี๊ยะ อลังการ อร่อย สุด ๆ ชอบครับ แต่ละอย่างแม้ว่าจะมาอย่างละนิด อย่างละหน่อย แต่เป็นแต่ละอย่างที่อร่อยประทับใจจริง ๆ แต่น่าเสียดาย ที่แบบ ก่อนหน้านี้ผมต้องกินของคาวส่วนของแฟนผมไปพอสมควร (แฟนผมกินน้อย) ทำให้ของหวานผมไม่ค่อยได้กิน และโดนคุณแฟนที่เป็นคอของหวาน แย่งไปกินแทน!!!
สรุป ร้าน Bo.lan - Essentially Thai แห่งนี้ก็เป็นร้านอาหารไทยที่ดีร้านนึงครับตัวหน้าตาอาหาร กับการบริการ และบรรยากาศนั้น ทำออกมาได้เลิศเลอ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป แต่ว่าตัวรสชาตินั้นผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะทางร้านจงใจทำขายฝรั่งรึเปล่า คือมันไม่ใช่รสชาติที่จะถูกปากคนไทยได้เลย สำหรับตัวของคาว แต่กับ appetizer, ของหวาน ที่รสชาติมันค่อนข้างจะเป็นสากลอยู่แล้ว (คือของเล่น ๆ เรียกน้ำย่อย กับของหวาน มันคงทำให้แหวกได้ยาก) ทางร้านก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว อืม ไม่แน่ ถ้าตอน order อาหารสั่งไปว่าทำรสชาติคนไทย นี่จะได้รสชาติที่เด็ดดวงกว่านี้รึเปล่า อันนี้ก็เป็นอะไรที่น่าคิด แต่ผมคงไม่คิดจะกลับไปลองอีกล่ะครับ ถ้าไม่ได้ต้องกินฟรีอะไร เพราะกับเงิน 4000 กว่าบาทที่เสียไปในมื้อนี้ แลกมากับเวลาโรแมนติค ๆ ในบรรยากาศดี ๆ 2 ชั่วโมง และอาหารที่ยังไม่ค่อยโดนเท่าไร ผมเอาตังค์ไปกินอาหารยุโรป, อาหารญี่ปุ่นแหล่ม ๆ ได้หลายร้านเลยล่ะครับ เหอ เหอ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment