The Litt - Italian Restaurant - K-Village, Bangkok

Inversus Italian Restaurant @ K-Village, Bangkok (Now change the name to The Litt)

Overall Score 8/10
Taste 5/5
Ambiance  4.5/5 
Service 4.5/5
Value  3/5


The Litt Italian Restaurant on BumRes.com

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!

หมายเหตุ ตอนนี้ทางร้าน Inversus ได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น The Litt แล้วครับ ขายอาหารเหมือนเดิม เมนูเดิม เพียงแต่ว่าราคาถูกลงครับ รีวิวร้าน the liit ตามอ่านได้ในเว็บหรือบล็อคผมเช่นเคยครับ

 

หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า Michelin Star หรือดาวมิชลิน ว่ามี 1 ดาวบ้าง 2 ดาวบ้าง 3 ดาวบ้าง ว่าแต่มันคืออะไร? Michelin Star ก็เหมือนกับรางวัล, สิ่งรับประกบ, การันตีที่มอบให้แก่ร้านอาหารร้านหนึ่งว่ามีคุณภาพระดับไหน โดยจะแบ่งได้เป็น 4 ประเภท Rising Star (ไม่แน่ใจใช้คำนี้รึเปล่า) คือระดับต่ำสุดถ้าอยู่ในระดับนี้ได้ 2 ปีหรือ 1 ปีเป็นอย่างน้อยก็จะได้เลื่อนขั้นเป็น 1 ดาวในปีต่อไปครับ ส่วน 1 ดาวนั้นก็เป็นร้านที่คุ้มค่าที่จะไปถ้าผ่านแถวนั้นพอดี, 2 ดาวก็ประมาณคุ้มค่าที่จะเดินทางไปถ้าไม่ไกลมาก ส่วน 3 ดาวนั้นถือว่าเป็นสุดยอดร้าน คุ้มค่าที่จะถ่อสังขารข้ามป่าข้ามเขาไปกินอะไรประมาณนั้นเลย  Michelin Star นั้นจัดว่าเป็นการให้ระดับร้านอาหารที่ World wide และ Well Known ที่สุดในโลก มีคณะกรรมการมาให้คะแนนกันหลายคน ต่อ 1 ร้าน Michelin Star นั้นจะมีเฉพาะเมืองที่ทาง Michelin ออกหนังสือ Guide Book แนะนำเท่านั้น โดยตอนนี้จะมีแต่เมืองใหญ่ ๆ ในโลกเช่น Tokyo , London , Paris , Chicago , San Francisco อะไรประมาณนี้ (กรุงเทพยังไม่มีครับ) และเมืองที่มีร้านอาหาร 3 ดาวมากสุดลองทายดูครับว่าเป็นเมืองอะไร? ติ๊กต่อก ๆๆๆๆๆ คำตอบก็คือ Tokyo ครับ ผมจำไม่ได้ว่ามีกี่ร้านแต่จำได้แค่ว่าทิ้งห่างอันดับ 2 Paris เป็นเท่าตัวเลยล่ะครับ (บ่งชี้ว่าคนญี่ปุ่นนี่ทุ่มเทกับอาหารจริง ๆ ครับ) 

 

ดาวมิชลินนั้นเป็นการมอบให้ร้านอาหาร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเชฟใหญ่ประจำร้านหรือเชฟใหญ่เจ้าของร้านนั้นก็จะได้ดาวพ่วงแปะไปด้วยสามารถเอาดาวไปโฆษณาสรรพคุณตัวเองได้ครับ อย่างเช่นอีตา Gordon Ramsey (เจ้าของรายการ Hell Kitchen) ที่ตอนนี้มีดาวสะสมรวมกันเยอะที่สุดในโลก (ไม่แน่ใจว่า 10 ดาวหรือ 12 ดาวเนี่ยแหละครับ) ผมเขียนเวิ่นเว้อ เยิ่นเย้อมาตั้งนานเรื่องนี้เพราะอะไร? ก็เพราะว่าร้านที่ผมกำลังจะรีวิวนั้นเป็นร้านที่มีเชฟ Michelin Star 1 ดาว 2 คนมาหุ้นกันเปิดในกรุงเทพ กับร้าน Inversus @ K-Village นั่นเองครับ ร้านอาหารหรือห้องอาหารเท่าที่ผมรู้ว่ามีเชฟมิชลินมาเปิดร้านของตัวเองจะมีอยู่ 3 ร้านนะครับนั่นก็คือร้าน Inversus นี่แล้วก็ Kiin Kiin @ Siam Kempinsky แล้วก็ Nahm @ Metropolitan (อันนี้รู้สึกว่าร้านต้นตำรับที่อังกฤษจะโดนถอดดาวไปแล้วด้วย) ถ้าใครทราบว่ามีร้านมากกว่านี้ก็บอกผมหน่อยละกันนะครับ ส่วนห้องอาหารหรู ๆ ในเมืองไทยก็มักจะมีการเชิญเชฟมิชลินสตาร์ (ส่วนใหญ่จะ 3 ดาว) มาเป็นเชฟรับเชิญสัก 1 อาทิตย์แล้วจัดอาหาร Course พิเศษบ้างครับ ตัวอย่างก็เช่นห้องอาหาร Le Normandie @ Mandarin Oriental ครับ

กว่าจะเข้าเรื่องร้าน Inversus เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่เปิดมาได้สักพักแล้วครับถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2010 ที่ผ่านมา ร้านนี้เป็นร้านขายอาหารอิตาเลียนครับ ตัวอาหารมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะนักตามประสาร้านระดับหรู เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณและมักจะเปลี่ยนเมนูทุกฤดูกาล อันไหนขายดีลูกค้าชอบก็จะเก็บเอาไว้ขายต่อ อันไหนขายไม่ดีก็โละทิ้งออกไปจากเมนูไป ตอนผมไปยังอยู่ในช่วง Spring ของทางร้านครับ เมนูอาหารก็ตามที่ผมพิมพ์ไว้ที่ tab menu เลยครับ สนนราคาอาหารของร้าน Inversus นี้ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับร้านใน K-Village ด้วยกันแต่ถ้าเทียบกับห้องอาหารฝรั่งเศส, อิตาเลียน ตามโรงแรมหรู ๆ แล้วก็จัดได้ว่าราคาพอ ๆ กันครับจะถูกกว่าก็ตรงที่ร้านนี้ไม่มี Vat + Service Charge นี่แหละครับ ใช่ครับท่านอ่านไม่ผิดแล้ว ร้านหรูขนาดนี้ไม่มี Vat + SC ราคาในเมนูคือราคาเน็ทแล้ว!

 

ผมไปกับแม่ 2 คนเวลาเที่ยงวันเสาร์ ไม่มีลูกค้าในร้าน Inversus @ K-village เลยสักคนเดียวครับและเกือบ ๆ 2 ชั่วโมงที่ผมกินไปก็ไม่มีลูกค้าเข้ามาเลยสักโต๊ะเดียว เหมือนเป็นร้านส่วนตัวของผมกับแม่ไปเลยทีเดียววันนั้น ที่ร้านนี้จะมี set menu ราคาประหยัดอยู่ครับ (ผมไปก็เพราะเจ้านี่นี่แหละ) ผมกับแม่สั่ง set menu กันคนละ set แล้วก็ Main Course กับของหวานอีกอย่างละจานครับ Soup ของผมเป็นซุปหัวหอม อร่อยดีครับ แต่ของแม่ผมนั้นอร่อยยิ่งกว่าเป็นซุปกุ้งข้น  ส่วน Appetizer ของผมเป็น Salad อะไรสักอย่างครับ อร่อยและสวยงามมาก มีจุดเด่นตรงที่ตัวเชฟใส่พริกชี้ฟ้าลงไปด้วย ทำให้เป็นสลัดที่เผ็ด กลมกล่อมแบบไม่เคยกินมาก่อนครับ ตัวจาน Main Course ของผมกับแม่สั่งพาสต้าไป (แต่ใน set มีให้เลือกพวกเนื้อ ๆ ด้วยครับ) ของผมเป็นราวิโอลี่อะไรสักอย่าง อร่อยดีแต่ไม่ประทับใจเท่า 2 อย่างแรก ส่วนสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของแม่ผมนั้น แม่ผมบอกว่าอร่อยมากชอบมาก

ส่วนจาน Main Course ที่สั่งไปเป็นปลาอะไรสักอย่างครับจำชื่อไม่ได้ สั่งมาแชร์กับแม่ หน้าตาสวยงาม รสชาติสุดยอดมากครับจานนี้ชอบ ๆ ส่วนของหวานก็สั่งของหวานที่ตัวเชฟมิชลินคิดค้นเอาไว้ (ตอนไปเขาไม่อยู่ร้านครับ) เป็นไอศครีมวานิลลากับอัลมอนด์ อันนี้อร่อยมากครับ เป็นของหวานที่น่าประทับใจสุด ๆ

 

เบ็ดเสร็จมื้อนี้ค่าเสียหายประมาณคนละ 1000 บาทครับ เป็นมื้อที่ผมประทับใจในรสชาติอาหารและหน้าตาอาหารมากครับ เรื่องการบริการนั้นพนักงานยังดูเก้ ๆ กัง ๆ บ้างแต่ก็จัดได้ว่าดีครับ ส่วนเรื่องบรรยากาศก็ตามที่เขียนไปข้างบนครับตัวร้านนั้นหรูหราอยู่แล้วแล้วมีแค่โต๊ะผมโต๊ะเดียวก็เลยเหมือนเป็นร้านส่วนตัวกันไปเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหาร้านพิเศษ ๆ สำหรับโอกาสพิเศษ ๆ ก็ลองมา Inversus แห่งนี้ได้นะครับ อาหารอร่อยและราคาประหยัดกว่าร้านระดับเดียวกันตามโรงแรมพอสมควรเลยล่ะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร