BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Friday, June 29, 2012

Phuket Town - Thonglor - Review

Phuket Town - Southern Thai Restaurant at Thonglor, Bangkok ภูเก็ต ทาวน์ ร้านอาหารไทย อาหารใต้ ทองหล่อ




Overall Score  6.5/10
Taste   3/5
Ambiance  3/5
Service  2/5
Value   4/5

Phuket Town - Southern Thai Restaurant on BuMRes.com



ถ้านึกถึงร้านอาหารใต้ในกรุงเทพแบบ เน้นขายอาหารใต้เลยอย่างเดียว ผมก็นึกออกอยู่ไม่กี่ร้านนะครับ เท่าที่นึกได้ก็จะมีร้าน มัลลิการ์ ในซอยรางน้ำ กับร้าน ตะไคร้หอม - ถนนพระราม 9 แล้วก็ร้านโปรดของผม ร้าน จันทน์หอม - รามคำแหง 21 (นวศรี) ที่ผมว่าเป็นร้านอาหารใต้ที่อร่อยที่สุด(ในกรุงเทพ) ที่ผมเคยกินมา ส่วนร้าน Phuket Town หรือ ภูเก็ต ทาวน์ ที่กำลังจะรีวิวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารใต้ที่ผมคงไม่มีทางรู้จักร้านนี้ได้ถ้าเพื่อนผมไม่ได้แนะนำมา เพราะว่าแม้ร้านนี้จะตั้งอยู่ริมถนนทองหล่อ (ปากซอยทองหล่อ 6 เลย) แต่ว่าด้วยความที่ป้ายร้านไม่เด่น, ร้านเป็นห้องแถวคูหาเดียว เลยทำให้แม้ว่าผมจะขับรถผ่านร้านนี้มาหลายร้อยรอบแล้วก็ยังไม่รู้จักร้านนี้เลย -*- แต่ร้านนี้ก็น่าจะขายดีในระดับนึงครับเพราะว่าเปิดมานาน และก็เพื่อน ๆ นักกินผมก็ล้วนรู้จักร้านนี้กันหมด (ผมไปอยู่หลังเขาที่ไหนไม่ทราบ) และก็ร้านนี้มีสาขา 2 ด้วยที่ Navamin Festival Walk ใครสะดวกสาขาไหนก็ไปสาขานั้นได้เลยครับ

ร้าน Phutket Town - ภูเก็ต ทาวน์ นี่ก็ตามที่พิมพ์ไว้ครับ เป็นร้านเล็ก ๆ ห้องแถวเดียว ที่ตกแต่งร้านให้อารมณ์เหมือนยกภูเก็ตมาพอสมควร ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามีชั้น 2 ด้วยรึเปล่า แต่ว่าถ้ามีโต๊ะแค่ชั้น 1 ที่มีโต๊ะอยู่ 6 ตัวแบบนี้ ร้านนี้น่าจะรองรับลูกค้าได้น้อยมาก ๆ เลยทีเดียว ถ้าใครไปช่วง prime time นี่ผมแนะนำให้จองโต๊ะไว้ก่อนถ้าจะดีกว่า อาหารของร้าน Phuket Town นี่ตอนแรกผมก็คิดว่าจะราคาแพงเพราะว่าตั้งอยู่ในย่านร้านอาหารแพง แต่เปล่าครับ ราคาค่อนข้างถูกเลย เผลอ ๆ จะถูกกว่าร้านจันทน์หอมร้านโปรดของผมอีกด้วยซ้ำ รายการอาหารมีให้เลือกเยอะดีครับ และเป็นอาหารไทย อาหารใต้ แทบจะทุกเมนูเลย รายละเอียดดูได้ที่ tab menu เช่นเคยครับ







มื้อนี้ผมไปกับพี่ 2 คนอาหารเลยมีไม่ค่อยเยอะเท่าไร อาหารจานแรกเป็น ขนมจีนน้ำยาปู (Fermented-rice noodles and vegetables served with steamed crab meat curry - 180 บาท) ก็เป็นขนมจีนที่ราคาค่อนข้างแพง แต่ก็ให้เนื้อปูมาค่อนข้างเยอะในน้ำยา (แต่ก็ยังไม่เยอะเท่าไร) มีผักต่าง ๆ จัดมาเต็มคู่กับขนมจีน มีผักแปลก ๆ คล้าย ๆ เป็นถั่วงอกหัวโตด้วย อืม จานนี้ก็รสชาติธรรมดา ๆ ครับ กินได้เรื่อย ๆ ผมว่าถ้าทางร้าน Phuket Town เอาน้ำยาราดเส้นมาเลยน่จะอร่อยกว่า เพราะแบบจานที่ให้มาก็ไม่ใช่จานแบบเป็นหลุมลึก ราดน้ำแกงได้ไม่เยอะ เดี๋ยวมันล้น และเส้นขนมจีนมันก็ติด ๆ กันเป็นแผง กินยากครับ แต่ละคำ อืม แต่ผักเค้าก็สดดี รสชาติน้ำยาก็ดี ก็แค่ถ้าราดมาจะเยี่ยมเลย ประมาณนั้นครับ อาหารจานที่ 2 เป็นข้าวคั่วกลิ้งหมูสับ + น้ำซุป (Stir-fried spicy curry paste with pork on rice served with clear soup - 95 บาท) จานนี้แอบคาดหวังเอาไว้ครับ เพราะผมชอบคั่วกลิ้งมาก แต่พอได้กินแล้วเซ็งครับ สั้น ๆ ง่าย ๆ คั่วกลิ้งไม่อร่อยเลย มันแห้ง ๆ และก็หมูเป็นชิ้นเล็กเกินไป กินแล้วมันไม่ได้ feel เหมือนกินคั่วกลิ้งร้านอื่น ๆ ที่จะแฉะ ๆ หน่อย หมูชิ้นโต ๆ หน่อยเคี้ยวมัน ๆ เฮ้อ 







ส่วนจานที่ 3 เป็น ผักเหมียงผัดไข่ (Stir-fried Pak-Miang (Local southern green leaves vegetable) with egg topped with crispy onion and dries shrimp - 120 บาท) จานนี้เป็นอะไรที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้ล่ะครับ ส่วนตัว ผมชอบอาหารใต้จานนี้มากอยู่แล้ว ไปภาคใต้ทีไรกินทุกที ร้าน ภูเก็ต ทาวน์ ทำมาได้อร่อยเหมือนไปกินที่ภาคใต้เลยล่ะครับ จานต่อมาเป็น ทอดมันปลาภูเก็ต (Deep-fried phuket fish cake - 140 บาท) จานนี้แอบ Fail ครับ ไม่อร่อย สู้ทอดมันปลา หลาย ๆ ร้านไม่ได้ (เช่นร้าน นิยมโภชนา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นต้น) แต่นี่คงเป็นสไตล์ภาคใต้เค้ามั้งครับ ไม่รู้เหมือนกัน 









ส่วน 2 จานสุดท้ายเป็น ผัดหมี่ฮกเกี้ยนซีฟู้ด (Stir-fried egg noodles with pork or seafood in Phuket Town style - 150 บาท) กับ ไก่ทอดขมิ้น (Deep-fried chicken wings with cumin - 125 บาท) ตัวผัดหมี่ฮกเกี้ยน ค่อนข้างเฉย ๆ สู้แบบไปกินถึงถิ่นภาคใต้ไม่ค่อยได้ ส่วนไก่ทอดนี่ทำมาได้อร่อยดีครับ อร่อยแบบ อร่อยกว่าบางร้านที่เอาเมนูนี่เป็นเมนูแนะนำ หรือบางร้านอีสานที่ควรจะเก่งเรื่องทอดไก่ด้วยซ้ำ เป็นจานที่ผมชอบรองจากผักเหมียงเลย กินเพลินดี ยิ่งได้จิบกับเบียร์นี่น่าจะ fin ครับ

สรุป ร้าน Phuket Town นี่ก็คงเป็นเหมือนร้านไว้เปลี่ยนบรรยากาศสำหรับผมมากกว่าที่จะถ่อไปกินถึงทองหล่อ รสชาติอาหารก็พอไหว แต่แบบร้านจันทน์หอมที่อยู่ใกล้บ้านผมอร่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด และ service, บรรยากาศก็ดีกว่า แต่ก็นะ ใครที่ไปแถวทองหล่อแล้วเบื่อ ๆ กับอาหารญี่ปุ่นและอิตาเลียนที่แทบจะครองย่านไฮไซแห่งนี้ ก็จัดร้านภูเก็ตทาวน์แห่งนี้ก็ไม่เสียหายครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Grand Palace ร้านอาหารจีน Review

Grand Palace - Chinese Restaurant Central Rama IX, Bangkok แกรนด์ พาเลซ ร้านอาหารจีน เซ็นทรัล พระราม 9




Overall Score  6.5/10
Taste   3/5
Ambiance  2/5
Service  2.5/5
Value   4/5


Grand Palace - Chinese Restaurant on BumRes.com



ร้าน Grand Palace เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 7 ของห้างนี้ก็จะคล้าย ๆ กับชั้น 7 ของห้าง Central World ที่จะเป็นชั้นที่รวมร้านอาหารต่าง ๆ มากมายเอาไว้ ผมก็ไม่รู้หลักการเรื่องการ positioning ร้านค้าของห้างเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นคือชั้นกลาง ๆ จะเป็นชั้นพวกเสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย, อุปกรณ์กีฬา ส่วนพวก IT กับ supermarket นี่ก็ค่อนข้างมั่ว ๆ ดูไม่มีหลักการเห็นบางห้างเอา super ไปไว้ชั้นล่างสุด บางห้างไว้ชั้น 7 ไม่ใช่ไรครับ อยากรู้หลักการเหมือนกันว่า ร้านอาหารเนี่ยควรจะวางไว้ที่ชั้นไหนถึงจะเหมาะสมดี เข้าเรื่องต่อ ร้านแกรนด์ พาเลซ นี่ก็เป็นร้านอาหารจีนที่ผมก็ไม่รู้ว่าดังหรือไม่ดัง แต่ร้านนี้ก็มีสาขาอยู่อีก 2 ที่ ที่ถนนมเหสักข์ สีลม สาขานึง และก็สาขาที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานที่ The Crystal Park เลียบทางด่วนรามอินทา ร้านนี้ตั้งชื่อคล้าย ๆ กับร้านอาหารจีนโปรดของผม China Palace - สี่พระยา ก็ไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องทะเลาะกันแล้วแยกวงรึเปล่า ก็สุดแต่จะคาดเดา

อาหารของร้าน Grand Palace ณ เซ็นทรัลพระราม 9 นี่ก็เหมือน ๆ กับอาหารจีนร้านอื่น ๆ ครับ จะแปลกหน่อยก็ตรงที่จะมีติ่มซำให้สั่งค่อนข้างเยอะ (เป็นพิเศษ) และสั่งได้ทั้งวันไม่จำกัดมื้อเที่ยง อาหารประเภทอื่นก็มีครบครัน ๆ อาหารทะเล, อาหารจานเดียว, ข้าว, ก๋วยเตี๋ยว ครบครันจริง ๆ ครับมีอยู่ 100 กว่าอย่าง นอกจากอาหารแบบ a la carte แล้วก็มีอาหาร set โต๊ะจีนอีกหลายแบบ ราคาก็มีตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงเป็นหมื่นตามประสาราคาโต๊ะจีนทั่ว ๆ ไปครับ ก็แปลกดีครับ ร้านอาหารจีนแบบเต็มสตรีมขนาดนี้ในห้างสรรพสินค้า .. ถ้าให้ผมนึกนี่ผมก็นึกไม่ค่อยจะออกเหมือนกันแฮะ ส่วนใหญ่ร้านจีนพวกนี้จะเปิดอยู่เป็นเอกเทศมากกว่าว่ามั้ยครับ?









อาหารในมื้อนี้ก็มี 6 อย่างครับ แต่ละอย่างจะไม่ค่อยแพงเท่าไร เพราะเน้นราคาประหยัด (จริง ๆ เมนูแพง ๆ ของร้านนี้ก็มีครับ เป๋าฮื้อ 8 ตัวกระทะร้อน 5000 บาทอะไรนี่แหละ -*-)  อาหารจานแรกเป็น บะหมี่กุ้งซอสเซี่ยงไฮ้ (130 บาท) คือตัวเส้นบะหมี่แห้งและติดกันเป็นก้อน, กุ้งตัวเล็ก, ผักกวางตุ้งก็ไม่ค่อยสด ดีที่น้ำซอสรสชาติค่อนข้างอร่อย สรุปคือผมว่าถ้าคลุกบะหมี่กับน้ำซอสมาเลย จะทำให้บะหมี่ชามนี้อร่อยขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญเลยล่ะ จานที่ 2 เป็น  เนื้อปลาทอดพริกเกลือ (160 บาท) จานนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ ปลาทอดมาดี เนื้อกรอบนอกนุ่มใน อร่อย แต่ถ้าเพิ่มเจ้าตัวพริกเกลือให้จัดจ้านมากยิ่งขึ้นกว่านี้คงถูกปากผมยิ่งขึ้นไปอีก จานที่ 3 เป็น หมูนิ่มกระเพรากรอบ (85 บาท) จานนี้ดูเป็นอาหารไท๊ย อาหารไทย ไม่รู้มามีอยู่ในเมนูได้ยังไง รสชาติก็อร่อยแบบกระเพรา ๆ ล่ะครับ กินได้เพลิน ๆ เนื้อหมูนิ่มสมชื่อดีด้วย












จานที่ 4 เป็นข้าวราดเนื้อปูผงกะหรี่ (130 บาท) จานนี้ไม่อร่อยเลย มัน fail ๆ ไปหมดทั้งปริมาณเนื้อปูที่แทบจะไม่มีเลย + ข้าวที่ให้มาก็ไม่ร้อน + รสชาติของผงกะหรี่ที่ผัด ๆ มามันก็แหม่ง ๆ ครับ จานที่ 5 เป็นห่อหมกทะเล (85 บาท) จานนี้ก็เป็นจานที่แปลกดี คล้าย ๆ เหมือนเอาผงกะหรี่ไปอบ ๆ ให้ออกมาเป็นห่อหมก รสชาติจะค่อนข้างเผ็ด ๆ หน่อย ก็อร่อยดีครับ (ถูกดีด้วย) ส่วนจานสุดท้ายเป็น หัวปลาต้มเผือก (250 บาท) ที่ผมค่อนข้างชอบ น้ำซุปรสชาติดี ให้หัวปลามาเยอะมาก มีเนื้อปลาเยอะสุด ๆ อีกด้วย กินเพลิน แบ่งใส่ถ้วยหลายทีกว่าจะหมดครับ ชอบ ๆ


สรุป ร้านอาหารจีน Grand Palace นี่ก็เป็นร้านอาหารจีนที่ค่อนข้างจะ standard ร้านนึงล่ะครับ รสชาติอาหารนั้นอยู่ในระดับร้านอาหารจีนทั่ว ๆ ไป ที่หากินได้ทั้งตามห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านแบบภัตตาคารเอกเทศ ผมแอบไปอ่าน ๆ รีวิวที่เว็บอื่น เหมือนกับว่าร้านนี้จะดังเรื่องติ่มซำ อืม .. พลาดล่ะผม ไว้เดี๋ยวจะไปลองติ่มซำที่สาขาต้นตำรับที่สีลมดูบ้างละกันครับ เผื่อว่าจะช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีของผมต่อร้านนี้ขึ้นมาอีกสักหน่อย


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Thursday, June 28, 2012

Ashibi - Japanese Izakaya Restaurant Review

Ashibi - Japanese Izakaya Restaurant Thonglor soi 18, Bangkok อาชิบิ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น ทองหล่อ



Overall Score  9.5/10
Taste   5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3.5/5

Ashibi - Japanese Izakaya Restaurant on BumRes.com



ร้าน Izakaya หรือร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น นี่ผมเพิ่งจะมาตรัสรู้เอาช่วง ๆ นี่แหละครับว่ากรุงเทพนี่มีร้านพวกนี้เยอะจริง ๆ ร้านโปรด ๆ ของผมก็จะมีร้าน Torijiro สุขุมวิท 39 , Nagiya ทองหล่อ 13 และร้านอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หลังจากที่วันนี้ได้มากินร้าน Ashibi ที่ตั้งตัวอยู่ที่บริเวณท้ายซอยทองหล่อ 18 แล้ว ร้านนี้ก็ได้เบียดแซงทุก ๆ ร้านที่ผมเคยกินมาในกรุงเทพขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในทันทีครับ เพราะร้านนี้อาหารเค้าแบบอร่อย, หน้าตาดี บริการก็ดี อาหารก็เร็ว โอย ครบครัน ครับ ครบครัน ร้าน Ashibi นี่แม้ว่าทำเลจะไม่ได้ดีเด่อะไร คืออยู่ค่อนข้างจะนอกรัศมีการเดินทางไปมาของผู้คน ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ได้อยู่ในซอยที่ทะลุไปโน่นมานี่ได้ (ซอยทองหล่อ 18 เป็นซอยตัน) แต่ว่าผมว่าด้วยปัจจัยข้างต้นที่ผมชอบ ทำให้แม้ว่าร้านนี้จะเปิดมาแล้ว 5 ปี ทุก ๆ วันลูกค้าก็ยังคงแน่นเต็มร้านอยู่ไม่เสื่อมคลาย น้องพนักงานบอกว่าร้านนี้มีห้องส่วนตัวอยู่ 9 ห้อง ขนาดใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ราคาค่าห้องเริ่มต้นที่ 500 บาทและส่วนใหญ่ห้องส่วนตัวจะเต็มต้องจองไว้ก่อน รวมถึงร้านนี้มีที่นั่งทั้งแบบสูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่ ยิ่งไปกว่านั้น พอเข้าไปในร้าน เห็นแต่ลูกค้าญี่ปุ่น ไม่เห็นคนไทยเลยสักโต๊ะ (ถามพนักงาน น้องเค้าบอกว่ามีคนไทยมาประมาณสัก 5%) ก็ยิ่งทำให้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในร้านญี่ปุ่นขนานแท้อะไรแบบนั้นเลยล่ะครับ กับร้าน Ashibi แห่งนี้

 อาหารของร้าน Ashibi - ทองหล่อ 18 นี่ ก็จะเหมือน ๆ กับร้าน Izakaya ร้านอื่น ๆ ล่ะครับ มีครบครันหมด กับแกล้ม, ปลาดิบ, ของทอด, ปิ้งย่าง ฯลฯ ครบตำหรับอาหารญี่ปุ่นเลย ราคาอาหารของร้านนี้ดูเมนูแว่บแรกอาจจะรู้สึกว่าแพงไปหน่อยเมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงราคาตอนสุดท้ายที่ไม่มี + vat + service charge แถมถ้าจ่ายเงินสดลดอีก 10% ด้วยแล้ว เผลอ ๆ ราคาอาหารของร้านนี้อาจจะถูกกว่าร้านที่ราคาในเมนูถูกกว่าก็เป็นได้ด้วยซ้ำ รายละเอียดอาหารของร้าน อาชิบิ Ashibi เชิญดูได้ที่ tab menu เลยนะครับ

ก่อนจะเข้าเรื่องรสชาติอาหาร ผมเห็นหลาย ๆ ร้านบางทีจะนำภาชนะที่ไม่ค่อยจะเข้ากันกับอาหารสักเท่าไรมาเสิร์ฟให้ลูกค้า ซึ่งคนที่ไม่พิถีพิถันในเรื่องอาหารก็คงทำกันแบบนั้น แต่ร้านเทพ ๆ แม้แต่ภาชนะก็จะต้องคิดก่อนว่า อาหารออกมาแบบนี้ ควรจะใส่ภาชนะแบบไหนเพื่อให้มันเหมาะสม เพื่อให้คงรสชาติอาหารได้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้ากินอาหารได้อร่อยที่สุด ซึ่งร้าน Ashibi นี่ก็เป็นอย่างหลังครับ ผมรู้สึกภาชนะแต่ละจานนี่แบบเหมือนออกแบบมาให้อาหารอย่างนั้น ๆ โดยเฉพาะเลย อืม เข้าเรื่องรสชาติอาหาร อาหารในมื้อนี้ อร่อยหมดทุกจานครับ บางจานอร่อยจนน่าตกใจด้วย เอาจานที่น่าตกใจก่อนละกัน










 Maguro Zuke (295 บาท) จานนี้ก็เป็นเนื้อปลาทูน่า (มากุโร่) ดิบ ราดมาด้วยซอสอะไรก็ไม่รู้น่าจะเป็นโชยุผสมอะไรสักอย่างและก็มีไข่นกกระทากับมันภูเขา (ยามาอิโมะ) โอย อร่อยมากครับ แต่ละคำที่กินเข้าไปนี่แบบ ปลาสดอร่อยอยู่แล้วมาเจอกรรมวิธีการปรุงที่ช่วยเสริมรสชาติขึ้นไปอีก, อีกจานคือ Uzuku (220 บาท) หรือปลาไหลน้ำจืดเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายและผักอะไรก็ไม่ทราบและปรุงรสมาอีกเล้กน้อย จานนี้ก็อร่อยเว่อร์เช่นกัน อร่อยกว่ากินปลาไหลน้ำจืดทาซีอิ๊วแบบทั่ว ๆ ไปพอตัวเลยล่ะครับ อีกจานที่อร่อยจนน่าตกใจก็คือ ปลาอะไรสักอย่าง (330 บาท) สักอย่างชื่อญี่ปุ่น ๆ 3 พยางค์ ซึ่งแบบ ทางร้าน Ashibi นี่ย่างมาได้อย่าง perfect มาก เนื้อสุกกำลังดี และก็ปลาสดมาก แต่ละคำ ๆ ที่เอาตะเกียบคีบขึ้นมานี่แบบ โอ้โห อร่อยสุด ๆ ชอบครับ คือส่วนใหญ่ผมจะชอบสั่งปลาฮอกเกะย่างไม่ว่าจะไปร้านไหน บางร้านย่างมาได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง แล้วแต่ฝีมือพ่อครัว แต่แบบเจ้าปลานี่ที่ผมว่าเนื้ออร่อยกว่าฮอกเกะ(เล็กน้อย) แล้วมาเจอการย่างที่ close to perfection แบบนี้แล้วด้วยนี่แบบ fin สุด ๆ















ส่วนจานอื่น ๆ ที่อร่อยหมด แต่ไม่ได้ประทับใจผมออกนอกหน้าเหมือน 3 จานแรกก็มี Maguro Pepper Ponzu (395 บาท) ที่มองแว่บแรกแล้วเหมือน beef carpaccio มาก แต่อันนี้จะอร่อยกว่าหน่อยครับเพราะเนื้อที่ทอดมาให้ผิวนอกสุกแต่ด้านในดิบและเอาไปกินกับซอส ponzu และกินพร้อมมะนาวที่ฝานมาด้วยนี่มันแบบ โอว อร่อย  จานต่อมาก็มี Chikuwa Isobeage (160 บาท) ชิกุวะ นี่จริง ๆ ผมก็กินมาเยอะ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ส่วนใหญ่จะกินแบบ รองท้องไม่ได้คาดหวังในรสชาติ แต่ชิกุวะของร้าน Ashibi นี่แบบ เฮ้ย อร่อยเกินกว่าจะเป็นอาหารรองท้องจริง ๆ อีกจานเป็น Nigiru Sushi (A) (1,050 บาท) ซูชิที่ส่วนใหญ่สั่งในร้าน Izakaya นี่ผมจะไม่ค่อยคาดหวังในรสชาติเท่าไร เพราะเมื่อเทียบกับร้านซูชิเฉพาะทางแล้วมันจะสู้ไม่ได้เลย แต่ของร้านอาชิบินี่ก็ทำออกมาได้ดีกว่าร้าน Izakaya อื่น ๆ ครับ เนื้อปลาค่อนข้างให้เยอะ และปลาก็สดดี (แต่ร้าน Sushi เฉพาะทางก็ยังอร่อยกว่าอยู่ดี) ส่วนจานสุดท้ายเป็น Omu Yaki Soba (200 บาท) จานนี้ก็ค่อนข้างธรรมดา ๆ เล็กน้อย รสชาติและหน้าตาคล้าย ๆ ร้านอื่นที่มักจะมีเมนูนี้อยู่เหมือนกัน ก็เหมือนเป็นอาหารกินให้กระเพาะเต็มสำหรับมื้อนี้ครับ

สรุป มื้อนี้ประทับใจมากครับ กับร้าน Ashibi - ทองหล่อ 18 อาหารอร่อย ราคาก็สมเหตุสมผล พนักงานก็บริการดี อาหารก็รวดเร็วดี ไม่แปลกใจที่แม้ว่าผมจะไปวันพุธเย็น ลูกค้าก็ยังคงแน่นเต็มร้านขนาดใหญ่แห่งนี้ได้ ใครสนใจอยากจะลองร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya และอยากจะประทับใจตั้งแต่มื้อแรก ผมแนะนำให้ไปลองร้านนี้กันครับ เพราะตัวผมเอง ขนาดกินเมนูพวกนี้มาเยอะแล้ว ยังติดใจจนถึงตอนเขียน review อยู่นี่เลย อ๊ากกก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...