Wednesday, June 6, 2012

Madison Steakhouse at Four Seasons Hotel Bangkok

Madison Steakhouse at Four Seasons Hotel Bangkok เมดิสัน เสต็กเฮาส์ โฟร์ซีซัน กรุงเทพ




Overall Score  10/10
Taste   5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   3/5


Madison Steakhouse at Four Seasons Bangkok on BumRes.com



จาก รีวิวครั้งแรกของผมกับร้าน Madison @ Four Seasons แห่งนี้ จากเดิมที่ไม่ค่อยประทับใจนักกับมื้อเที่ยงและ set lunch ที่ lame ๆ และ fail ๆ วันนี้มีโอกาสได้ชวนเพื่อน ๆ ไปลองมื้อเย็นแบบจัดเต็มกันบ้าง
รายละเอียดร้านคร่าว ๆ ก็รบกวนอ่านรีวิวครั้งแรกละกันนะครับ คราวที่แล้วที่มาการบริการดูค่อนข้างพิกลพิการ แต่มางวดนี้การบริการนี่แบบคนละเรื่องเลยล่ะครับบริการดีมาก ดูแลเราตลอดแต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ให้รำคาญใจแต่อย่างใด ส่วนบรรยากาศก็แน่นอนครับ หรูหรา ไฮโซ เป็นส่วนตัวแน่นอนอยู่แล้ว อืม .. คือไม่ใช่ขี้เกียจเขียนอะไรหรอกครับ พอดีแค่อยากรีบ ๆ เข้าเรื่องอาหารก็แค่นั้น -*- คือคงมีหลายคนถามว่า เอ๊ะทำไมร้าน Madison ที่นิยามตัวเองว่าเป็น steakhouse แห่งนี้ทำไมถึงมีอาหารที่ไม่ใช่พวกเนื้อ ๆ อยู่เยอะพอสมควร? คือจากที่คุย ๆ กับพนักงานได้ความมาว่า คนไทยมีคนที่ไม่กินเนื้อเยอะ ตอนแรก ๆ ที่เปิดขายแต่เนื้อ มีคนไทยที่ไม่ได้กินเนื้อเลย ได้แต่นั่งดูพอสมควร หลัง ๆ ก็เลยเพิ่มพวก seafood, เนื้อหมู, เนื้อแกะอะไรขึ้นมาให้เป็นทางเลือกสำหรับคนไม่กินเนื้อ เพิ่มไปเพิ่มมาตอนนี้ ก็เลยจากเดิมที่เป็นแค่ Steakhouse ก็เลยมีอาหารสไตล์ตะวันตกที่ค่อนข้างจะครบครันเลยทีเดียว







วันนี้พวกผมไปกัน 5 คนก็เลยสั่งแบบ appetizer คนละอย่าง main course คนละอย่าง (มีซ้ำกันบ้าง) และก็ของหวานคนละอย่าง เอาให้แบบอิ่มพอดี ๆ กลับบ้านนอนหลับฝันดีอะไรประมาณนั้น appetizer อย่างแรกที่ได้คือ Blue Fin Tuna Tartar (480 บาท) เจ้าจานนี้ผมเพิ่งกินที่ ร้าน Snapper มาหมาด ๆ ซึ่งร้าน Snapper ทำมาได้ดีมาก แต่ว่าร้าน Madison นี่ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันทำได้อร่อยพอ ๆ กันเลยล่ะครับ ส่วน appetizer อย่างที่ 2 เป็น Roasted Foie Gras (1,200 บาท) ที่มาพร้อมซอสราสเบอร์รี่และพรุน(?) ตามแบบ traditional ของตับห่านตามร้านยุโรปส่วนใหญ่ จานนี้เพื่อนผมเคยแนะนำมาแล้วว่าอร่อยมากกับที่ร้าน Madison @ Four Season แห่งนี้ ซึ่งพอผมได้กินแล้วมันก็อร่อยจริงอะไรจริง จริง ๆ ด้วยล่ะครับ คือแบบเป็นคนละเรื่องกับ Foie Gras ตามไลน์บุฟเฟ่ต์ทั่ว ๆ ไป และก็ตามร้านที่ขายกันถูก ๆ แบบเห็นได้ชัดเลย  Appetizer อีก 2 อย่างมี Warm leek and prawns, vegetable salsa (520 บาท) กับ Witloof Salad with black forest ham, blue cheese and walnut dressing (400 บาท) ทั้ง 2 อย่างนี้ผมค่อนข้างเฉย ๆ เมื่อเทียบกับ 2 จานแรกที่กินไป แต่ก็เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำมาได้ดีทีเดียวล่ะครับแค่โดนพระเอกกับนางเอกชิงตัดหน้าออกมาก่อนเท่านั้น ตัวประกอบก็เลยถูกลืมเลือนไปจากผมและเพื่อน ๆ ไปโดยปริยาย -*-








ส่วน Main Course ในมื้อนี้ก็มีเนื้อ 4 จานกับ Seafood 1 จาน เริ่มที่ Seafood ก่อน Grilled North Sea Scallops (1400 บาท) จานนี้ก็เป็นอะไรที่นำเสนอมาค่อนข้างเท่เลยทีเดียว เป็น Scallop ตัวใหญ่ ๆ 4 ตัววางเรียงมาบนจานและก็ราดซอสเปรี้ยว ๆ กับผักโขมมา และถ้ายังเปรี้ยวไม่พอก็มีมะนาวมาให้อีกด้วย ก็เป็น Main Course ที่เหมาะกับผู้หญิง(คนที่สั่งดี) ผมแอบกินไปชิ้นนึง ก็อร่อยดีนะครับ เปรี้ยว ๆ มัน ๆ หอม ๆ แต่แบบถ้าให้สั่งมาเป็นของตัวเองนี่ไม่น่าจะอิ่มได้ ส่วนเนื้อจานแรกเป็น Prime US Beef Rib Eye (12 oz  3450 บาท) เจ้า Steak จานนี้นี่เรียกได้ว่า..พอผมได้กินคำแรกแล้วตัวอักษร FIN มันก็ลอยยยยมาทับหัวผมเต็ม ๆ เลย เป็นเนื้อที่อร่อยมากกกกก นุ่ม หอม อร่อย เนื้อฉ่ำ ๆ เลือดจากการย่างที่สมบูรณ์แบบมาเป็นแบบ medium rare และตัวเนื้อคุณภาพดี จานนี้น่าจะเป็นสเต็กที่อร่อยที่สุดในชีวิตผม หรืออย่างน้อย ๆ ก็ 5 ปีหลังนี่เลยล่ะครับ โอย ประทับใจ

ส่วนเนื้ออีก 3 จานนั้น แน่นอนอร่อยดีทีเดียว แต่ไม่ได้อร่อยเว่อร์, ขั้นเทพแบบเจอ Prime US Beef Rib Eye ของผมก็แค่นั้น อีก 3 จานมี Black Angus Prime Australian Beef Grain Fed 150 Days ส่วน T-Bone (20 oz 1,950 บาท, Graind Fed 300 days Wagyu Marble No. 4 Strip Loin (12 Oz, 2,400 บาท) และ Tenderloin (8 oz 2600 บาท) คือเนื้อวัวนี่มันเป็นอะไรที่คล้าย ๆ เนื้อปลาดิบน่ะครับ ของดีมักจะอร่อย ฝีมือคนทำมีส่วนบ้างแต่ตัววัตถุดิบนั้นยังไง ๆ ก็สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด และของแพงมันก็เลยจะมักอร่อยเสมอกับพวกอาหารที่เน้นตัววัตถุดิบแบบนี้ และด้วยเหตุผลนี้เจ้า 3 จานที่ราคาไม่ได้แพงโหดเท่าตัว US Prime ก็เลยรสชาติไม่ได้อร่อยเท่า แต่ว่าตัวเชฟก็ย่างมาได้สุดยอดเป็น Medium Rare ที่สมบูรณ์แบบหมดทุกชิ้น และทุกชิ้นก็จัดได้ว่าเป็น Steak ที่อร่อยดีทีเดียวล่ะครับ








ส่วนของหวานในมื้อนี้ ก็มี Baked Alaska (260 บาท) ของหวานขึ้นชื่อของทางร้าน Madison @ Four Season ที่จะมีมาราดให้ไฟลุกตรงหน้าเราก่อนจะเริ่มกิน , Bread and Butter Pudding (260 บาท) , Apple Crumble a la Minute (260 บาท) และ Blended Nuts Tartlet, Chicory-Liquorice Ice Cream (300 บาท) ของหวานทุกอันก็อร่อยดีนะครับ แต่พอดีผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องของหวานสักเท่าไร ก็เลยไม่ขอวิจารณ์อะไรมาก แต่เพื่อน ๆ ผมที่เป็นคอของหวานก็เห็นชมกันทุกคนนะครับ ^_^

สรุป มื้อเย็นจัดหนัก @ Madison - Four Seasons, Bangkok มื้อนี้ของผมก็เรียกได้ว่าประทับใจจริง ๆ ครับ อาหารอร่อย พนักงานบริการดี บรรยากาศร้านก็เยี่ยมยอด แล้วเราจะต้องการอะไรจากร้านอาหารร้านนึงอีกล่ะครับว่ามั้ย แน่นอน ราคาอาจจะแรงและแพงไปบ้าง แต่ถ้าคิดว่าถ้าอยากจะหาร้านที่ไว้มาเฉลิมฉลองในโอกาศพิเศษ อะไรทำนองนั้น ร้าน Madison กับมื้อเย็นของพวกเขานี่ผมว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจดีทีเดียวเลยล่ะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment